‘จุรินทร์’เชื่อกกต.ไม่มีใบสั่ง ต้องทำตามกฎหมาย-เที่ยงธรรม และเมื่อเรื่องถูกส่งไปถึงศาล ศาลทราบภารกิจดีอยู่แล้วว่าจะต้องตัดสินและดำเนินการอย่างไร ขอให้‘ก้าวไกล’ตั้งรัฐบาลสำเร็จ
เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ที่อาคารสาทรซิตี้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และรักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงการที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไม่รับคำร้องกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ถือหุ้นบริษัท ไอทีวี แต่รับเรื่องไว้พิจารณาไต่ส่วน ตามมาตรา 151 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่า (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่งถูกมองว่าอาจมีผลต่อการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี ว่า ตนไม่สามารถตอบได้ว่าจะมีผลต่อการลงมติมากน้อยแค่ไหน แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย สำหรับการเลือกตั้งเป็นผลการตัดสินใจทางการเมืองของประชาชน แต่ทุกคนต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญและกฎหมาย ทั้งนี้ เมื่อกกต.ดำเนินการไปอย่างไร ก็ต้องขึ้นอยู่กับกกต.ว่าจะมีความเห็นอย่างไรในการดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมายได้ ขณะที่กกต.ก็ไม่อยู่ในฐานะที่จะหลีกเลี่ยงบังคับใช้กฎหมายได้ และเมื่อผลเป็นอย่างไรก็ต้องไปสู่ศาล
นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า ส่วนจะเป็นศาลใดนั้นขึ้นอยู่กับประเด็นที่กกต.จะตั้งขึ้น เพราะมีเงื่อนไขบังคับไว้ อาทิ หากเป็นเรื่องของคุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์ลงรับเลือกตั้งส.ส.ว่าจะสามารถลงรับสมัครเลือกตั้งได้หรือไม่ ก็ต้องเป็นศาลฎีกา แต่ถ้าเป็นข้อสงสัยว่าจะขาดคุณสมบัติของความเป็นส.ส.หรือไม่ ก็เป็นเรื่องของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีขั้นตอนกระบวนการกำหนดไว้ชัดเจนแล้ว และทุกคนมีหน้าที่เคารพกฎหมาย เพราะประเทศไทยเป็นนิติรัฐ ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามหลักนิติธรรม ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน เพราะฉะนั้นทั้งหมดต้องรอกลไกที่จะเป็นผู้ดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวถามว่าหมายความว่าจะไม่มีใบสั่งทางการเมือง ตามที่มีกระแสข่าวออกมา ใช่หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ไม่ทราบว่าใบสั่งอะไร และใครจะสั่งได้ ทุกอย่างอยู่ที่กลไกตามกฎหมาย กกต.ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายและมีความเที่ยงธรรมด้วย และเมื่อเรื่องถูกส่งไปถึงศาล ศาลทราบภารกิจดีอยู่แล้วว่าจะต้องตัดสินและดำเนินการอย่างไร
เมื่อถามว่าหากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองกับพรรคที่ได้คะแนนมากที่สุด จะมีการพลิกขั้วตั้งรัฐบาลหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนไม่สามารถตอบล่วงหน้าได้ แต่ขณะนี้ต้องถือว่าพรรคก้าวไกล เป็นแกนตั้งรัฐบาล ก็ขอให้ตั้งสำเร็จ สำหรับตนถือหลักชัดเจนว่าในทางการเมือง หลังการเลือกตั้ง พรรคใดรวมเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรได้ ก็มีสิทธิ์ที่จัดตั้งรัฐบาล ส่วนในทางกฎหมาย ทุกคนมีหน้าที่ปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย ถ้ามีการทำผิดกฎหมาย กลไกที่บังคับใช้กฎหมายมีหน้าที่ที่จะต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย