วันเสาร์, มิถุนายน 29, 2024
หน้าแรกHighlight“ชัยธวัช”มั่นใจโหวตนายกฯผ่านด้วยดี “พิธา”เล็งเดินสายทำความเข้าใจสังคม
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ชัยธวัช”มั่นใจโหวตนายกฯผ่านด้วยดี “พิธา”เล็งเดินสายทำความเข้าใจสังคม

ชัยธวัช”ระบุท่าทีส.ว.อาจไม่ใช่สิ่งที่เห็น มั่นใจโหวตนายกฯ ผ่านไปด้วยดี  เผย “พิธา”เล็งเดินสายทำความเข้าใจสังคม-ส.ว.ด้วย เตรียมหารือ “วันนอร์” ให้แคนดิเดตนายกฯโชว์วิสัยทัศน์ก่อนลงคะแนน

เมื่อวันที่ 7 ก.ค. ที่รัฐสภา นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวถึงท่าทีของ ส.ว. ทีจะไม่โหวตให้ นายพิธา  ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี จากประเด็นมาตรา 112 ว่า เป็นแค่ความเห็นของ ส.ว.บางคน แต่ส.ว.ส่วนใหญ่ยังไม่แสดงออกเกี่ยวกับมาตรา 112 คิดว่าจะแสดงออกกันในวันโหวตเลือกนายกฯ ขออย่าเพิ่งประเมินสถานการณ์จากสิ่งที่เห็น เพราะสิ่งที่เป็นอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เห็นก็ได้ อีกครั้งยังมั่นใจว่าการที่ไปเจรจากับส.ว. จะทำให้ผ่านไปได้ด้วยดี และมั่นใจในวิจารณญาณของ ส.ว. ส่วนใหญ่ ว่าอยากเห็นประเทศชาติเดินหน้าอย่างไร และการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญที่ประชาชนได้แสดงออกว่าต้องการคืนความปกติให้กับระบอบประชาธิปไตยของไทย ซึ่งตนยังเชื่อมั่นในส.ว.จำนวนมากที่จะให้โอกาสนี้กับประเทศไทย 

เมื่อถามว่า มั่นใจว่ามั่นใจอีก60 กว่าเสียงจะได้จากทั้งหมด หรือจะได้มาจากเสียง ส.ส.พรรคเสียงข้างน้อยด้วย นายชัยธวัช กล่าวว่า ก็เป็นสิทธิของแต่ละคน เพราะเราไม่ได้ชวนมาจัดตั้งรัฐบาล แต่จะมี ส.ส.หลายคนใช้จุดยืนของตัวเอง ใช้สถานะผู้แทนของตัวเองปกป้องระบบไว้ให้ได้ ในสถานการณ์เปลี่ยนผ่านที่สำคัญ ส่วนจะมีการถอยบางเรื่องหรือไม่ เพื่อให้นายพิธาได้เป็นนายกฯ นายชัยธวัช กล่าวว่า จะเน้นเรื่องการพูดคุยและทำความเข้าใจ เพราะส่วนใหญ่ส.ว.จะรับรู้ข้อมูลจากสื่อมวลชนแบบสั้นๆ ซึ่งอาจไม่ตรงกับข้อเท็จจริง 

เมื่อถามย้ำว่า จะไม่ลดเพดาน เรื่องแก้ไขมตรา 112 ตามที่ส.ว. แนะนำใช่หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่าเพดานที่ส.ว.ต้องการหมายถึงอะไร แต่ที่ผ่านมาพยายามอธิบายตลอดเวลาว่าเจตนารมณ์ ของก้าวไกลเป็นอย่างไร มองเห็นปัญหาอย่างไร ซึ่งการทำของเราแบบนี้ดีต่อแนวทางประชาธิปไตย และดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์มากกว่า 

เมื่อถามย้ำว่า ยังยืนยันที่จะแก้ไขมาตรา 112 ใช่หรือไม่ แม้จะมีการทักท้วงจาก ส.ว. นายชัยธวัช ยังมั่นใจว่าถ้าได้อธิบายเหตุผล ส.ว. ก็จะมีความเข้าใจมากขึ้น ซึ่งต้องทำให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในเวลาที่เหลือ ซึ่งในสัปดาห์หน้านายพิธาและแกนนำพรรคก้าวไกล จะไปพูดคุยกับสังคมและประชาชน ซึ่งจะได้สะท้อนผ่านไปยัง ส.ว.ด้วย แต่วันนี้จะมีการหารือกับ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เรื่องการแสดงวิสัยทัศน์ของแคนดิเดตนายกฯ ที่ถูกเสนอชื่อ ว่าก่อนโหวตควรจะมีเวลาและกระบวนการแสดงวิสัยทัศน์อย่างไร และเป็นไปได้หรือไม่ที่จะเปิดโอกาสให้สมาชิกรัฐสภาได้อภิปรายหรือซักถามอย่างเต็มที่ เพื่อให้โอกาสแคนดิเดตนายกฯ ทุกคนที่ถูกเสนอรายชื่อขึ้นมา ได้ตอบคำถาม เพื่อให้เกิดความชัดเจนก่อนลงมติ 

ส่วนที่มีการวิเคราะห์กันว่าการโหวตเลือกนายกฯ ครั้งแรก นายพิธาอาจจะไม่ผ่านนั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า สิ่งที่เป็นอาจไม่ใช่สิ่งที่เห็น ซึ่งหากวันที่ 13 ก.ค. ยังไม่ผ่านการคัดเลือกก็อาจต้องเสนอชื่อซ้ำในวันที่ 19 ก.ค. โดยจะไม่มีการเสนอครั้งเดียวแน่นอน แต่ก็ยังเชื่อว่าน่าจะจบในครั้งเดียว อีกทั้งไม่กังวลหากจะมีการเสนอรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคการเมืองอื่นขึ้นมาแข่ง เพราะถือเป็นเรื่องปกติในระบบรัฐสภา ที่ฝั่งเสียงข้างน้อยจะเสนอขึ้นมา ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ  ขณะเดียวกันก็ไม่เชื่อว่าส.ว.จะสนับสนุนรัฐบาลเสียงข้างน้อย พร้อมขออย่าพึ่งสรุปว่าต้องโหวตกี่ครั้งถึงจะได้นายกฯ โดยขอให้ดูจากสถานการณ์ที่เป็นจริง เพราะมีหลายปัจจัย และอย่าพึ่งตัดว่าจะจบในครั้งเดียว 

เมื่อถามว่าก่อนการโหวตเลือกนายกฯ จะเปิดให้สมาชิกรัฐสภาได้มีการสอบถามข้อสงสัยต่างๆเกี่ยวกับนายพิธาหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า สิ่งนี้ยังไม่ใช่ข้อสรุป แต่เป็นสิ่งที่ตนเตรียมหารือกับประธานสภาฯ ว่าเป็นไปได้หรือไม่ เพราะจะดีกับทุกฝ่าย 

เมื่อถามว่าพรรคก้าวไกลจะยอมให้แคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย เป็นนายกฯ หรือไม่ นายชัยธวัช  กล่าวยืนยันว่าแคนดิเดตนายกฯ ยังมีคนเดียว อย่าพูดไปถึงตอนนั้น ขณะเดียวกันตอนนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะได้เสียงส.ว.มาโหวตอีกหรือไม่ เพราะส.ว.ส่วนใหญ่ยังไม่ได้ออกมาพูดความเห็นของตัวเอง มีเพียงส่วนน้อยที่ออกมาให้ความเห็น แต่ก็เชื่อมั่นว่าเสียงส.ว. ที่ยังเงียบอยู่ จะเป็นเสียงที่เปิดโอกาสคืนความปกติให้กับระบบการเมืองไทยให้เดินหน้าไปด้วยกัน 

เมื่อถามว่า ส.ว.สายทหาร จะไม่มีการโหวตให้นายพิธานั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า อย่าเพิ่งดูถูกอาชีพทหาร เพราะทหารจำนวนมากมีความหวังดีต่อประเทศชาติ ซึ่งตนได้มีโอกาสไปพูดคุยและอธิบายเหตุผลให้ได้รับฟัง ซึ่งทำทุกวัน ทั้งทหาร พลเรือน ตำรวจ และข้าราชการ ทำเต็มที่ที่สุดจนถึงวันสุดท้าย โดยยืนยันว่ายังมีแสงสว่างในเรื่องนี้ ชีวิตต้องมีความหวัง 

ส่วนที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะออกมากดดันในการโหวตเลือกนายกฯ เป็นห่วงหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า อย่าเพิ่งบอกว่ามาสนับสนุนพรรคก้าวไกล จากที่ตนเห็นแคมเปญ respect my vote คงเป็นการแสดงเจตจำนงของประชาชนที่ลงคะแนนเสียง ว่าให้เคารพผลเลือกตั้งและคะแนนเสียงของประชาชนเป็นสำคัญ คือต้องการให้ทุกฝ่ายปกป้องระบบที่ควรจะเป็น ไม่ใช่ปกป้องตัวบุคคลใดหรือพรรคการเมืองใด และไม่ทราบว่าจะมีกลุ่มใดออกมาทำอะไรบ้าง แต่การออกมาแสดงความเห็นทางการเมืองก็ไม่อยากให้มีความรุนแรง ซึ่งนายวันมูหะมัดนอร์ ได้กำชับเจ้าหน้าที่ในการรักษาความปลอดภัย ก็น่าจะเป็นไปในทิศทางที่ดี เพราะประธานสภาได้ให้นโยบายไว้พอสมควร 

เมื่อถามว่า หากนายพิธาไม่ได้รับเลือกให้เป็นนายกฯ ถึง 2 ครั้ง การแสดงความเห็นของผู้สนับสนุนในโลกโซเชียล ซึ่งจะน่ากลัวกว่าการลงถนนหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ตนตอบแทนประชาชนทั้งหมดไม่ได้ และอย่าเพิ่งไปคิด แต่อยากให้มองว่าอาจได้เฉลิมฉลองกันในช่วงเย็นวันที่ 13 ก.ค. พร้อมยอมรับว่าหากมีการโหวตเลือกนายกฯ เนิ่นนานเกินไป อาจส่งผลต่อการจัดตั้งรัฐบาลและครม. ที่ล่าช้า เพราะจะมีการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ ในช่วงเดือนก.ย.-ต.ค. และการพิจารณางบประมาณ ปี 67 รวมถึงนโยบายเร่งด่วน อาทิ ภัยแล้ง เศรษฐกิจที่นักลงทุนชะลอการลงทุน เพราะรอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับการเมืองไทย ซึ่งจะกระทบไปหมด ดังนั้นถ้าเรื่องจบเร็วเท่าไรก็ยิ่งดี และเป็นการจบแบบเคารพผลการเลือกตั้ง ซึ่งจะทำให้การเมืองไทยมีเสถียรภาพ เมื่อถามว่าหากไม่มีประเด็นเรื่องมาตรา 112 ยังจะมีเงื่อนไขอื่นเพื่อที่จะไม่เลือกนายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่  นายชัยธวัช กล่าวว่า “ คนไม่เลือกมันก็ไม่เลือก ทำอะไรมันก็ผิด” 

นายชัยธวัช ยังกล่าวถึงกรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา ที่เรียกตัวเองว่า “ประชาชนผู้รักชาติรักแผ่นดิน” ร้อง ป.ป.ช.ขอให้สอบจริยธรรม น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ว่าได้มีการกล่าวปฏิญาณตน ก่อนปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. หรือไม่ ว่าวันดังกล่าวตนยืนอยู่แถวเดียวกับน.ส.ศิริกัญญา ซึ่งน.ส.ศิริกัญญามีการปฏิญาณตนตามปกติ แต่อาจมี บางช่วงที่หันไปคุยกับนายพิธา ซึ่งตนมองว่าไม่น่าจะเป็นสาระอะไร แต่การปฏิญาณตนไม่ตรงตามรัฐธรรมนูญ สำคัญกว่าและเรื่องใหญ่กว่า แต่ไม่ทราบว่านักร้องหายไปไหน ซึ่งหากจำกันได้เมื่อปี 2562 มีการปฏิญาณตนไม่ตรงตามรัฐธรรมนูญชัดเจนมาก  

เมื่อถามว่าเรื่องนี้จะเป็นอุปสรรคต่อการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า กระบวนการปฏิญาณตนในสภาผู้แทนราษฎรไม่เกี่ยวกับสถาบัน เป็นการปฏิญาณตนของ ส.ส.ต่อสภา และรัฐธรรมนูญ และ น.ส. ศิริกัญญาได้ปฏิญาณตนเรียบร้อยแล้วเพราะยืนข้างกัน แต่เรื่องที่จะเป็นประเด็นยังไม่ได้มีการสอบถามน.ส.ศิริกัญญา เพราะคิดว่าไม่ได้เป็นสาระสำคัญ แต่เข้าใจว่าขณะนั้น สมาชิกต้องพูดตามประธานทีละประโยค แต่ไม่ทราบว่าเกิดอะไร เมื่อพูดชื่อเสร็จก็มีการปฏิญาณตนต่อโดยไม่รอประธาน  ทำให้ น.ส.ศิริกัญญาหันไปคุยกับนายพิธาว่าเหตุใดไม่รอประธาน ทั้งนี้ มั่นใจว่าเรื่องนี้จะไม่เป็นประเด็นทางข้อกฎหมาย เพราะได้ปฏิญาณตนเรียบร้อย ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่ปฏิญาณตน ไม่ใช้ข้อความตามรัฐธรรมนูญที่เรื่องใหญ่กว่าก็ยังปล่อยผ่านกันได้  

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img