วันศุกร์, พฤศจิกายน 29, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlightตำแหน่ง‘ประธานสภาฯ’เป็นของทุกพรรค ต้องแข่งในสภา-‘เฉลิม’ให้ที่ประชุมชี้ขาด
- Advertisment -spot_imgspot_img

ตำแหน่ง‘ประธานสภาฯ’เป็นของทุกพรรค ต้องแข่งในสภา-‘เฉลิม’ให้ที่ประชุมชี้ขาด

“เฉลิม” มาแล้ว! บอกสภาไม่เหงาแน่ ย้ำตำแหน่ง “ปธ.สภาฯ” ต้องผ่านความเห็นของพรรค เตือนประมูขนิติบัญญัติไม่ใช่ของพรรคใด ต้องเป็นของทุกพรรค โยนประชุมสภาฯชี้ขาด เหน็บคนหนุ่มอย่าใจร้อน

เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.66 ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้ารายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการสภาฯ ว่า ขอบคุณประชาชนที่เลือกพรรคเพื่อไทย น้ำใจของประชาชนเท่ากับว่าเผด็จการผ่านไปประชาธิปไตยกลับมา การกลับมาสภาฯอีกครั้งในรอบหลายสิบปีรู้สึกตื่นเต้น การเมืองวันนี้ตนมองว่าแปลก ที่พูดว่าหมดเวลาคนรุ่นเก่าหมดอายุ ถึงเวลาคนรุ่นใหม่ หากคนรุ่นเก่ามีความรู้ดีกว่าคนรุ่นใหม่ จะเอาคนรุ่นใหม่ไปไว้ที่ไหนต้องผสมผสาน อย่าดูแคลน ทุกคนมีจิตสำนึก รักบ้านเมืองเหมือนกัน ไม่ใช่อยู่พรรคนี้รักบ้านเมืองมากกว่ากัน หรือพูดอะไรทัวร์ลง แบบนี้ไม่ใช่ลักษณะของการเมือง เพราะการเมืองต้องมีวิสัยทัศน์

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวถึงตำแหน่งประธานสภาฯยังไม่มีข้อสรุปว่า ตัวแทนเจรจาพรรคเพื่อไทยไม่มีสิทธิตัดสินใจ เมื่อเจรจาแล้วต้องกลับมาถามพรรค ถามส.ส.หรือถามตนว่าเห็นด้วยหรือไม่ ใช่ว่าไปตกลงกัน ขอตำแหน่งเพื่อขอทำกฎหมายของตนเอง ตนมองว่า ไม่ได้ เพราะประธานสภาฯ ต้องเป็นประธานของทุกพรรค ดังนั้นตนยืนยันว่าตัวแทนที่ไปเจรจากันต้องกลับไปที่พรรคก่อน เรื่องมีเท่านี้ อย่าเถียงกันเลย ที่ถามว่าจะโหวตอย่างไร ก็ตอบว่าต้องทำตามมติพรรค แต่ก่อนตัดสินต้องมีการบ้านจากพรรค ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลว่าหากตำแหน่งประธานไม่ลงตัว อาจทำให้การตั้งรัฐบาลยากขึ้น ตนคิดว่าไม่มีรัฐบาลไหนตั้งง่าย ยากทั้งนั้น ไม่ใช่การร้องเพลง ดีด สี ตี เป่า การตั้งรัฐบาลเพิ่งเริ่มต้น การรายงานตัว ส.ส.ยังไม่หมด จะบอกว่าเป็นรัฐบาล มีตำแหน่งนั้นตำแหน่งนี้ ขอให้ใจเย็น คนหนุ่มมักใจร้อน แต่คนแก่ก็คิดเป็น

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง

เมื่อถามถึงกระแสข่าวจะนายสุชาติ ตันเจริญ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ชิงประธานสภาฯ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า “ไม่กล้าพูด เพราะใหม่ไป หากพูดไป จะรู้มากไป ขอให้ประชุมพรรคก่อน”

เมื่อถามว่า มองว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นคนรุ่นใหม่ เหมาะเป็นนายกฯหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า “ผมไม่เคยบอก เพราะอยู่คนละพรรค ผมจะเห็นพรรคอื่นเป็นนายกฯได้อย่างไร ต้องเห็นคนของพรรคเพื่อไทย เล่นการเมืองต้องเล่นให้เป็น ถ้าเห็นพิธาดีกว่า ก็ไม่ใช่เฉลิม อยู่บำรุง”

เมื่อถามถึงสเปคของประธานสภาฯ หากอายุน้อยจะเหมาะหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า อยู่ที่ความชำนาญ ความมั่นคง ทำตัวเป็นกลาง ไม่ใช่ว่ามาจากพรรค ก. ต้องเอาแต่พรรค ก. คนเป็นประธานสภาฯ ต้องเป็นประธานของสภาฯ เห็นให้สัมภาษณ์ว่า บางพรรคได้คะแนนนิยมดี ก็ไม่เถียง แต่ เฉลิมมาแล้ว อะไรไม่ถูกต้อง ไม่มีปราณี ต้องโต้แย้ง

“ประธานสภาฯพรรษาน้อยไม่เป็นปัญหา ถ้าเก่งเป็นได้ แต่อย่าพูดว่า ประธานสภาฯเป็นของพรรคของผม หรือของพรรคไหน แบบนี้ไม่รู้การเมือง เลอะเทอะ ทำให้คนสับสน เขาเป็นประธานของสภาฯ ประธานรัฐสภา เป็นของทุกพรคไม่ใช่ของผม จะเอาแต่พรรคผม การเสนอกฎหมาย คนเดียวกฎหมายก็ไม่ผ่าน ซึ่งที่พูดมานั้นโง่” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว

เมื่อถามถึงแนวทางที่พรรคอันดับหนึ่งได้สิทธิเสนอชื่อประธานสภาฯ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า “เขาตกลงยังไง ไม่ทราบ แต่ต้องแข่งกันในสภาฯ ไม่ใช่พรรคเสนอมาแล้ว เป็นแม่บัวลอย ไม่ใช่ ต้องแข่งกันในสภา”

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง

เมื่อถามถึงความเห็นกรณีที่นายกฯ และประธานสภาฯ เป็นของพรรคเดียว ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนไม่มีความเห็น แต่เรื่องแบบนี้ของง่าย ทำให้ยาก คนไม่ค่อยรู้ชอบอวดดี ถือเด่น พูดจนคนปวดหัว ที่จริงไม่มีอะไรหาก พรรคไหนส่งคนแข่งขัน แล้วสมาชิกเลือก คนนั้นก็ได้เป็น ส่วนจะทำให้เกิดความขัดแย้งหรือไม่ ตนไม่ทราบ ตนไม่ขัดแย้งกับใคร ตนไม่ใส่ใจ เพราะเป็น ส.ส.เหมือนกัน

ร.ต.อ.เฉลิม ยังกล่าวตอนท้ายด้วยว่าการกลับเข้าาสภาฯรอบนี้ สภาฯไม่เหงาแน่นอน แต่จะไม่กลับมาทวงตำแหน่งดาวสภาฯ แต่หากยกให้ ก็ชอบ

เมื่อถามถึงไม่อยากเป็นรัฐนตรีหรือ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า “ผมก็อยากเป็นรัฐมนตรี แต่พรรคให้หรือไม่ไม่รู้ หากไม่ให้ก็เป็นไม่ได้ ส่วนที่มีโผออกมาบอกว่า จะให้ตำแหน่ง รมช.กลาโหม ผมไม่รับ”

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img