‘วิทยา’ ชี้ ‘วันนอร์’ นั่งปธ.สภาฯยังดีกว่า ‘ก้าวไกล’ แจงลงชิงรองปธ.สภาฯ เพื่อสะท้อนอยู่ตรงข้าม ‘ก.ก.’
เมื่อวันที่ 4 ก.ค.66 ที่รัฐสภา นายวิทยา แก้วภราดรัย ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งถูกเสนอชื่อชิงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 โดยได้เสียงที่ออกมาได้ 105 เสียง มีงดออกเสียง 77 เสียง ซึ่งไม่ได้ 188 เสียง ของพรรคร่วมรัฐบาลเดิม มองว่าเป็นเอกภาพหรือไม่ว่า ยังไม่ได้คุยกัน เป็นเรื่องการตัดสินใจของที่ประชุม และผู้เสนอ ซึ่งตัวเลขทำให้เห็นว่าฝ่ายที่เตรียมดำเนินการ แต่พรรครวมไทยสร้างชาติยังไม่ได้หารืออะไรกัน แต่เราหารือกันเพียงว่า อยู่คนละฝั่งกับฝ่ายที่จะเปลี่ยนแปลงบ้านเมือง ซึ่งเป็นแนวทางที่เราไม่เห็นด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า การเสียสละเสนอชื่อนายวิทยามาในครั้งนี้ เป็นการสะท้อนว่าไม่สนับสนุนพรรคก้าวไกลหรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า ท่าทีทางการเมืองของพรรครวมไทยสร้างชาตินั้น ในเมื่อพรรคก้าวไกลต้องตัดสินใจหลายเรื่อง ซึ่งคงความรู้สึกของประชาชนโดยทั่วไป และเป็นทิศทางของพรรรคเราเราก็พร้อมจะยืนตรงกันข้าม
เมื่อถามย้ำว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ใช่หรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า ไม่ใช่แค่เรื่องประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 แต่ยังมีเรื่องแยกดินแดน เปลี่ยนวันชาติ ซึ่งเรารับไม่ได้หลายๆเรื่อง และประชาชนก็รับไม่ได้ เราจึงมีหน้าที่มาสะท้อนแทนประชาชนส่วนหนึ่งซึ่งไม่เห็นด้วยกับพรรคก้าวไกล
ผู้สื่อข่าวถามว่า ต้องการฝากอะไรถึงสมาชิกที่ฟรีโหวต และงดออกเสียงด้วยหรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า ไม่เป็นไร ถือเป็นเรื่องปกติ ตนไม่ได้หารืออะไรจริงจัง เป็นเรื่องของการแสดงท่าทีเพื่อได้บอกให้รู้ว่าตนเองคิดอย่างนี้ พรรคเราคิดอย่างนี้จึงได้แสดงอารมณ์ออกไปอย่างนี้ เพราะฉะนั้นใครเห็นด้วยก็เดินตามมาหรือถ้าไม่เห็นด้วยและยังไม่มั่นใจก็ไม่เป็นไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อตำแหน่งประธานสภาฯ เป็นของนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา แล้วพรรครวมไทยสร้างชาติประเมินว่าการทำงานของรัฐสภาจะเป็นอย่างไร นายวิทยา กล่าวว่า “ในความคิดของผม อาจารย์วันนอร์ก็คือเพื่อไทย เป็นคนของเพื่อไทย เพราะท่านแยกมาจากที่นั่น และผมคิดว่ายังมีความสัมพันธ์อันดีกับเพื่อไทย ดีกว่าก้าวไกล ในความรู้สึกผม ผมเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยได้ชัยชนะเริ่มก้าวที่หนึ่ง ดังนั้นก้าวที่ 2 ที่ 3 ก็พอดูออกกันแล้วว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผมรู้จักอาจารย์วันนอร์มาตั้งแต่อยู่พรรคความหวังใหม่และย้ายไปอยู่เพื่อไทย ผมจึงเข้าใจว่าท่านมีความผูกพันสูงกว่าพรรคก้าวไกลแน่นอน เพราะฉะนั้นมันก็คงเป็นอย่างที่พวกเราคาดการณ์ ดังนั้นจึงพอจะเข้าใจว่าอะไรจะเกิดขึ้น เพื่อไทยไม่ได้ถอยแต่เขาเดินทีละก้าวกินข้าวทีละคำ เดี๋ยวก็หมดจาน”
เมื่อถามว่า ตัวเลข 312 เสียง ที่พรรคก้าวไกลได้นั้น ดูเหมือนฝั่งประชาธิปไตยไม่แตกแถว นายวิทยา กล่าวว่า ตนก็เห็นว่ายังรักษากันดี ขอให้รักษาไปถึงวันโหวตนายกฯ แล้วก็คาดการณ์ดูว่าอะไรจะเกิดขึ้นในวันนั้น ส่วนในวันนั้นจะคง 312 เสียงหรือไม่ ก็อยู่ที่การประคองความรู้สึก ซึ่งตอนนี้ความรู้สึกเริ่มผ่อนคลายลงมาไม่ก้าวร้าว ทีแรกก็จะเอาหมดทุกอย่าง ก้าวเสียไกลเกี่ยงกันเรื่องชามสุดท้ายก็ไม่แยกชาม อาจารย์วันนอร์ก็ชามนึงแล้วต่อไปก็ต้องรู้จักเผื่อแผ่คนอื่น จิตใจไม่คับแคบ มันก็จะอยู่กันได้นาน แต่ถ้าจิตใจคับแคบก็จะเป็นบทเรียนไปเรื่อยๆเป็นธรรมชาติของสรรพสัตว์ในโลกนี้
เมื่อถามว่า การได้รองประธานสภาฯ คนที่ 1 เป็นนายปดิพัทธ์ จากพรรเป็นคก้าวไกล จะทำให้บรรยากาศในการทำงานและขับเคลื่อนกฎหมายดีขึ้นหรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า ตนก็ได้ให้กำลังใจนายปดิพัทธ์ บอกให้เขาใจเย็นๆและเขาก็ได้ขอบคุณ