“กูรูไพศาลรายวัน” แนะจับตาแผน “รอนกหลอกสวรรค์” หลอกสิงโตให้ทิ้งพวก ลงมาอยู่ในบึงน้ำกับจระเข้ ได้หรือไม่ ชี้ถ้าสิงโตไม่แหกพวกลงบึงน้ำให้จระเข้งาบคอ จะได้รัฐบาลใหม่สูตร1 ในวันที่ 13 ก.ค. นี้
เมื่อวันที่ 8 ก.ค.66 นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย ได้โพสต์ข้อความระบุว่า อัพเดทการเมือง 8 ก.ค.66
1.มีพระบรมราชโองการแต่งตั้งประธานและรองประธานสภาเรียบร้อยแล้ว ต่อไปคือการประชุมรัฐสภาเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีและคาดว่า คณะรัฐมนตรีชุดใหม่จะเป็นเจ้าภาพถวายการต้อนรับในหลวงและสมเด็จพระนางเจ้า ซึ่งจะเสด็จไปร่วมงานสโมสรสันนิบาต เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ทำเนียบรัฐบาล
โดย “รัฐบาลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” จะได้เชิญชวนประชาชนและ “เยาวชนทั่วประเทศ” ร่วมกันถวายพระพรและถวายความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์อย่างพร้อมหน้าพร้อมตากัน*
2.แม้ว่าจะมีการร้องเรียนให้สอยนายพิธาและพรรคก้าวไกลกว่า 20 คดี ในระยะเวลาแค่เดือนเศษหลังทราบผลเลือกตั้ง แต่คดีทั้งหมดนั้นถูกสั่งยกราบเรียบ และกกต. ก็รับรองผลเลือกตั้ง โดยไม่ยึดไทม์ไลน์ที่มีการรายงานต่อคณะรัฐมนตรี เป็นสัญญาณปิดฉากขบวนการตุลาการภิวัฒน์ไปแล้ว ต้องรีบเก็บฉากนี้ได้แล้ว
3.แผนการจัดตั้งรัฐบาลงูเห่าเสียงข้างน้อยล้มไปแล้ว เพราะถูกต่อต้านจากทุกวงการทั่วประเทศ และจะเป็นเหตุจลาจลใหญ่ยิ่งกว่าฝรั่งเศส
ความเคลื่อนไหวล่าสุดจึงเป็นแผน “รอนกตกสวรรค์” โดยวิธี “หลอกสิงโตให้ทิ้งพวกลงมาอยู่ในบึงน้ำกับจระเข้”
ต้องจับตาดูว่าสิงโตจะหน้าโง่ ลืมความหลังที่ถูกย่ำยีเหยียดหยามจนไม่มีแผ่นดินอยู่และถูกไล่ล่ายึดทรัพย์เป็นเวลาถึง 18 ปี หรือไม่?
ถ้าสิงโตไม่แหกพวกลงบึงน้ำให้จระเข้งาบคอ ก็จะได้รัฐบาลใหม่สูตร 1 ในวันที่ 13 นี้ ที่พรรคเพื่อไทยจะเป็นผู้คุมดุลอำนาจและปิดฉากการเมืองอีกฉากหนึ่ง
เข้าสู่ยุครุ่งอรุณของการ “ก้าวข้ามความขัดแย้ง เดินหน้าประเทศไทยเพื่อประเทศชาติ และประชาชนต่อไป”
4.อาการพล่านของ ส.ว. สายแป๊ะ 2-3 คน และสายเขียว 4-5 คน ดูประหนึ่งว่า กระชับเสียง ส.ว.ได้ แต่กลับเผยความจริงของอาการพล่านด้วยความตกใจ เพราะเริ่มคุมกันไม่ติด ยิ่งนักวิชาเกินบางคนออกมาใช้กระบี่อิงฟ้าขู่ถอดยศ ริบเครื่องราช ส.ว. ที่โหวตให้นายพิธา ก็ยิ่งเลยลงกาไปไกลแสน ทำให้เห็นอันตรายของการแอบอ้าง และสร้างศัตรูให้กับสถาบันมากขึ้นทุกวัน***
5.ความขัดแย้งในสมาคมฟุตบอลที่งัดข้อกันอย่างรุนแรง สะท้อนถึงความแตกหักทางการเมืองด้วย จับตาภูมิใจไทยว่าจะเข้าร่วมรัฐบาลสูตรหนึ่งหรือไม่?
6.สถานการณ์เร่งด่วนของบ้านเมืองที่หน่วยงานความมั่นคงทุกหน่วยต้องระวังในขณะนี้ คือการป้องกันแก้ไขและรับมือกับการจลาจลแบบฝรั่งเศส ที่อาจจะเกิดขึ้นทั่วประเทศและเปิดโอกาสให้ต่างชาติเข้าแทรกแซง จนกลายเป็นการปฏิวัติสีหรือการปฏิวัติประชาชาติ เพราะคราวนี้มีความเสี่ยงสูงที่เจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อยหลายฝ่ายจะแปรขบวนเข้าร่วมกับประชาชน ซึ่งจะเป็นรูปแบบเดียวกับการปฏิวัติอิสลามในอิหร่าน
สัญญาณจากลุงจิ๋วที่อยู่ระหว่างป่วยมากรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ต้องลุกจากเตียงผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลมาพบพวกก้าวไกลด้วยบรรยากาศนอบน้อมสมานฉันท์ ย่อมไม่สูญเปล่า!!!