วันอังคาร, พฤศจิกายน 26, 2024
spot_img
หน้าแรกNEWS‘หญิงหน่อย’ลั่นอยู่ฝ่ายไหนก็ได้ทำเพื่อปชต. ‘ศิธา’ขอทุกฝ่ายคุยกันอย่างมีวุฒิภาวะ
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

‘หญิงหน่อย’ลั่นอยู่ฝ่ายไหนก็ได้ทำเพื่อปชต. ‘ศิธา’ขอทุกฝ่ายคุยกันอย่างมีวุฒิภาวะ

‘หญิงหน่อย’ ลั่นอยู่ฝ่ายไหนก็ได้ทำเพื่อปชต. ไม่ได้กระหายเป็นฝ่ายรัฐบาล ‘ศิธา’ ขอทุกฝ่ายคุยกันอย่างมีวุฒิภาวะ ว่าควรจะให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้าได้หรือยัง

เมื่อวันที่ 18 พ.ค. ที่รร.โอกุระ เพรสทีจ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) กล่าวว่า วันนี้เป็นก้าวแรก ก้าวต่อไปจะมีการจัดตั้งคณะทำงาน ซึ่งต้องมาดูกันในเรื่องนโยบายรวมถึงประเด็นต่างๆ ที่แต่ละพรรคมีในเรื่องนโยบาย และมีจุดยืนในแต่ละเรื่องอย่างไร อะไรเห็นตรงกัน หรือไม่ตรงกัน

เมื่อถามย้ำว่า คุณหญิงสุดารัตน์ รู้จักกับส.ว.บางส่วน ได้มีการบอกหรือไม่ว่า มติของส.ว.ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดคุยอะไรกัน ซึ่งหน้าที่ในการประสานตรงนี้ เป็นของทางพรรคก้าวไกลที่เป็นแกนนำ ในการรับหน้าที่นี้ไปดูแล ถ้าเขามีอะไรให้เราช่วย เราก็คงจะดำเนินการ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้พูดคุยกับใคร แต่ทราบจากแกนนำพรรคก้าวไกลว่าได้มีการประสานส.ว.ไปหลายส่วนแล้ว

เมื่อถามถึงกรณีที่คุณหญิงสุดารัตน์ เคยดูแลกระทรวงมีประชาชนหลายคนมองว่า คุณหญิงสุดารัตน์ เหมาะสมกับตรงนั้น มีการพูดคุยกันเรื่องกระทรวงแล้วหรือยัง คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ยังเลย ตอนนี้สิ่งแรกที่เราต้องทำ และคิดตรงกันคือ การตั้งคณะทำงานขึ้นมาเอานโยบายของแต่ละคน ซึ่งคิกว่าเป็นนโยบายที่ดี และจะมาช่วยกันดูว่า เราจะมาช่วยกันผลักดันตรงนี้ได้อย่างไร ทั้งนี้ ยังไม่มีการพูดถึงเรื่องกระทรวงใดๆ เลย ย้ำว่าสิ่งที่ควรจะเริ่มต้นก่อนคือนโยบาย

เมื่อถามว่า มีการคาดการณ์ว่าจะเกิดเดดล็อกทางการเมือง ไม่ว่ากรณีศาลรัฐธรรมนูญ หรือคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) วินิจฉัย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล หรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ถ้าทำมันก็ทำได้ แต่ตนภาวนาในฐานะที่เราอยู่ในการเมืองมานาน และเราลงพื้นที่มาก เราสงสารประชาชน และเราก็ไม่ได้คิดว่า พรรคไหนจะโดนอะไรอย่างไร ซึ่งเราก็โดนมานาน แต่อะไรก็เกิดได้ ถ้าพูดกันตามตรง แต่อยากจะขอร้องทุกฝ่าย วันนี้ ทั้งส.ว. หรือพรรคการเมืองต่างๆ ประชาชนอยู่ไม่ไหวแล้ว ต้นทุนชีวิตของเขาบางมากแล้ว แทบจะเดินต่อไปไม่ไหวแล้ว ถ้าเกิดเหตุการณ์อะไรที่ไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ หรือเกิดเหตุการณ์ที่ก่อวิกฤตของประเทศ คนที่รับเคราะห์กรรมมากที่สุดคือประชาชน

เมื่อถามว่า หากโหวตครั้งแรกในสภาฯไม่ผ่าน จะต้องมีการโหวตรอบสอง ซึ่งอาจจะมีการปรับเปลี่ยนคนที่อาจจะไม่ใช่นายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ปรับเปลี่ยนเป็นอะไร อย่างไร ก็ต้องดูว่า ถ้าไม่ผ่านต้องปรับเปลี่ยนเป็นอะไร ตนยังคาดเดาไม่ถูก ซึ่งก็ยอมรับว่ามีความไม่แน่นอนในข้างหน้าเยอะ ซึ่งวันนี้เราทำตามสัญญาประชาคมที่ได้ให้กับประชาชนว่า เราจะสนับสนุนพรรคที่ได้เสียงอันดับหนึ่งให้จัดตั้งรัฐบาล หากมีการสลับสับเปลี่ยนกัน ต้องขอดูก่อน ว่าหน้าตาเป็นอย่างไร ซึ่งเราไม่ได้กระหายว่าเราจะเป็นรัฐบาล แต่เราทำอะไรก็ได้ที่มันถูกต้อง จะให้เป็นฝ่ายค้านก็เป็นได้

ด้านน.ต.ศิธา ทิวารี เลขาธิการพรรค ทสท. กล่าวว่า ตอนนี้เป็นนิมิตรหมายอันดี หรือกลิ่นความเจริญ และตนเรียกได้ว่าเป็นทีมของประเทศไทย ซึ่งประชาชนมีฉันทามติ เลือกส.ส.จากหลายพรรคมาเกินกว่า 60% ของสภาฯ เมื่อไปได้แบบนี้ เราต้องการอะไรอีก ตนเชื่อว่าพี่น้องประชาชน รวมถึงนักวิชาการที่เห็นตรงกันหมด ตนคิดว่าตอนนี้ยังมีเวลา ทั้งส.ว. นักการเมือง หรือประชาชน ยังมีโอกาส ที่เราจะมาพูดคุยกันด้วยเหตุผลและมีวุฒิภาวะ ว่าเราควรจะให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้าได้หรือยัง ทั้งนี้ จุดยืนของเราชัดเจนตั้งแต่ต้น ว่าเราสนับสนุนพรรคประชาธิปไตยทุกพรรค และตนก็แสดงให้เห็นว่าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ฉะนั้น เราสนับสนุนทุกคนที่ไม่สนับสนุนเผด็จการ สั้นๆ คือไม่สนับสนุน 2 ลุง แล้วทำให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ เพราะ 9 ปีที่ผ่านมา ตนเข็ดแล้ว ซึ่งเราต้องการให้ฝ่ายประชาธิปไตยสามัคคีกัน และนำพาประเทศไปให้ได้

“จะให้เป็นฝ่ายค้านเราก็เป็นได้ เพราะฝ่ายค้านก็มีประโยชน์ ทำประโยชน์ให้กับฝ่ายประชาธิปไตยได้เหมือนกัน ฉะนั้นให้แกนนำไปดูว่าบุคคลที่เหมาะสมให้อยู่ตรงไหน เราก็ยินดีจะอยู่ตรงนั้น และเราถือว่าพรรคการเมืองตอนนี้ที่อยู่ในฝ่ายประชาธิปไตยหรือฝ่ายค้านเดิม แค่ 2 พรรค เขารวมกันเอง เขาก็เกินพอแล้ว สำหรับระบอบประชาธิปไตยปกติ แต่ทุกวันนี้เขาก็มีน้ำใจ เพราะเขาเห็นว่าเราก็สู้ด้วยกันมา เพื่อที่จะไปสู้กับกฎเกณฑ์ที่บิดเบี้ยวในวันนี้” นายศิธา กล่าว.

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img