“แม่แอมมี่” ปัดลูกชายยังไม่ได้มีแฟนใหม่ หลังเลิกรากับภรรยาเก่า ขณะที่ “น้องลูกไม้” แฟนสาวคนปัจจุบัน ยังไม่โดนรวบคาสนามบิน ชิงหลบหนีไปได้ แต่ทิ้งสัมภาระและเอกสารไว้ ตร.เดินหน้าล่าตัวต่อ
เมื่อวันที่ 4 มี.ค.64 ที่โรงพยาบาลตำรวจ พ.ต.ต.หัสนัย เฟื่องสังข์ สว.(สอบสวน) สน.ประชาชื่น พร้อมทีมพนักงานสอบสวน เดินทางมาเพื่อตรวจสอบอาการป่วยของนายไชยอมร แก้ววิบูลพันธุ์ หรือ “แอมมี่ The Bottom Blues” หลังจากเมื่อคืนเข้าพักรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บที่ตกจากที่สูง
พ.ต.ต.หัสนัย กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจยังมีประเด็นอื่นๆ ที่ต้องมีการสอบสวนนายไชยอมรเพิ่มเติม หลังจากที่เมื่อวานนี้มีการสอบสวนไปหลายประเด็นแล้ว เบื้องต้นผู้ต้องหาให้ความร่วมมือดี แต่ยังมีอาการวิตกกังวลอยู่บ้าง ส่วนการเคลื่อนไหวร่างกาย สามารถขยับตัวได้แล้ว เพราะอาการบาดเจ็บไม่สาหัส ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการสอบถามความเห็นของแพทย์ ว่าสามารถนำตัวออกจากโรงพยาบาลได้หรือไม่ ถ้าแพทย์ระบุว่า สามารถเคลื่อนออกจากโรงพยาบาลได้ ก็จะมีการควบคุมตัวออกไป ส่วนสถานที่ต้องรอการพิจารณาของศาล ว่าจะมีการควบคุมตัวต่อในที่ใด สำหรับประเด็นการขอประกันตัว ขึ้นอยู่ที่ดุลยพินิจของศาล แต่ในชั้นพนักงานสอบสวนจะมีการคัดค้านการประกันตัวเช่นเดิม
มีรายงานว่า พนักงานสอบสวนจะเข้าสอบปากคำแอมมี่เพิ่มเติม ในประเด็นที่เมื่อวานนี้ แอมมี่ได้โพสต์ข้อความลงบนโซเชียลมีเดียส่วนตัว ในทำนองให้การรับสารภาพว่า เหตุการณ์วางเพลิงเผาทรัพย์ ตนเองเป็นผู้ลงมือแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งหลังการสอบสวนปากคำเสร็จสิ้น ก็จะดำเนินการไปขอศาลออกหมายขังในช่วงบ่ายวันนี้
ต่อมามารดาของนายไชยอมร ได้เดินทางมาที่โรงพยาบาลตำรวจและให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ขณะนี้เอมมี่เกิดอาการบาดเจ็บจากแผลผ่าตัดช่องท้องครั้งก่อน จึงต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์ ส่วนขั้นตอนของการขอยื่นประกันตัว อยู่ระหว่างปรึกษากับทางทนายความที่กำลังดำเนินการอยู่
ทั้งนี้มารดาของนายไชยอมร ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นในกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการควบคุมตัวหญิงรายหนึ่ง ที่มีข่าวว่าเป็นแฟนของลูกชาย โดยปฏิเสธว่า “ลูกชายยังไม่ได้มีแฟนใหม่ หลังจากที่มีการเลิกรากับภรรยาเก่าไป ส่วนตัวอยากให้ลูกหยุดพักรักษาตัวภายใต้การดูแลของโรงพยาบาลตำรวจในช่วงของการฝากขังของพนักงานสอบสวน”
มีรายงานด้วยว่า หลังมีกระแสข่าวว่า ตำรวจตรวจค้นเข้าเมืองควบคุมตัวน.ส.ญาณิศา วรารักษ์พงษ์ หรือ “ลูกไม้” เพื่อนสาวคนสนิทของ “แอมมี่ The Bottom Blues” ได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ขณะเตรียมเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นนั้น ปรากฏว่า เจ้าตัวเกิดไหวตัวทัน ชิงหลบหนีไป ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะไปถึง โดยทิ้งสัมภาระไว้ที่สนามบิน เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถยึดกระเป๋าเดินทางและเอกสารการเดินทางของน.ส.ญาณิศาไว้ได้ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่า ยังอยู่ในประเทศไทย ส่วนผู้ต้องสงสัยอีกราย ที่ร่วมก่อเหตุเมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา บริเวณหน้าเรือนจำคลองเปรมนั้น ก็ยังคงหลบหนีเช่นกัน
