“ชวน” ปลุกลูกพรรคปชป.ยึดอุดมการณ์สุจริตตั้งแต่รุ่นก่อตั้ง ดักคอร่วมตั้งรัฐบาลกับพรรคเชิดชูคนโกง เบรกต้องเจียมตัวใต้ยังแพ้ “ประยุทธ์” หวังหน.พรรคคนใหม่สร้างความเป็นหนึ่งเดียว
เมื่อวันที่ 6 ก.ค.2566 เวลา 11.00 น.ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงการเลือกหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ในวันที่ 9 ก.ค.นี้ว่า เอาไว้ถามช่วงใกล้ๆ ตนพยายามที่จะหลีกเลี่ยง เพราะเห็นคนชอบพยายามมาออกสื่อและให้สัมภาษณ์ ทำให้มีข้อขัดแย้งโดยไม่จำเป็น ดังนั้นจึงพยายามลดความขัดแย้ง ให้เกียรติทุกคน บางคนพยายามมาสมัครเป็นหัวหน้าพรรค เช่น พันโทหญิงฐิฏา รังสิตพล มานิตกุล สมาชิกพรรค ที่มาหาตนและกรรมการบริการ ที่พรรคฯ หรือหลายคนเขียนจดหมายมาบอกว่าอยากเป็นหัวหน้าพรรค ซึ่งข้อที่ได้เห็นชัดคือประชาชนส่งไลน์มา แสดงความห่วงใย ดังนั้นผู้ที่พร้อมและต้องการสมัครจึงไม่อยากออกมาพูดล่วงหน้า ยกเว้นนายอลงกรณ พลบุตร รักษาการหัวหน้าพรรคฯ ที่แสดงจุดยืนสมัครชัดเจน และเคยลงสมัครมาแล้ว 2 ครั้ง ดังนั้นให้ไปรอดูวันเลือกหัวหน้าพรรคฯ ตนไม่ขอไปล่วงล้ำมากกว่านี้ และไม่ขอกล่าวถึงข้อเสนอเรื่องแก้ไขข้อบังคับพรรคเพื่อให้มีการเลือกหัวหน้าคนใหม่
เมื่อถามว่า ลูกพรรคฯแสดงความเห็นในพื้นที่ส่วนตัว เกี่ยวกับประเด็นเรื่องหัวหน้าพรรค จะยิ่งทำให้เกิดปัญหาหรือไม่นั้น นายชวน กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์มี 25 เสียง บัญชีรายชื่อมีเพียง 3 คนเท่านั้น ควรจะเจียมเนื้อเจียมตัวได้มาโดยคะแนนบริสุทธิ์ 900,000 กว่าเสียงเท่านั้นเอง แม้กระทั่งในพื้นที่ภาคใต้ยังแพ้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ดังนั้นเราต้องประมาณตัวเอง และรู้ตัวว่าคนเลือกเราน้อยแค่ไหน ถ้ารู้สถานการณ์ รู้ความจริงอย่างนี้ ก็ต้องคิดในทางบวกว่าพรรคฯจะต้องได้คนประเภทใดมาแก้ปัญหา
“เหนือสิ่งอื่นใด พรรคประชาธิปัตย์ก่อตั้งมา 77 ปีย่างเข้าสู่ปีที่ 78 ความเชื่อเรื่องเลือกตั้งสุจริต ความเชื่อเรื่องไม่ซื้อเสียง ไม่ควรจะเลือนหายไป แม้ว่าสื่อจะมองเรื่องนี้น้อยลงแล้ว มีคนส่งไลน์มาให้ผม ถึงขั้นสื่อบอกว่า ถ้ามัวแต่คิดไม่โกงไม่กิน ไม่สิ้นชาติ มันหมดยุคแล้ว พูดง่ายๆ ยุคนี้เขาไม่สนใจเรื่องแบบนี้แล้ว ใครชนะเลือกตั้งก็จบ ไม่ต้องสนใจว่าจะซื้อเลือกตั้งมาหรือเลือกตั้งมาสุจริต ถ้าความเชื่อเหล่านี้ยังมีอยู่ประชาธิปไตย 91 ปีที่ผ่านมา เกือบจะพูดได้ว่าเราไม่ได้ไปสู่เป้าหมายของอุดมคติ ฉะนั้นผมคิดว่าเหนือสิ่งอื่นใดพรรคประชาธิปัตย์ ดำรงสิ่งนี้มายาวนานถึง 77 ปี จึงควรจะรักษาไว้อย่างนี้ต่อไป เพราะฉะนั้นผู้นำพรรคฯที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เราก็หวังว่าเขาจะทบทวน เรื่องอุดมคติของพรรค ที่ได้ประกาศไว้ ในอดีต”นายชวน กล่าว
นายชวน กล่าวต่อว่า อยากให้หัวหน้าพรรคคนใหม่ สร้างความเป็นหนึ่งเดียว หลอมรวมและกอบกู้ความเป็น พรรคประชาธิปัตย์ อย่าไปคิดว่าต้องรุ่นนั้นรุ่นนี้ บางเรื่องของใหม่ดีกว่า แต่บางเรื่องของเก่าที่ดีก็ต้องเก็บรักษาไว้ และตนเคยใช้คำว่าประเทศรุ่งเรืองเมื่อบ้านเมืองสุจริต สิ่งเหล่านี้จะเป็นอมตะ แต่ในบางช่วงที่เปลี่ยนแปลง และน่าตกใจเหมือนช่วงที่ผ่านมา เราจะรักษาอะไรไว้หรือเปลี่ยนแปลงอะไร ผู้บริหารชุดใหม่ของพรรคก็ต้องทำต่อไป แต่ชุดใหม่ก็ควรประกอบไปทุกรุ่นทั้งอดีตปัจจุบันและอนาคต อดีตก็มีความดีงามปรากฏไว้ ไม่มีสิ่งดีงามก็อยู่ไม่ได้ถึง 77 ปี ต้องยอมรับว่าพรรคที่เกิดมาพร้อมกัน ล้มหายตายจาก แล้วมีอันเป็นไปกันหมด ถูกยุบ แต่เราอยู่ได้ ทั้งที่ถูกร้องมา 2 ครั้ง และมีการจ่ายสินบนผู้พิพากษา ให้ตั้ง 30 ล้าน แต่ท่านไม่รับ เพราะเป็นคนตรง กรณีเช่นนั้นอย่างน้อยต้องจ่าย 150 ล้านบาท เพื่อผลที่จะยุบหรือไม่ยุบพรรคการเมือง ซึ่งถ้าอยากให้เห็นว่าฝ่ายการเมืองส่วนหนึ่ง มีพฤติกรรมฉ้อฉล ขณะที่อีกฝ่าย พยายามยึดความเที่ยงตรง
เมื่อถามว่า หากในอนาคตพรรคประชาธิปัตย์ไปร่วมตั้งรัฐบาลกับพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้องกับเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่น อนาคตทางการเมืองของนายชวนจะเป็นอย่างไร นายชวน กล่าวว่า ตนก็เป็นห่วง ว่าสมาชิกบางส่วนไม่ค่อยสนใจ เรื่องนี้ อาจจะเป็นเพราะไม่รู้อดีตว่าเป็นอย่างไร ทำให้มองข้ามเรื่องนี้ไป แต่ตนเห็นด้วยว่า ถ้าพรรคตั้งใจ แต่ทุกพรรคก็มีคนดีอยู่ จะไปเหมาทั้งหมดไม่ได้ และหากบางพรรคยังคงยึดมั่นและเชื่อคนโกงอยู่ ไปร่วมก็อันตราย แต่ทั้งนี้ยืนยันว่ายังไม่มีแนวโน้ม ว่าจะเป็นอย่างนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการให้สัมภาษณ์ นายชวนได้หยิบไม้เซลฟี่ ที่มีโทรศัพท์มือถือของสำนักข่าวแห่งหนึ่งที่กำลังไลฟ์สดอยู่ มาถือแล้วกล่าว ขอบคุณ สำหรับ 9 แสนคะแนนเสียงที่ประชาชนมอบให้พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นคะแนนบริสุทธิ์ทำให้ตนได้เข้ามาทำงานในสภาฯอีกครั้ง