“เอกนัฏ” นำทีมผู้บริหาร รทสช.ขึ้นรถแห่ขอบคุณประชาชน หลังได้รับความไว้วางใจจากประชาชน พาสมาชิกพรรคเข้าสภา ย้ำ ถือเป็นความสำเร็จของพรรคใหม่ ระบุ ทำงานได้ทุกหน้าที่ กับทุกพรรคที่มีอุดมการณ์เดียวกัน ยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
เมื่อวันที่ 16 พ.ค.66 นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรคนายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ รองหัวหน้าพรรค พ.อ เฟื่องวิชชุ์ อนิรุทธเทวา ผอ.พรรค พร้อมทีมแกนนำและ ผู้สมัคร ส.ส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ขึ้นรถแห่ขอบคุณประชาชนทั่วประเทศที่ร่วมเป็นกำลังใจและลงคะแนนให้กับผู้สมัคร ตัวแทนพรรคในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
โดยก่อนขบวนออกเดินทาง นายเอกนัฏ ได้นำคณะได้สักการะ พระบรมนุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ซึ่งยังคงมีประชาชนผู้สนับสนุนเดินทางมาให้กำลังใจ พร้อมระบุว่า ไม่ว่าพรรครวมไทยสร้างชาติจะได้ทำหน้าที่ในฐานะใด ก็จะยังคงให้การสนับสนุนตลอดไป เพราะเชื่อมั่นใน ผลงานที่ผ่านมาของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ได้ สร้างรากฐานต่างๆ ไว้ให้กับประเทศแล้ว ทั้งยังเชื่อมั่นและชื่นชม ในความซื่อสัตย์สุจริต ของพล.อ.ประยุทธ์ และสมาชิกพรรค พร้อมทั้งให้กำลังใจตัวแทน ของพรรคที่จะเข้าไปทำหน้าที่ในสภาฯ มั่นใจว่าทุกคนจะทำหน้าที่ เป็นตัวแทนของประชาชนทำหน้าที่ต่างๆได้อย่างดีที่สุด
ทั้งนี้จากการประกาศคะแนนอย่างไม่เป็นทางการของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ที่ผ่านมา พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนลงคะแนนความนิยมให้จำนวน 4,667,913 คะแนน ทำให้ได้ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อจำนวน 13 คน และได้ ส.ส.แบบแบ่งเขต จำนวน 23 เขต ขณะที่นายพีระพันธ์ กล่าว ในระหว่างการ แถลงข่าว หลังรับทราบผลอย่างไม่เป็นทางการเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมว่า ขอขอบคุณประชาชนและผู้สนับสนุนทั่วประเทศ ที่ลงคะแนนให้กับ พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ถึงแม้ว่าจะเป็นพรรคใหม่ เพิ่งก่อตั้งและทำงานมาได้เพียง 4-5 เดือน และเพิ่งเข้าสู่การเลือกตั้งเป็นครั้งแรก แต่คะแนนที่ได้รับจากประชาชน ถือเป็น ความสำเร็จของพรรค ที่ได้ทำงานมาอย่างเต็มที่ทุกคนภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สำหรับพรรครวมไทยสร้างชาติ สามารถทำงานได้ทุกหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล โดยมีหลักการทำงาน คือยึดมั่นใน สถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ถ้าหากพรรคใดมีหลักการเดียวกัน ก็สามารถทำงานด้วยกันได้
สำหรับขบวนรถแห่ขอบคุณประชาชนของพรรคร่วมไทยสร้างชาติในวันนี้ ได้นำขบวนรถแห่เคลื่อนที่ไป ตามถนนสายหลักของกรุงเทพฯ โดยเริ่มต้นที่ วงเวียนใหญ่ ไปตาม ถนนต่างๆ ย่านฝั่งธนบุรี ก่อนจะกลับมาฝั่งพระนคร ย่านเมืองเก่า และย่านธุรกิจ สำคัญของกรุงเทพฯ