“ชัยชนะ” ปิดปากไม่ตอบวางตัว “หัวหน้าปชป.” ยันยังไม่มีการพูดคุย-ทาบทาม “กรณ์” กลับพรรค บอกใครคุณสมบัติพร้อมก็เป็นได้ ขอรอเจ้าตัวเปิดตัวเอง ดักทางคนให้ข่าวปั่นกระแส ลั่น ถ้ารัก ปชป.จริงต้องไม่เอาแต่ผลประโยชน์ตัวเอง-ใส่ร้ายป้ายสีใคร
เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.66 นายชัยชนะ เดชเดโช รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ที่จะมีขึ้นในวันที่ 9 ก.ค.นี้ว่า ตนยืนยันว่ายังไม่มีการทาบทามนายกรณ์ จาติกวณิช อดีตหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า มาเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมฝากถึงผู้ที่ปล่อยข่าวว่ารอบหน้าขอให้มีข้อมูลชัดเจนมากกว่านี้ เนื่องจากการที่เลือกตั้งหัวหน้าพรรคไม่จำเป็นต้องทาบทามใคร คนไหนที่มีคุณสมบัติครบและมีความประสงค์ก็สามารถลงสมัครได้ทุกคน
เมื่อถามว่า ในส่วนของ ส.ส. มีการคุยกันหรือไม่ ว่าใครที่มีความเหมาะสมเป็นหัวหน้าพรรค นายชัยชนะ กล่าวว่า ยังไม่มี ขณะนี้บุคคลที่เป็นข่าวไม่ได้รับคำยืนยันจากเจ้าตัวว่าสนใจที่สมัครจริงหรือไม่ จึงยังไม่มีการพูดคุยในกลุ่ม ส.ส. และช่วงนี้เป็นช่วงที่ ส.ส.ทั้ง 25 คน อยู่ต่างจังหวัดเป็นส่วนใหญ่
เมื่อถามว่า เหลือเวลาเพียง 2 สัปดาห์ ปกติพรรคประชาธิปัตย์ใครจะเป็นหัวหน้า จะต้องมีข่าวออกมาแล้วว่าจะมีชื่อใครบ้าง มีการวางตัวไว้แล้วหรือไม่ นายชัยชนะ ย้ำอีกรอบว่าไม่มี ตนคิดว่าทุกฝ่ายก็รอให้เกิดความชัดเจนจากปากเจ้าตัวว่าใครที่จะลงสมัครเป็นแคนดิเดตหัวหน้าพรรค หลังจากนั้นคงจะมีการพูดคุยกัน
เมื่อถามว่า คนที่สมัครหัวหน้าพรรคจำเป็นต้องเป็น ส.ส. ในปัจจุบันหรือไม่ นายชัยชนะ กล่าวว่า ตนคิดว่าทุกคนที่มีคุณสมบัติครบ ก็สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้หมด ถือเป็นหลักการของพรรค
เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวถึงการพรรคผลักดันนายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา และรักษาการรองหัวหน้านั้น นายชนะ กล่าวว่า ข้อเท็จจริงยังไม่ใช่ทั้งนั้น เจ้าตัวยังไม่มีใครยืนยันสักคนเดียวว่าจะลงสมัคร
“คนที่พยายามให้ข่าวว่ามีการล็อกสเป็ก หรือมีการทาบทามคนโน้นคนนี้ ผมบอกว่าคนที่รักพรรคประชาธิปัตย์จริงๆ วันนี้ต้องให้ข่าวด้านบวกของพรรค อย่าให้ข่าวเพียงแต่หวังแค่เรื่องตัวเอง แบบนี้ไม่ได้ ผมยืนยันว่าวันนี้ถ้าทุกคนบอกว่ารักพรรคประชาธิปัตย์ ก็ต้องช่วยกัน ต้องมีความเป็นเอกภาพ ต้องมีความเป็นหนึ่งเดียวกัน และต้องไม่ใส่ร้ายป้ายสีใคร” นายชัยชนะ กล่าว
เมื่อถามว่า ในสายตาใครสามารถฟื้นฟูพรรคประชาธิปัตย์ได้ นายชัยชนะ กล่าวว่า ตนยังตอบไม่ได้เนื่องจากในวันนี้บุคคลที่บอกว่าลงสมัคร ยังไม่มีใครพร้อมที่จะลงสมัคร ส่วนประเด็นที่สอง ตนคิดว่าการฟื้นฟูพรรคประชาธิปัตย์ได้ พรรคประชาธิปัตย์ต้องรีแบรนด์ตัวเองทุกด้าน ต้องเปลี่ยนแปลงให้เข้ากับยุคปัจจุบัน สิ่งไหนที่ในอดีตมีไว้ก็นำมาปรับปรุงให้เข้ากับยุคปัจจุบัน
เมื่อถามย้ำว่า เหลือเวลาอีกเพียง 2 สัปดาห์ยังไม่เห็นทิศทางใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์ว่าเป็นอย่างไร ไม่ช้าไปหรือไม่ นายชัยชนะ กล่าวว่าในสัปดาห์สุดท้ายคงจะมีรูปร่างว่าใครลงสมัครบ้างและมีรูปแบบอย่างไร เนื่องจากพรรคประชาธิปัตย์เพิ่งกำหนดให้มีการประชุมเลือกตั้งหัวหน้าพรรคเมื่อสัปดาห์นี้ ดังนั้น จะรีบสรุปเป็นไปไม่ได้ ซึ่งการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคครั้งนี้แตกต่างจากทุกรอบ
“ทุกรอบเราไม่ได้ต้องเปลี่ยนแปลงอะไรมากขนาดนี้ แต่ตอนนี้เราต้องยอมรับว่าผลการเลือกตั้งออกมาแล้ว ไม่ใช่แต่พรรคประชาธิปัตย์ ทุกพรรคการเมืองต้องเปลี่ยนแปลงทั้งหมด เพราะฉะนั้น เราเองก็ต้องเปลี่ยนแปลงทั้งหมด ผมคิดว่าคนที่จะสมัครหัวหน้าพรรคหรือคนที่สนใจก็ต้องวางโครงสร้างว่าจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร ผมคิดว่าการที่นำเสนอการเปลี่ยนแปลงของพรรค รูปแบบโครงสร้างของพรรค การบริหารของพรรคในอนาคต และมีแนวทางอย่างไร นี่จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือโหวตเตอร์คนอื่นเป็นองค์ประกอบในการตัดสินใจเลือกตั้งหัวหน้าพรรค” นายชัยชนะกล่าว
ส่วนจุดยืนเกี่ยวกับการโหวตประธานสภาฯและนายกรัฐมนตรี นายชัยชนะ กล่าวว่า ยังไม่มีการพูดคุยกัน เนื่องจากยังไม่ถึงจุดนั้น ตนคิดว่าหลังจากประชุมรัฐสภา ถวายสัตย์ปฏิญาณตน หลังจากนั้นจะมีการหารือว่าจะโหวตให้กับประธานสภาคนใด ส่วนนายกรัฐมนตรี ต้องรอกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ประชุมร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรก่อน
