‘เศรษฐา’ ระบุเป็นสิทธิ ‘ก้าวไกล’ ชิงเปิดตัว ‘ปดิพัทธ์’ นั่งปธ.สภาฯ บอกเลอะเทอะ! ผุดสูตร ‘พท.-พปชร.’ จับมือตั้งรบ.
เมื่อวันที่ 1 ก.ค.66 นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย (พท.) และประธานที่ปรึกษาครอบครัวเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล เดินทางขอบคุณชาวพิษณุโลก พร้อมเปิดตัวนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก ชัดเจนว่าเป็นแคนดิเดตประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่า ถ้าตกลงได้ว่าเป็นของพรรคก้าวไกลก็เป็นสิทธิของนายพิธาและพรรคก้าวไกลที่จะเสนอใครก็ได้ และเข้าใจว่านายพิธาเดินทางไปจ.พิษณุโลก พอดี
เมื่อถามว่า เหมาะสมหรือไม่ที่มีการเปิดตัวขณะที่ยังพูดคุยกันระหว่าง 2 พรรคยังไม่ชัดเจนนั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า ก็ถือเป็นสิทธิของก้าวไกลที่จะให้สาธารณชนรับรู้ว่า จะให้นายปดิพัทธ์เป็นประธานสภาฯ แต่สำหรับพรรค พท. ไม่มีสิทธิที่คิดเปิดตัวแคนดิเดตประธานสภาฯในลักษณะแบบเดียวกัน เพราะคิดว่าการตกลงกันภายในเงียบๆ น่าจะดีกว่า
เมื่อถามว่า พรรค พท. เปิดตัวแคนดิเดตชิงตำแหน่งประธานสภาฯกลับโดนทัวร์ลง ในระหว่างที่พรรคก้าวไกลและพรรค พท. ยังอยู่ในขั้นตอนการเจรจา นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่รู้ว่าทัวร์ลงคืออะไร แล้วแต่จะคิด เราควรเน้นที่จุดมุ่งหมายมากกว่า เพราะเดี๋ยวตำแหน่งประธานสภาฯก็จะชัดเจนแล้ว และเดินหน้าต่อไปในการโหวตเลือกนายกฯ
เมื่อถามย้ำว่า ทั้ง 2 พรรคการเมืองควรหยุดออกมาให้สัมภาษณ์เพื่อลดความขัดแย้งและไม่ให้บานปลายได้หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เราอยู่ในสังคมประชาธิปไตย ก็มีสิทธิเสรีภาพในการพูด เชื่อว่าหลายคนจะทราบว่าเวลาไหนควรพูด เวลาไหนไม่ควรพูด
เมื่อถามว่า ในวันโหวตนายกฯ หากนายพิธาไม่สามารถได้เป็นนายกฯตั้งแต่การโหวตในครั้งแรก จะมีทางออกอย่างไร นายเศรษฐา กล่าวว่า คงมีสิทธิ์เสนอได้อีก แต่ตนไม่แน่ใจ และไม่ทราบกระบวนการทางรัฐสภาว่า จะเสร็จสิ้นภายในเดือนก.ค.หรือไม่ อยากขอให้เป็นไปทีละขั้น และเป็นกำลังใจให้ทุกฝ่าย เดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลจากฝ่ายประชาธิปไตยได้โดยเร็ว เนื่องจากมีเรื่องงบประมาณปี 67 ที่ต้องคำนึงถึงด้วย
เมื่อถามว่า ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าจะลดบทบาททางการเมืองลง เนื่องจากเป็นรัฐบาลรักษาการ นายเศรษฐา กล่าวว่า ถือว่าเหมาะสม เพราะประชาชนก็อยากเห็นแบบนั้น เนื่องจากเป็นรัฐบาลรักษาการ ก็ขอให้เปลี่ยนผ่านไปด้วยดี ไม่มีผิดใจกัน หรือมีประเด็นอะไรเกิดขึ้น หากพล.อ.ประยุทธ์ตัดสินใจลดบทบาททางการเมืองลงจริง ก็จะช่วยลดความเผ็ดร้อนและความรุนแรงลงได้
เมื่อถามว่า ที่มีกระแสข่าวจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) บอกว่านายกฯคนที่ 30 คือพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. เหมาะสมหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เป็นสิทธิของเขา เพราะแต่ละพรรคก็มีแคนดิเดตนายกฯ แต่พรรคก้าวไกลและพรรค พท. อยู่ฝั่งประชาธิปไตย ดังนั้นจะเรียกพรรค พปชร. ว่าอะไรก็เรียกไป แต่การออกมาพูดแบบนี้ก็ต้องมาดูที่คะแนนเสียงด้วย คงเป็นเรื่องของการเมือง และตอนนี้ขอโฟกัสที่เรื่องของการจัดตั้งรัฐบาล
เมื่อถามย้ำว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่พล.อ.ประวิตร จะเป็นนายกฯคนที่ 30 นายเศรษฐา กล่าวว่า ลองนับเลขดู เพราะเลขไม่ได้เป็นหลักล้าน ใช้แค่มือนับก็ได้แล้ว
เมื่อถามอีกว่ามีกระแสข่าวสูตรในการจัดตั้งรัฐบาลที่พรรค พท. จับมือกับพรรค พปชร. นายเศรษฐา กล่าวว่า “เลอะเทอะ ถามกี่ครั้งก็จะตอบว่า เลอะเทอะ”
