“ชูวิทย์”ฟันเปรี้ยง “พิธา”เจอศึกหนักต้องฝ่าเครื่องจักรสังหารทางการเมืองอีกหลายชั้น ชี้การเลือกตั้งเป็นเพียงพิธีกรรม” ประชาชนเลือกมามากแต่ไม่ยอมให้ชนะ พร้อมแนะจับตาดีลรักเป็นดีลลวง
เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “เครื่องจักรสังหารการเมือง”ผ่านมาครบ 1 เดือนพอดี กับการเลือกตั้งที่มีการซื้อเสียงมากที่สุดครั้งหนึ่ง และมีผล “พลิก” มากสุดจากนิวโหวตเตอร แม้แต่ใน กทม. ยังมีการซื้อเสียง กกต. ไม่ขยับ แต่กลับสาละวนอยู่กับ “พิธา” เรื่องหุ้นสื่อไอทีวี
กังวลแต่เรื่อง “คุณสมบัติ” ตามกระแสปั่นของนักร้อง เหมือนมีธงตั้งไว้ให้ “ล้มกระดาน” ที่ปลายทางกระบวนการสกัดสารพัดเรียงคิวถล่มพิธา ทั้งซากไอทีวี กงสีมรดก แจ้งบัญชีทรัพย์สิน และสุดท้าย “ด่านอรหันต์ 250 ส.ว. ลากตั้ง”
กระแสโหมกระหน่ำ ปะทะ อำนาจเก่า ที่นั่งชิลมา 9 ปี แพ้เลือกตั้งแต่อยากชนะสงคราม สมการ “ก้าวไกล” เป็นฝ่ายค้านเริ่มขยับทีละก้าว
ยิ่งมีเวลานาน “นิติสงคราม” ยิ่งมีผลยืดเยื้อ หุ้นสื่อแค่ด่านแรก ยังมีรออีกเป็นลูกระนาด เกมเหนือชั้นเฉพาะคนวงในเชิงสูงถึงรู้ทัน คนที่แซะว่า เขากำลังร่วมหอลงโลงมาทำให้โลงแตกไปได้ คนดูก็เออออ เพราะบรรยากาศมันได้ ท่าทีจะรักกันตลอดไป แต่เมื่อบ้านเมืองถึงทางตัน การเมืองถึงมุมอับ อำนาจซ้อนอำนาจจะปรากฎให้เห็นว่า
“การเลือกตั้งเป็นเพียงพิธีกรรม” ประชาชนเลือกมามากแต่ไม่ยอมให้ชนะ ยังต้องฝ่าด่าน “อำนาจนอกการเลือกตั้ง”ตั้งแต่ กกต. ป.ป.ช. ส.ว. ศาลรัฐธรรมนูญ ล้วนมี “เครื่องจักรสังหารการเมือง” ได้ทุกขั้นตอน
บางครั้งความจริงมันเสียดแทงหัวใจ รับกันไม่ได้ก็ก่นด่ากัน อันที่จริงไม่ได้อยากพูดเรื่องนี้ จะไปพูดเรื่องที่เป็นประโยชน์ เพราะข้อมูล “ส่วยน้ำมันเถื่อน” ตกถึงมือผม “ส่วยรถบรรทุก” กลายเป็นเรื่องเด็กๆ ไปเลย
ส่วนเรื่องการเมืองเดี๋ยวหาว่า “ดีลลับ ดีลรัก” แต่แท้จริงเป็น “ดีลลวง”
นี่คือความจริงของประเทศไทยวันนี้