วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlight“เสรี”เย้ย“ก.ก.”ไร้พลังเงียบโหวต“พิธา” ย้ำชัด“ไม่เลือกโหวตผู้นำเสียงข้างน้อย”
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“เสรี”เย้ย“ก.ก.”ไร้พลังเงียบโหวต“พิธา” ย้ำชัด“ไม่เลือกโหวตผู้นำเสียงข้างน้อย”

จะเอาอะไร!”เสรี” เผยส.ว.ผวาถูกขู่ให้ชงชื่อ “พิธา” ซ้ำ เย้ย “ก้าวไกล” ไร้พลังเงียบ เชื่อขวาง “พท.” นั่งนายกฯหากจับมือ “ก.ก.” ไม่เล่นด้วยโหวตผู้นำเสียงข้างน้อย อ้างไม่มีเวลาบริหารปท. แก้ปัญหาตัวเองก็เหนื่อยแล้ว

เมื่อวันที่ 8 ก.ค.66 นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. กล่าวถึงกรณีส.ว.บางส่วนมีความเห็นไม่ให้นำชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล มาโหวตเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีเป็นครั้งที่ 2 หากการโหวตรอบแรกไม่ได้รับเสียงเห็นชอบจากที่ประชุมรัฐสภาว่า แม้ตามรัฐธรรมนูญจะไม่มีข้อห้ามให้ผู้ที่เสนอชื่อโหวตนายกฯรอบแรกไม่ผ่าน ไม่ให้กลับมาเสนอรอบสอง แต่ในทางปฏิบัติควรเสนอชื่อบุคคลอื่นแทน เพราะมีความชัดเจนไปแล้วว่า ที่ประชุมรัฐสภาไม่เห็นด้วยกับรายชื่อที่เสนอ ถ้ายังให้นำกลับมาเสนอชื่อซ้ำได้ จะถูกตั้งคำถามมากว่า ทำเพื่ออะไร จะเพื่อไปติดต่อ วิ่งเต้นขอคะแนน หรือให้ผลประโยชน์อะไรหรือไม่ ตามมาตรฐานสากล หากมีการโหวตเลือกใครไปแล้ว ไม่ได้รับความเห็นชอบถือว่าควรจบไปในรอบเดียว แล้วไปจัดทัพรวบรวมเสียง หาคนมาใหม่มาเลือกใหม่ ถ้าให้เลือกซ้ำคนเดิมได้ ก็ไม่รู้จะโหวตเลือกกันไปกี่รอบ ยิ่งการโหวตเลือกรอบแรกไปแล้ว ทำให้รู้ว่า ใครโหวตเลือกหรือ ไม่เลือก อาจจะมีการล็อบบี้หรือข่มขู่เจ้าตัวหรือลูกเมียให้เกิดความกลัว เพื่อให้เลือกในรอบต่อไป ที่ผ่านมาส.ว.ก็โดนข่มขู่ลักษณะนี้ แต่เราไม่กลัว

นายเสรี กล่าวว่า ขณะนี้ส.ว.หลายคนเปลี่ยนใจ จากเดิมจะสนับสนุน เป็นไม่สนับสนุนนายพิธาเป็นนายกฯ หลังได้รับฟังเหตุผลต่างๆ จนเปลี่ยนใจ แม้พรรคก้าวไกลยังเชื่อว่า มีพลังเงียบจากส.ว.จะโหวตให้นายพิธาเป็นนายกฯ แต่ตนอยู่วงใน ทราบอะไรได้ชัดและเยอะกว่า เชื่อว่าไม่มีพลังเงียบส.ว. ถ้ามีก็แค่บวกลบ 5 คน ถ้าจะมีอะไรเปลึ่ยนไป ก็คงขึ้นอยู่กับสถานการณ์ เพราะช่วงหลังเริ่มข่มขู่กันเยอะขึ้น ทั้งผ่านคนในครอบครัว ผ่านไลน์ ถึงความไม่ปลอดภัย

“ผมก็โดนข่มขู่ระวังลูกเมียไม่ปลอดภัย ส่วนกระแสข่าวแจกเงินซื่อส.ว.ในการโหวตนายกฯมีได้ยินมาบ้าง แต่ไม่รู้มีจริงหรือไม่ แต่ใครให้ก็เสียเงินเปล่า ส.ว.ส่วนใหญ่ยืนยันไม่หนุนนายพิธา เพราะมีนโยบายแก้ไขมาตรา 112 และกฎหมายอื่นๆ ไม่ต้องมาโทษส.ว. ทุกอย่างทำตัวเองทั้งนั้น”นายเสรี กล่าว

เมื่อถามว่า หากนายพิธาไปไม่รอด พรรคเพื่อไทยขึ้นมาเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลแทนพรรคก้าวไกล ส.ว.พร้อมโหวตให้แคนดิเดตนายก พรรคเพื่อไทย เป็นนายกฯหรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า ส.ว.เคยหารือกันถึงกรณีถ้าเปลี่ยนตัวนายกฯเป็นของพรรคเพื่อไทย แต่ยังมีพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาลอยู่ เสียงส.ว.ส่วนใหญ่ก็ไม่สนับสนุนแคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย ถ้าพรรคก้าวไกลยังร่วมรัฐบาลและจะแก้มาตรา 112 อยู่ ส.ว.ก็ไม่สบายใจ ก้าวไกลควรไปเป็นฝ่ายค้าน แม้ขณะนี้การเสนอแก้มาตรา 112 ยังเป็นแค่ขั้นตอนทางกฎหมาย อาจไม่ได้รับความเห็นชอบจากสภาฯในที่สุด แต่ส.ว.อยากแก้ปัญหาตั้งแต่ต้น เพื่อตัดไฟแต่ต้นลม เพราะไม่อยากให้เข้ามาอภิปราย เสนอความเห็น มีคนวิพากษ์วิจารณ์ จะทำให้ปัญหาลามไปสู่ภายนอกได้ เกิดความขัดแย้งยิ่งขึ้นอีก ดังนั้นหากพรรคก้าวไกลยังร่วมรัฐบาล และไม่ลดราวาศอก ไม่หยุดแก้ไขมาตรา 112 ส.ว.ก็ไม่เลือก ไม่ว่าจะเสนอชื่อใครเป็นนายกฯก็ตาม

“ถ้าก้าวไกลไม่ถอยแก้มาตรา 112 วุฒิสภาก็ไม่ถอย ส่วนถ้าพรรคเพื่อไทยข้ามขั้วไปจับมือกับพรรคร่วมรัฐบาลเดิมตั้งรัฐบาลนั้น โดยไม่ไปแตะต้องมาตรา 112 ก็ถือเป็นการเมืองปกติ ส.ว.พร้อมโหวตสนับสนุน ปัญหาจะไม่มีเลย”นายเสรี กล่าว

นายเสรี กล่าวว่า หากอดีตพรรคฝ่ายรัฐบาลเดิมจะตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยมาสู้ หากการโหวตนายกฯไม่สำเร็จสักทีนั้น เชื่อว่า ส.ว.ก็ไม่น่าโหวตให้คนฝ่ายเสียงข้างน้อยเป็นนายกฯ รัฐบาลเสียงน้อยตั้งไปไม่มีประโยชน์ เพราะไม่มีเสียงสนับสนุนถึง 250 เสียง การบริหารประเทศจะไม่ได้รับความร่วมมือในการออกกฎหมายสำคัญๆ ได้แต่แก้ปัญหาของตัวเองก็เหนื่อยพอแล้ว แต่ไม่มีเวลาบริหารประเทศ ส.ว.ต้องคำนึงเรื่องเหล่านี้ด้วย ดังนั้นโอกาสไปหนุนเสียงข้างน้อยเป็นนายกฯแทบจะไม่มี แม้จะมีโอกาสเกิดขึ้นได้ แต่คงไม่ได้เสียงสนับสนุนจากส.ว.

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img