วันพุธ, กรกฎาคม 3, 2024
หน้าแรกNEWS‘เศรษฐา’ย้ำ‘เพื่อไทย-ก้าวไกล’ตัวติดกัน ไม่มีสละตัวเองออก
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

‘เศรษฐา’ย้ำ‘เพื่อไทย-ก้าวไกล’ตัวติดกัน ไม่มีสละตัวเองออก

เศรษฐา’ ย้ำ ‘เพื่อไทย-ก้าวไกล’ ตัวติดกันไม่มีสละตัวเองออก มองแง่บวกควรให้โอกาสโหวตดัน ‘พิธา’ นั่งนายกฯหากวืดรอบแรก เชื่อส.ว.หนุนฝ่านด่านถึง 376

เมื่อวันที่ 6 ก.ค. ที่พรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีการเตรียมโหวตเลือกนายกฯที่ท่าทีของส.ว.ก็ชัดเจนว่าไม่สนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกฯพรรคก้าวไกล ว่า ตนไม่แน่ใจว่าชัดเจนขนาดไหน แต่นายพิธาก็บอกว่าน่าจะรวบรวมได้ 376 เสียงก็เป็นกำลังใจให้ และมั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยเราไม่แตกแถว

เมื่อถามว่า มีเสียงออกมาชัดเจนว่าไม่สนับสนุนนายพิธา แต่หากเป็นแคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย ก็พร้อมที่จะสนับสนุน นายเศรษฐา กล่าวว่า ยินดี แต่จริงๆ แล้ว 8 พรรคเราก็มี 312 เสียง ก็ต้องการอีกแค่ 64 เสียง ก็น่าจะผ่านได้ ซึ่งก็ยังมีความหวังและยังมั่นใจ ย้ำว่านายพิธาก็มั่นใจว่าจะได้ 376 เสียง

เมื่อถามว่า ส.ว.ควรที่จะยึดหลักการหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้บอกว่ายึดหลักการที่ใครรวบรวมเสียงข้างมากได้ก็พร้อมที่จะสนับสนุน แต่ขณะนี้ก็มีส.ว.หลายคนออกมาบอกชัดเจนว่ามีเงื่อนไขเรื่องมาตรา 112 ที่ทำให้ไม่สามารถสนับสนุนนายพิธาได้ นายเศรษฐา กล่าวว่า มี ส.ว. หลายคนออกมาให้ความเห็น แต่ก็มีหลายคนที่ยังไม่ออกความเห็น เชื่อว่าวันที่จะมีการโหวตกัน เขาน่าจะทำตามฉันทามติของพี่น้องประชาชน

เมื่อถามว่า มองว่าหากการโหวตเลือกนายกฯ ครั้งแรกไม่ได้ ควรที่จะให้โอกาสอีกครั้งหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตรงนี้ต้องมานั่งดูว่าคะแนนเสียงที่ได้เป็นอย่างไรบ้าง เชื่อว่าหากคะแนนขาดอยู่เล็กน้อย ก็น่าจะมีการให้โอกาสกันบ้าง ส่วนที่หลายคนบอกว่าหากท้ายที่สุดแล้วนายพิธาไม่ได้ แล้วต้องตกมาที่เพื่อไทยนั้น ตนไม่อยากคิดตรงนั้น เพราะเราอยู่พวกเดียวกัน และต้องโหวตให้กันอยู่แล้ว ซึ่งจะไม่เหมาะสมหากตนจะคอมเมนท์ไปในแง่อื่น

เมื่อถามว่า หากพรรคก้าวไกลยังอยู่ในสมการจัดตั้งรัฐบาล ก็จะไม่ได้รับเสียงที่เพียงพอจาก ส.ว. มองว่ามีโอกาสที่พรรคก้าวไกลจะยอมสละตัวเองออกจากพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อให้การจัดตั้งรัฐบาลเดินหน้าต่อได้หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่มีการคุยเรื่องที่ก้าวไกลจะสละตัวเองออก เราตัวติดกัน เรามาจากฝ่ายประชาธิปไตย และ 8 พรรคก็เซ็นเอ็มโอยูเรียบร้อยแล้ว ส่วนประเด็นที่บอกว่าเราจะแยกจากกัน ตนไม่เคยได้ยิน

เมื่อถามย้ำว่า ส.ว.ก็บอกว่าพร้อมจะสนับสนุนพรรคเพื่อไทย ภายใต้เงื่อนไขที่พรรคก้าวไกลต้องถอยออกจากพรรคร่วมรัฐบาล นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนเข้าใจว่าเป็นความเห็นของ ส.ว. ท่านเดียวที่พูดมา ตนยังมั่นใจว่า ส.ว. ส่วนใหญ่คงน่าจะให้การสนับสนุนเสียงที่มาจากพี่น้องประชาชน

ถามอีกว่า ส.ว. ส่วนใหญ่ก็ได้ส่งสัญญาณมาแล้วว่าจากที่เคยจะโหวตให้นายพิธา ตอนนี้ก็เริ่มลดลง ถือว่าจะเป็นโอกาสดีให้พรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายเศรษฐา ย้อนถามกลับว่า “โอกาสดีคืออะไร” เมื่อถามต่อว่า ส.ว.เห็นว่ามีมาตรา 112 และในเอ็มโอยูที่ออกมาพรรคเพื่อไทยก็ประกาศชัดเจนว่าจะไม่แตะมาตรา 112 นายเศรษฐา กล่าวว่า “ผมว่าก็ต้องปฏิบัติตามเอ็มโอยู”

เมื่อถามว่า หากการโหวตครั้งแรกไม่ผ่าน ก็ต้องมีครั้งที่ 2 มองว่าต้องมีครั้งที่ 3 ครั้งที่ 4 หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า อย่าเพิ่งไปไกลขนาดนั้นเลย ไปทีละสเต็ปดีกว่า อย่างที่บอกว่าเรามาจากฝ่ายประชาธิปไตย และเราเองก็คุยกันรู้เรื่อง การโหวตประธานสภาฯ ก็ผ่านไปได้ด้วยดี การโหวตเลือกนายกฯ ก็หวังว่าจะจบได้ด้วยดี

เมื่อถามถึงกรณีที่นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ในฐานะว่าที่รองประธานสภาฯคนที่สอง ออกมาให้ความเห็นว่าหากโหวตนายกฯ ครั้งแรกไม่ผ่าน จะมีการโหวตนายกฯ ครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3 ใหม่ ในวันที่ 19 และ 20 ก.ค. นายเศรษฐา กล่าวว่า เป็นความเห็นของนายพิเชษฐ์ และการกำหนดวันประชุมเป็นหน้าที่ของประธานสภาฯ และเป็นหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ ตนไม่ไปก้าวล่วงตรงนี้

เมื่อถามย้ำว่า พรรคก้าวไกลควรลดเพดานเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 ลงเพื่อให้ได้เสียงสนับสสนุนจากส.ว.หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ทุกอย่างเราทำตามเอ็มโอยูที่เซ็นไป ส่วนการจะแก้ไขเอ็มโอยูได้หรือไม่นั้น ตนคิดว่า ณ จุดนี้คงไม่สามารถแก้ไขได้เพราะเซ็นกันไปแล้ว

เมื่อถามอีกว่า จะจับมือกับพรรคก้าวไกลตลอดไปใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า “ก็จับมือครับ และวันนี้ก็ยังจับมือกันอยู่ ไม่ได้มีอะไรผิดใจกัน และยังมีการประชุมกันอยู่อย่างต่อเนื่อง”

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img