“กลุ่มอาชีวะราชภักดี” บุกสภาฯให้กำลังใจส.ว. ขู่ “ด้อมส้ม” นำมวลชนคุกคาม แตะต้อง สถาบันเมื่อไหร่เจอกันแน่ ลั่นมาด้วยใจ ยืนบนเท้าตัวเอง ไม่เกี่ยวกลุ่มขอเงิน 28 ล้าน
วันที่ 19 มิ.ย.2566 เวลา 14.00 น. ที่รัฐสภา กลุ่มภาคีเครือข่ายต่อต้านการแก้ไขหรือยกเลิกมาตรา 112 จำนวน 20 คน นำโดยนายอัครวุธ ไกรศรีสมบัติ หรือเต้ อาชีวะ ผู้แทนกลุ่มอาชีวะราชภักดี เดินทางเข้ายื่นหนังสือให้กำลังวุฒิสภา ผ่านนายทศพร แย้มวงษ์ รองเลขาธิการวุฒิสภา เพื่อขอเป็นกำลังใจให้สมาชิกวุฒิสภา ตัดสินใจไม่โหวตเลือกนายกรัฐมนตรีจากพรรคการเมืองที่มีนโยบายแก้ไขมาตรา 112 ซึ่งทางกลุ่มฯได้มอบธงชาติไทยให้รองเลขาธิการวุฒิสภา เป็นที่ระลึก เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ และยึดมั่นเป็นอุดมการณ์ในการปกป้อง 3 สถาบันหลักของประเทศ
โดยนายอัครวุธ กล่าวว่า กลุ่มภาคีเครือข่ายต่อต้านการแก้ไขหรือยกเลิกมาตรา 112 มีความเห็นว่า การแก้มาตรา112 ให้มีโทษน้อยลงจะทำให้ผู้ที่ประสงค์ร้ายกระทำการโฆษณาข้อมูลที่เป็นเท็จ ใส่ร้ายป้ายสี หรือ ยุยงปลุกปั่นให้ประชาชนเข้าใจผิดหรือแสดงออกถึงพฤติการณ์ที่ไม่เหมาะสมเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติและประชาชนในที่สุด
กลุ่มภาคีเครือข่ายต่อต้านการแก้ไขยกเลิกมาตรา 112 จึงขอเป็นกำลังใจให้ส.ว. และ ให้ “ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข ” และไม่หวั่นเกรงต่อการคุกคามใดๆ
นายอัครวุธ กล่าวต่อว่า ตนไม่คัดค้านนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แคนดิเดตนายกฯ จะได้เป็นนายกฯ หรือจะโหวตอะไรกัน แต่ตั้งแต่มีการเลือกตั้งแล้วเสร็จจนถึงปัจจุบัน เรายังเจอการคุกคามส.ว.กันอยู่เลย ทั้งที่ส.ว.แต่ละคนมีจุดยืน มีสิทธิของตัวเอง ตนไม่ขัดถ้าส.ว.จะเลือกฝั่งประชาธิปไตยที่เขาคุกคามแบบนี้ ตนอยากให้บ้านเมืองเจริญก้าวหน้า แต่อย่าคุกคามกัน ตนออกมาแสดงพลังว่า ถ้าวันนี้มีการคุกคาม พวกตนก็พร้อมออกมาต่อต้านเช่นกัน ตนไม่กลัวการคุกคามใดๆ ตนพร้อมให้กำลังใจส.ว.
“การมาของพวกผมครั้งนี้ไม่มีการจัดตั้ง และไม่มีการแนบเรื่องขอเงิน 28 ล้านบาท อย่าเอาพวกผมเข้าไปโยงด้วยเพราะเราไม่มีนโยบายใดๆทั้งสิ้นที่จะมาขอเงินไปทำกิจกรรมอะไรก็แล้วแต่ วันนี้หากินเองไม่ได้มาเอาเงินจากใคร ไม่ได้มาขอเงินส.ส. และส.ว. วันนี้พวกผมเดินด้วยส้นตีนตัวเอง และยืนอยู่บนจุดยืนของตนเอง” นายอัครวุธ กล่าว
ด้านนายเสาวภาคย์ นิสัยชล หรือเล็ก ตัวแทนกลุ่ม The Legend Lek’Saowapak กล่าวว่า วันนี้มาให้กำลังใจส.ว. ตนขอฝากวิงวอนไปยังกลุ่มที่ยังกดดันส.ว. ไม่ควรทำ ขณะนี้เข้าสู่กระบวนการประชาธิปไตยแล้ว เพียงแต่ยังไม่มีรัฐบาลหรือนายกรัฐมนตรี ขอให้รอซักนิด อย่าสร้างแรงกดดัน ตนเชื่อว่าส.ว.ทุกคนมีวุฒิภาวะพอ ไม่ขายชาติ มีวิจารณญาณที่จะโหวตเลือกใคร ดังนั้นอย่าสร้างแรงกดดันให้2ฝ่ายมาปะทะกัน ทุกคนถามหาประชาธิปไตย แต่ปัจจุบันเมื่อเป็นประชาธิปไตยแล้วก็จะมาสร้างกดดันกัน นั่นไม่ใช่ระบบประชาธิปไตย ดังนั้นหากมีการคุกคามจนเกินเลยพวกเราทุกคนพร้อมจะออกมา ส่วนเงื่อนไขที่เราจะออกมา สมมติว่าหากนายพิธา ไม่ได้เป็นนายกฯ แต่อยู่ๆเกณฑ์มวลชนมากดดัน หรือลงถนน ถือว่าผิด ไม่ใช่ประชาธิปไตย
“ขอประโยคเดียวอย่าแตะต้องสถาบันพระมหากษัตริย์โดยเด็ดขาด ถ้าไปถึงขั้นนั้นเมื่อไหร่ พวกผมจะออกมาจริงๆ ที่ผ่านมาเราไม่เคยยุ่ง แต่ครั้งนี้ค่อนข้างจะรุนแรงไปแล้ว” นายเสาวภาคย์ กล่าว