“ธรรมนัส” งานเข้า “นายกฯลุงตู่” ไม่แฮปปี้ได้คะแนนมากกว่า เย้ยเจ็บ “ถ้าคะแนนเยอะขนาดนี้ มาเป็นนายกฯดีกว่า” คนในพปชร. ซัดทำไม่ถูก พรรคให้คุมคะแนนเสียงโหวต แต่ทำให้ตัวเองมีคะแนนมากกว่าคนอื่น ทำให้นายกฯเสียหน้า เป็นเรื่องไม่สมควร เผยเบื้องหลัง “5 ส.ส.เพื่อชาติ” ยกพรรคช่วย 3 คนโหวตไว้วางใจ อีก 2 งดออกเสียง
จากผลคะแนนลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ปรากฎว่าคะแนนของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข มีคะแนนมากถึง 275 สูงที่สุดในบรรดา 10 รัฐมนตรี ที่ถูกอภิปราย ขณะที่ คะแนนของร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ที่ได้ 274 คะแนน เท่ากับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แต่กลับมีคะแนนมากกว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ที่ได้เพียง 272 เสียง นั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากการลงมติเสร็จสิ้น พล.อ.ประยุทธ์ได้พูดคุยกับรัฐมนตรีหลายคน ถึงผลคะแนนที่ออกมา โดยกล่าวทีเล่นทีจริงว่า “ถ้าร.อ.ธรรมนัสได้คะแนนมากขนาดนี้ มาเป็นนายกฯดีกว่าไหม” ซึ่งได้พูดย้ำอยู่หลายครั้ง และเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ร.อ.ธรรมนัสได้เดินเข้ามาพอดี นายกฯจึงได้พูดกับร.อ.ธรรมนัสว่า “ถ้าคะแนนเยอะขนาดนี้ มาเป็นนายกรัฐมนตรีดีกว่า” พร้อมบอกรัฐมนตรีคนอื่นๆ ด้วยว่า “คะแนนใครจะมากจะน้อยอย่าไปอะไรมาก เดินหน้าทำงานต่อไป”
รายงานข่าวจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แจ้งว่า ส.ส.หลายคนในพรรค พปชร.ไม่สบายใจ มองว่า ร.อ.ธรรมนัสทำไม่ถูกต้อง เนื่องจากพล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้บังคับบัญชา การที่ร.อ.ธรรมนัส เป็นผู้ได้รับมอบหมายให้ดูเรื่องคะแนนเสียงในสภาฯครั้งนี้ แต่ไปดำเนินการให้ตัวเองมีคะแนนมากกว่าคนอื่น เพื่อเอาตัวรอด ไม่ต่างอะไรกับการทำให้นายกฯเสียหน้า เป็นเรื่องที่ไม่สมควร อาจทำให้ผู้ใหญ่ในรัฐบาลรู้สึกไม่ดีกับร.อ.ธรรมนัสหลังจากนี้ ส่วนคะแนนของนายอนุทินที่ได้รับมากที่สุด เชื่อว่านายกรัฐมนตรีเข้าใจว่าเป็นการรวบรวมเสียงของพรรคภูมิใจไทยเอง ที่รวบรวมเสียงส.ส.จากพรรคก้าวไกลเข้ามาสนับสนุน
สำหรับผลลงการลงมติ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ที่ได้คะแนนไว้วางใจ 272 ต่อ 206 งดออกเสียง 3 เสียง พบว่าส.ส.ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านต่างลงคะแนนตามมติพรรคอย่างครบถ้วน ยกเว้นนายอนุมัติ ซูสารอ ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาชาติ จากพรรคฝ่ายค้านเพียงคนเดียว ที่ลงมติไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์ ส่วนคะแนนงดออกเสียง 3 เสียงของพล.อ.ประยุทธ์ได้แก่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ 3 คน ได้แก่ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร, นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี นอกจากนี้ยังมีส.ส.ที่ไม่ปรากฎการลงมติของพล.อ.ประยุทธ์ ได้แก่ นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร, นายเพชร เอกกำลังกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย, พล.ต.ท.วิศณุ ม่วงแพรสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย, น.ส.พรพิมล ธรรมสาร ส.ส. ปทุมธานี พรรคเพื่อไทย นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย และนายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย
ส่วน ร.อ.ธรรมนัส พรมหเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ที่ได้คะแนนไว้วางใจ 274 ต่อ 199 งดออกเสียง 5 ไม่ลงคะแนน 1 ถือเป็นรัฐมนตรีที่ได้เสียงไม่วางใจต่ำสุดในบรรดา 10 รัฐมนตรีนั้น พบว่า เสียงไม่ไว้วางใจส่วนใหญ่ เป็นของพรรคร่วมฝ่ายค้าน อาทิ พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล แต่พบว่า มีส.ส.ฝ่ายค้าน 6 คนลงมติไว้วางใจให้ได้แก่ น.ส.พรพิมล ธรรมสาร ส.ส.ปทุมธานี พรรคเพื่อไทย, นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย, นายอนุมัติ ซูสารอ ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาชาติ ขณะที่ พรรคเพื่อชาติที่มี 5 เสียง ลงมติไว้วางใจ 3 คนได้แก่ นายเพชรวรรต วัฒนพงศิริกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นางลินดา เชิดชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายอารี ไกรนรา ส.ส.บัญชีรายชื่อ ส่วนอีก 2 คน งดออกเสียงได้แก่ น.ส.ปิยะรัชย์ ติยะไพรัช ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ ในส่วนของผู้งดอกเสียงรายอื่นๆ ของร.อ.ธรรมนัส ยังมีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ รวมถึงร.อ.ธรรมนัส ที่ลงมติงดออกเสียงให้ตนเองด้วย นอกจากนี้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ยังลงมติไม่ลงคะแนนร.อ.ธรรมนัส