วันจันทร์, ตุลาคม 7, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlight“พิธา”รู้อยู่แล้วมีขบวนการ“ปลุกผีไอทีวี” ลั่น“ม.151”ไม่เป็นอุปสรรคโหวตนายกฯ
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“พิธา”รู้อยู่แล้วมีขบวนการ“ปลุกผีไอทีวี” ลั่น“ม.151”ไม่เป็นอุปสรรคโหวตนายกฯ

พิธา”ระบุ “รู้อยู่แล้ว”มีขบวนการปลุกผีไอทีวี ลั่นมีข้อมูลมากกว่าที่อยู่ในคลิป ชี้ ม.151 ไม่เป็นอุปสรรคต่อการโหวตเลือกนายกฯ พร้อมรวบรวมข้อมูลสู้คดีตามพยานหลักฐาน-กฎหมาย

เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ที่สมาพันธ์ SME ไทย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคลิปบันทึกการประชุมผู้ถือหุ้นไอทีวี ที่ถูกนำมาเปิดเผยว่า ตามที่ตนได้โพสต์ในโซเชียลมีเดียไปก่อนหน้านี้ว่ามีขบวนการที่จะฟื้นไอทีวีขึ้นมาก่อนที่น.ส.ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ผู้สื่อข่าว 3 มิติ ได้เสนอต่อประชาชน ตรงนี้ก็ต้องตอบสั้นๆ ว่ารู้อยู่แล้ว และมีคนส่งข้อมูลเข้ามาให้เรื่อยๆ มากกว่าที่อยู่ในคลิป เห็นความแตกต่างระหว่างคนที่ทำเอกสารการประชุมกับคลิปก่อนที่จะมีการเปิดเผยต่อสาธารณชน และตอนนี้คณะทำงานกฎหมายของทางพรรคก็ได้ข้อมูลเข้ามาเพิ่มเรื่อยๆ จากผู้ที่อาจเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการเหล่านี้ที่คอยส่งข้อมูลเข้ามา ในส่วนนี้อย่างที่เคยให้สัมภาษณ์ไปแล้วว่าเราคำนึงถึงฉากทัศน์ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งมาตรา 151 ก็ไม่ได้หลุดจากฉากทัศน์ที่เราคิดเอาไว้แล้ว เพราะเคยเกิดขึ้นกับนายธนาธร จึงรุ่งเรือง อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่มาก่อน และอาจจะใช้วิธีใช้ ส.ส.เข้าร่วม เข้าชื่อกันส่งไปศาลรัฐธรรมนูญ หรืออาจจะออกทางศาลฎีกา ศาลอาญา

นายพิธา กล่าวว่า ทั้ง 3 อันนี้คิดว่าใครที่ติดตามการเมืองมาก็พอจะเดาออกว่ามันมี 3-4 ฉากทัศน์ที่มันจะเกิดขึ้นได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมาเรื่อยๆ ก็คือมีข้อมูลส่งมาหลังไมค์มาที่พรรคมากขึ้น เกี่ยวกับความไม่ชอบมาพากลนี้ แต่เราก็ยังไม่ฟันธงอะไร แต่เราก็เก็บและตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลคลิปต่างๆ ว่าถูกต้องหรือไม่ก่อนที่จะใช้อะไร แต่ในขณะเดียวกันก็อย่างที่บอกว่าหลักฐานและหลักกฎหมายพร้อมที่จะสู้ เมื่อเข้าสู่กระบวนการจริงๆ แต่จนถึงขณะนี้ กกต. ก็ยังไม่ได้ติดต่ออะไรมา รวมถึงที่ กกต.บอกว่าอาจจจะตรวจสอบคลิปหรือไม่ ตรงนี้จึงยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องตอบสนองสถานการณ์อะไรมากไปกว่าที่เคยตอบคำถามสื่อมา

เมื่อถามว่า ในการตั้งเรื่องไต่สวนตามมาตรา 151 มีกระบวนการที่จะทำให้นายพิธา หยุดปฏิบัติหน้าที่ก่อนวันโหวตนายกฯ หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ตรงนั้นมันไม่ได้เป็นประเด็นอะไรในการโหวตเลือกนายกฯ ตามที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์ข้อมูลข้อเท็จจริงน่าจะคลาดเคลื่อน ตนจำได้ว่า ตอนที่นายธนาธรหยุดปฏิบัติหน้าที่ นายชัย ชิดชอบ เป็นประธานสภา แต่ตอนที่โหวตเลือกนายกฯ เป็นนายชวน หลีกภัย ไปแล้ว วันที่หยุดปฏิบัติหน้าที่คือวันที่ 23 พ.ค.62 วันโหวตเลือกนายกฯ คือวันที่ 5 มิ.ย.62 ซึ่งก็โหวตนายกฯได้อยู่ดี ดังนั้นที่จากที่ตนอ่านข่าว นายวิษณุระบุว่า โหวตไม่ได้ ข้อเท็จจริงจึงคลาดเคลื่อน มาตรา 151 จึงไม่ได้เป็นอุปสรรคในการเข้าสู่กระบวนการเลือกตนเป็นนายกฯ คนที่ 30 ของประเทศไทย

เมื่อถามว่า กรณีคลิปบันทึกการประชุมผู้ถือหุ้นไอทีวี อาจไม่มีน้ำหนักพอในการลบล้างการถือหุ้นไอทีวีของนายพิธาได้ จะมีแนวทางการต่อสู้คดีอย่างไรบ้าง นายพิธา กล่าวว่า ก็ต่อสู้ในรายละเอียด ในทุกกระบวนความ เวลามีเรื่องเกี่ยวกับหุ้นสื่อขึ้นมา ทั้งตนและสื่อมวลชนก็สามารถเทียบฎีกาดูย้อนหลังได้ว่าเวลาศาลตัดสินไม่ว่าจะจะเป็นศาลอาญา ศาลฎีกา หรือศาลรัฐธรรมนูญ ตัดสินด้วยบรรทัดฐานแบบไหน เราก็คงต้องต่อสู้ในแนวทางแบบนั้น ตนก็ยังมั่นใจในหลักฐาน และมั่นใจในหลักกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเห็นว่ามีความไม่ชอบมาพากลมีความพิรุธในการพยายามที่จะสร้างหลักฐานขึ้นมาด้วย มันก็ยิ่งเพิ่มน้ำหนักให้ตนมั่นใจว่าจะสามารถต่อสู้คดีนี้ได้ในทุกรูปแบบ ในรายละเอียดทุกคนก็คงจะทราบดีอยู่แล้วว่ามันมีเกณฑ์ตัดสินอย่างไรบ้าง เราก็สู้กันตามนั้น

เมื่อถามว่า ในเรื่องการยื่นงบการเงินต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โดยระบุว่าเป็นสื่อโทรทัศน์จะทำให้เพลี่ยงพล้ำในการสู้คดี นายพิธา กล่าวว่า คิดว่าไม่ แต่เดี๋ยวก็คงต้องตรวจสอบดูก่อน ทางตนก็ไล่ดูงบประมาณก็ดี เงินรายได้ และงบการเงิน อะไรหลายๆ อย่างของแต่ละปีมาโดยตลอด ตรงนี้ก็ขอให้เป็นหน้าที่ของคณะทำงานทางกฎหมายที่ดูรายละเอียดพวกนี้อยู่

เมื่อถามว่า ทาง ส.ว.มีการมองว่าหากมีการรับรองนายพิธา เป็น ส.ส. จะมีช่องที่ส.ส.เข้าชื่อยื่นร้องต่อประธานสภาให้ตรวจสอบคุณสมบัติของ ได้มีการเตรียมรับมือเรื่องนี้หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า อันนี้ตอบไปแล้วว่าเป็นฉากทัศน์ที่คิดอยู่ว่าน่าจะเป็นไปได้ในการที่จะสกัดกั้นไม่ให้ตนเข้าสู่ทำเนียบรัฐบาล ก็เห็นว่าพอที่จะมี ในขณะเดียวกันก็ตอบคำถามไปแล้วว่าสกัดกั้นทำให้เป็นแคนดิเดตนายกฯ ของตนหมดไปหรือไม่ ก็ยกตัวอย่างนายธนาธร ตอนที่ถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ก็ยังไม่ได้เลือกประธานสภา พอเลือกประธานสภาแล้วก็มีการเสนอชื่อนายธนาธร ก็มีการโหวตนายธนาธรให้เป็นนายกฯ ได้ ตนก็เป็นคนหนึ่งที่โหวตนายธนาธร ดังนั้นตนจำได้ ถ้าวันที่ไม่ผิดและลองช่วยตนเช็คอีกทีหนึ่งคือวันที่ 23 พ.ค. 2562 โดนหยุดปฏิบัติหน้าที่ 5 มิ.ย. 2562 คือวันโหวตนายกฯ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็แสดงว่ามันไม่ได้มีผลกระทบอะไร ความเป็น ส.ส.กับแคนดิเดตนายกฯ ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน

เมื่อถามว่า หากมีการเข้าชื่อ ส.ส.ที่ผ่านการรับรองไปแล้ว เสนอให้มีการเลื่อนโหวตนายกฯ ออกไป จะเกิดผลกระทบอย่างไรบ้าง นายพิธา กล่าวว่า เรื่องนี้ ก็ต้องไปดูข้อบังคบ ตนยังตอบอะไรไม่ได้ และเพิ่งเคยได้ยินว่ามีแนวคิดแบบนี้ ต้องขอไปดูว่าในความเป็นจริงทำได้มากน้อยแค่ไหน และต้องใช้ ส.ส. กี่คน

เมื่อถามว่า มีความคืบหน้าในเรื่องการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช.อย่างไร นายพิธา กล่าวว่า ก็ต้องทำตามที่กฎหมายอนุญาติและรัดกุมวันสุดท้ายคือวันที่ 18 มิ.ย. ถ้ายื่นด้วยตัวเองคือวันที่ 16 มิ.ย. ก็จะติดช่วงเสาร์-อาทิตย์ แต่ถ้าเป็นทางไปรษณีย์หรืออินเทอร์เน็ตอีก 2 วิธีได้ถึงวันที่ 18 มิ.ย. ตนก็พยายามทำให้รัดกุมและตรงตามกฎหมายทุกอย่างให้มากที่สุด

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img