วันอังคาร, ตุลาคม 1, 2024
spot_img
หน้าแรกNEWS“ทนายอั๋น”บุกถามปธ.กกต. หากว่างเชิญคุยปมนักร้อง-ส.ว. ยื่นสอบ “พิธา” เลอะเทอะ
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ทนายอั๋น”บุกถามปธ.กกต. หากว่างเชิญคุยปมนักร้อง-ส.ว. ยื่นสอบ “พิธา” เลอะเทอะ

ทนายอั๋น” บุกถามปธ.กกต. หากว่าง เชิญคุยปมนักร้อง-ส.ว. ยื่นสอบ “พิธา” เลอะเทอะ หวังผลการเมือง สร้างความขัดแย้งสังคม

เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.66 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เวลา 11.00 น. นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น ทนายความจังหวัดบุรีรัมย์ เดินทางมาเพื่อขอเข้าพบประธานกกต. เพื่อหารือถึงแนวทางจัดการพฤติกรรมการร้องเรียนของนักร้องเรียนต่างๆ ตามที่กกต.ได้รับพิจารณาเรื่องร้องเรียนของนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ กรณีมาตรา 151 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการที่ส.ว. ทั้ง 2 ท่านมายื่นอ้างว่าเป็นเอกสารเพิ่มเติมกรณีการถือหุ้นของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้า และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกลนั้น ตนมองว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 113 และวันนี้ตนจะเดินทางไปยื่นต่อประธานวุฒิสภาในช่วงบ่ายวันนี้ เพื่อให้ตรวจสอบพฤติกรรมที่ส.ว.มายื่น โดดมาเล่นเกมนี้เอง เป็นการขัดรัฐธรรมนูญ ทำให้ความเป็นส.ว.อาจจะสิ้นสุดลง

ทนายอั๋น กล่าวต่อว่า การที่นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. และเลขาธิการกกต. มีท่าทีโอบกอด จับมือกัน ถือเป็นพฤติการณ์ที่ไม่อายต่อฟ้าดิน สร้างความสงสัยให้ตนและคนไทยว่า เป็นพวกเดียวกันหรือไม่ ทั้งนี้ยืนยันว่าการร้องเรียนการถือหุ้นสื่อนั้น เป็นเกมการเมือง ดึงเช็งกันไปมาระหว่างส.ว. กับกกต. ดังนั้นจึงหวังว่า การที่ตนขอเข้าพบประธาน กกต. น่าจะเป็นประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นการยับยั้ง หรือหยุดไม่ให้เกิดการแตกแยกในสังคม อยากให้ประธานกกต.กำหนดแนวทาง ว่าจะเอาอย่างไรกับเรื่องร้องเรียน ที่ตนมองว่าไร้สาระ จะปัดตกหรือดำเนินการอย่างไรต่อไป

“วันนี้วันศุกร์ วันราชการ ถ้าประธานกกต.ไม่ได้ไปไหน ไม่ได้ออกพื้นที่ ก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ให้ผม ทนายอั๋น เข้าพบ ไม่จำเป็นต้องมาจับมือผม ไม่จำเป็นต้องมีคนกกต.ระดับผู้บริหารมาโอบกอดผม ผมมาในฐานะประชาชนคนที่เคยร้องเรียนเอาไว้แล้ว ประการสำคัญ ผมทำให้หลักการประชาธิปไตยมีค่าขึ้น” นายภัทรพงศ์ กล่าว

นายภัทรพงศ์ กล่าวว่า คนที่มาร้อง นั้นเป็นคนของพรรคการเมืองที่อยู่ตรงข้ามพรรคก้าวไกล การที่ส.ว.โดดมาเล่นเกมนี้เอง อ้างว่าเป็นหลักฐานเพิ่มเติม มองเป็นอื่นไม่ได้ นอกจากเกมการเมือง ซึ่งทางส.ว. และนายเรืองไกร บังคับให้กกต.ส่งเรื่องไปศาลรัฐธรรมนูญตีความ ซึ่งตนมองว่าไม่เป็นประโยชน์เลย ไม่ต้องตี วันนี้ก็ขอยืนยันจุดเดิมขอให้กกต.ปัดตกเรื่องร้องเรียนเหล่านี้เลย

นอกจากนี้ นายภัทรพงศ์ยังทวงถามกรณีที่เคยยื่นร้องเรียนมาตรา 143 นายเรื่องไกร ตกลงแล้วตอนนี้กกต.ดำเนินการเป็นอย่างไรบ้าง นายเรื่องไกรส่งอะไรมาบ้าง ส่งหลักฐานอันเป็นเท็จหรือไม่นั้น ตอนนี้ตนรอเพียงนายพิธาส่งเอกสาร 2 ส่วน คือ เอกสารที่ศาลสั่งให้นายเป็นผู้จัดการมรดก และเอกสารคำพิพากษาของนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ เอกสารที่บรรดากรรมการบริษัท itv จำกัด (มหาชน) ที่แถลงต่อผู้ถือหุ้น ซึ่งขัดแย้งกับเอกสารที่นายเรื่องไกร และส.ว.นำมายื่นก่อนหน้านี้  หากเอกสารมาถึงแล้วตนจะมาจี้ขอดูเอกสารอีกครั้ง และขอให้กกต.ดำเนินการตามมาตรา 143 ได้เลย

เมื่อถามว่า ควรปล่อยให้กระบวนการตรวจสอบดำเนินการไปตามขั้นตอนหรือไม่ เพราะหากไม่ผิดจริงนายพิธาจะได้เป็นนายกฯ ได้อย่างสง่างาม นายภัทรพงศ์ กล่าวว่า คดีนี้ประกอบด้วย 1.ข้อเท็จจริง 2.ข้อกฎหมาย 3.นัยยะของคำพิพากษาศาลฎีกา ซึ่งเป็นข้อเท็จจริง และโดยข้อเท็จจริงแล้วนายพิธาไม่ได้ถือครองหุ้นสื่อส่วนตัว เป็นเพียงคนถือหุ้นในฐานะเป็นผู้จัดการมรดก ซึ่งหน้าที่ต่างกัน กฎหมายกำหนดชัดเจน ถ้าบอกว่าต้องตรวจสอบให้ชัดเจน เพื่อให้นายพิธาสง่างาม ก็ต้องถามว่าทำไมไม่ทำตั้งแต่ปี 2562 ตนมองเป็นอย่างอื่นไม่ได้ ต้องปัดตกอย่างเดียว.

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img