วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
spot_img
หน้าแรกNEWSบุก“กกต.”ยื่นหลักฐานมัด“พรรคอีแอบ” แบ่งแยกรัฐปาตานี ชี้เป็นภัยความมั่นคง
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

บุก“กกต.”ยื่นหลักฐานมัด“พรรคอีแอบ” แบ่งแยกรัฐปาตานี ชี้เป็นภัยความมั่นคง

ศรีสุวรรณ” บุก “กกต.” ยื่นหลักฐานเพิ่มมัดพรรคอีแอบเบื้องหลังประชามติแบ่งแยกดินแดนปาตานี ชี้พฤติกรรมเป็นภัยความมั่นคงชัด

เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.66 เวลา 10.00 น. นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาจิ รักแผ่นดิน ยื่นหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อนำพยานหลักฐานมามอบให้ กกต.และนายทะเบียนพรรคการเมือง(เพิ่มเติม) เพื่อมัดตัวนักการเมืองและพรรคการเมืองที่เป็นอีแอบคอยให้การสนับสนุนขบวนนักศึกษาที่จัดกิจกรรมเปิดตัวเมื่อ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา ณ มอ.วิทยาเขตปัตตานี อันมีการจัดทำประชามติอันขัดต่อรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ซึ่งตนได้แจ้งความกล่าวโทษไว้ที่กองบัญชาการสอบสวนกลางไว้แล้วนั้น

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า การจัดงานดังกล่าว ไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นสิทธิเสรีภาพทางวิชาการ หากแต่เป็นการทดสอบฝ่ายความมั่นคงและกระบวนการทางกฎหมายของไทยว่าจะมีศักยภาพในการเอาผิดบุคคลและนักการเมืองที่เป็นอีแอบอยู่เบื้องหลังได้หรือไม่เท่านั้น เพราะการจัดเสวนาแต่กลับมีการสอดใส้กิจกรรมการออกเสียงทำประชามติแยกตัวเป็นเอกราชอย่างถูกกฎหมาย มีข้อความว่า “คุณเห็นด้วยกับสิทธิในการกำหนดชะตากรรมตนเองหรือไม่ ที่จะให้ประชาชนปาตานีสามารถออกเสียงประชามติแยกตัวเป็นเอกราชได้อย่างถูกกฎหมาย” และมีการแจกแผ่นพับเอกสารแนะนำตัวองค์กร พร้อมประชาสัมพันธ์ข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิในการกำหนดชะตากรรมตนเอง และมีการเปิดงานมีการอ่านบทกวี สรุปสาระเนื้อหาที่สำคัญ มีใจความพยายามในการปลุกระดมให้ประชาชนชาวมลายูปาตานีอย่าลืมรากเหง้าความเป็นมาและการถูกกดขี่จากอาณาจักรสยาม และพยายามรวมตัวกันมีความเป็นปึกแผ่นสามัคคี เพื่อปกครองตนเองนั่นเอง ซึ่งล่าสุด กอ.รมน.ภาค 4 ได้แจ้งความกล่าวโทษไว้ที่ สภ.เมืองปัตตานีแล้วด้วย

นายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า พฤติการณ์หรือการกระทำดังกล่าว ลำพังขบวนนักศึกษาแห่งชาติไม่อาจทำได้ หากไม่มีนักการเมืองหรือพรรคการเมืองอยู่เบื้องหลัง เพราะเป็นการละเมิดต่อหลักกฏหมายและบูรณภาพแห่งดินแดนที่ได้กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2560 มาตรา 1 ที่บัญญัติไว้ว่า “ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียวจะแบ่งแยกมิได้” ซึ่งความผิดตามรัฐธรรมนูญมีบทลงโทษสำหรับพรรคการเมืองที่เป็นอีแอบอยู่เบื้องหลังเป็นหลัก ตาม ม.92(2)(3) พรป.พรรคการเมือง 2560 หากพิสูจน์ได้ว่ามีคนของพรรคการเมืองมีส่วนเกี่ยวข้องหรือสนับสนุนการดำเนินการดังกล่าว โดยสามารถดูได้ว่าเมื่อตำรวจออกหมายเรียกหรือหมายจับแล้วมีคนของพรรคการเมืองใดเข้าไปประกันตัวผู้ต้องหาหรือจำเลยดังกล่าวออกมา

“พฤติกรรมดังกล่าวถือว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติของแผ่นดิน เราคนไทยทุกคนไม่ควรปล่อยให้มีนักการเมืองหรือพรรคการเมืองใดมีพฤติการณ์หรือกระทำการในลักษณะเยี่ยงนี้ได้อีกต่อไป องค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน จึงต้องเสาะแสวงหาพยานหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง มาชี้ช่องมอบให้ กกต.และนายทะเบียนพรรคการเมือง เพื่อดำเนินการไต่สวนและวินิจฉัยเอาผิดพรรคการเมืองที่เป็นอีแอบอยู่เบื้องหลังโดยเร็ว รวมทั้งแจ้งให้ผู้บริหารพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้องได้ยุติการกระทำดังกล่าวตามกฎหมาย แล้วลงดาบตามมาตรา 92 (2)(3) ของกฎหมายพรรคการเมืองต่อไป”นายศรีสุวรรณ กล่าว

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img