สภาฯ ตรึงกำลังเข้มรับมือม็อบ ขณะที ส.ว.ปิดประชุมแห่ชิ่งกลับบ้านเลี่ยงเผชิญหน้า”พิสัณห์” ชม “พิธา” แต่ยังไม่ตัดสินใจเลือก ด้านกลุ่มผู้ชุมนุมทยอยเดินทางมาตามนัด
เมื่อวันที่ 23 พ.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภา ถึงบรรยากาศการเตรียมรับมือกลุ่มผู้ชุมนุมแนวร่วมธรรม ศาสตร์และการชุมนุม ที่นัดเดินทางมาชุมนุมที่รัฐสภาเวลา 17.00น. เพื่ดกดดันให้ส.ว.ลงมติโหวตเลือกนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี ตามฉันทามติประชาชนนั้น โดยทางรัฐสภาได้จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.บางโพ และเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน 3 กองร้อย รวมถึงตำรวจหญิงกระจายกำลังรักษาความปลอดภัยอยู่ตามประตูทางเข้าออกรัฐสภา และอาคารต่างๆพร้อมซักซ้อมแผนเผชิญเหตุตามแผนดูแลรักษาความปลอดภัยทั้งทางบก และทางน้ำ นอกจากนี้ยังมีรถกระจายเสียง รถตำรวจ รถดับเพลิงจอดประจำการอยู่ที่หน้าทางเข้าออกรัฐสภา ส่วนที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยามีเรือตรวจการณ์ของตำรวจน้ำประจำการรักษาความปลอดภัย
ขณะที่ส.ว.ที่มีการประชุมสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณาลงมติการดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ หลังจากที่ประชุมเสร็จสิ้นในเวลา 14.00 น. บรรดาสมาชิกวุฒิสภาต่างรีบเดินทางกลับบ้านทันที เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับกลุ่มผู้ชุมนุมที่จะเดินทางมารวมตัวในช่วงเย็น และเลี่ยงการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน
พล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก ส.ว. กล่าวว่า ได้ดูเอ็มโอยูจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกลแล้ว พบว่าดีทีเดียว ส่วนตัวไม่ติดขัด เพียงแต่ห่วงเรื่องการเสนอแก้ไขมาตรา 112 ถ้าไม่มีกรณีดังกล่าวทุกอย่างน่าจะเป็นไปในทิศทางที่ดี ส่วนที่จะมีการไปยื่นแก้ไขกฎหมายผ่านกลไกรัฐสภาในภายหลังถือเป็นสิทธิส่วนบุคคลของพรรคการเมืองที่จะดำเนินการ แต่การแก้กฎหมาย ไม่สามารถผ่านเองได้ ต้องได้รับความเห็นชอบจากสภาก่อน ส่วนการตัดสินใจจะโหวตเลือกนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ยังเร็วเกินไป ขอให้รอคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับรองผลการเลือกตั้งก่อน ยังเหลือเวลาอีกหลายเดือน รวมถึงกรณีการถูกร้องถือหุ้นสื่อไอทีวี อยากให้เคลียร์ให้จบ
“เชื่อว่าเสียงส.ว.ที่จะโหวตให้นายพิธายังก้ำกึ่ง แต่คุณสมบัติของนายพิธา ถือว่าเก่งมาก เหมาะสมเป็นผู้นำประเทศได้ สถานการณ์เวลานี้ปรับเปลี่ยนได้ตลอด ถ้าตนหากมีข้อมูลครบถ้วนตัดสินใจวันเดียวก็ได้ ยืนยันไม่มีใครมาข่มขู่ส.ว.ได้ ไม่มีประโยชน์ และไม่มีผลต่อส.ว.เลย”พล.ต.ท.พิสัณห์ กล่าว
