‘อดิศร’ ชี้ได้แต้ม ‘ส.ว.’ ยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร จี้ ‘ก้าวไกล’ ต้องมีข้อเท็จจริงใหม่หวั่นซ้ำรอยรอบแรก เปรียบดัน ‘พิธา’ เหมือนเข็นครกขึ้นภูเขา
เมื่อวันที่ 15 ก.ค.66 นายอดิศร เพียงเกษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงการโหวตนายกรัฐมนตรีรอบ 2 ในวันที่ 19 ก.ค.นี้ว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะแคนดิเดตนายกฯพรรคก้าวไกล บอกยอมรับมติแต่ไม่ยอมแพ้ แสดงว่ายังสู้ อยากชิงนายกฯรอบ 2 แต่ดูแล้วยากกว่าเดิม เพราะการจะได้คะแนนจาก ส.ว. ยากกว่างมเข็มในมหาสมุทร ถ้าดูความจริงตอนอภิปรายโหวตนายกฯรอบแรกที่หงายไพ่เล่นไปแล้ว รู้ว่าใครโหวตอย่างไร ดังนั้นการจะเปลี่ยนใจคนที่แสดงจุดยืนต่อสาธารณชนไปแล้ว จากไม่เห็นชอบเป็นเห็นชอบ ต้องใช้ความพยายามมากเกินปกติ
“พรรคก้าวไกลต้องมีข้อเท็จจริงใหม่ว่า การโหวตรอบ 2 มีอะไรให้นายพิธาเป็นนายกฯได้ ต่างจากครั้งที่ 1 อย่างไร จะได้คะแนนเพิ่มจากใครบ้าง ผมก็อยากรู้ แม้จะรู้เป็นไปได้ยาก แต่ขอให้กำลังใจ 8 พรรคร่วมรัฐบาลยังสนับสนุนกันแบบไม่มีเงื่อนไข” นายอดิศร กล่าว
เมื่อถามว่า ที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กชี้นำให้พรรคก้าวไกลเป็นแกะดำในประชาธิปไตย โดยถอยเป็นฝ่ายค้านนั้น นายอดิศร กล่าวว่า อาจไปกันใหญ่ ซึ่งที่ผ่านมา 8 พรรคเกาะกันเป็นข้าวต้มมัด พรรค พท. หรือพรรคก้าวไกลแกะออกจากกันไม่ได้ แต่หากผลักดันนายพิธาสุดความสามารถแล้ว ยังฝืนทำต่อไปจะเข็นครกขึ้นภูเขาหรือไม่ ขอให้คิดกันเอาเอง จะลากจูงกระโตงกระเตง ต้องเกรงใจเพื่อนร่วมทาง ใน 312 เสียงไม่มีพรรคใดได้เกิน 250 เสียง ต้องฟังกัน ไม่ใช่หาความชอบธรรมให้ตัวเองดูมีความชอบธรรมมากกว่าคนอื่น แล้วไปด้อยค่าพรรคอื่นใน 312 เสียง ก็ไม่ถูกต้อง
เมื่อถามว่า จะให้เวลาพรรคก้าวไกลถึงเมื่อไร พรรคอันดับ 2 จึงขึ้นมาทำหน้าที่เป็นนายกฯแทน นายอดิศร กล่าวว่า ต้องรู้ความเหมาะสม ระยะเวลา และรู้สั้นรู้ยาว จะเอาแต่ความคิดตัวเอง ว่าต้องโหวตไปเรื่อยๆ เพื่อนฝูงไม่สนุกด้วย ยิ่งไปเสนอให้แก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ปิดสวิตช์ ส.ว. คู่ขนานกับการโหวตนายกฯ ให้แก้รัฐธรรมนูญและโหวตนายกฯไปเรื่อยๆ ปล่อยให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รักษาการนายกฯไปเรื่อยๆ ความเสียหายที่เกิดขึ้นประเมินค่าไม่ได้ ไม่รู้ว่าต้องให้โอกาสนายพิธากี่ครั้ง เรื่องมารยาททางการเมืองบอกกันไม่ได้ ขึ้นอยู่กับจิตสำนึกแต่ละคน จะอ้างว่าได้คะแนนมากสุด 151 เสียง แต่อ้างบ่อยๆ มันไม่ศักดิ์สิทธิ์แล้ว การมาโหวตบ่อยๆ มันไม่สนุก
เมื่อถามถึงกรณีพรรคก้าวไกลยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ปิดสวิตช์ ส.ว. คู่ขนานไปกับการโหวตนายก นายอดิศร กล่าวว่า เป็นห่วงจะยิ่งราดน้ำมันบนกองไฟที่คุโชนอยู่แล้วให้เพิ่มขึ้น การจะหาเสียงจากส.ว.ต้องใช้หลักกัลยาณมิตร ไม่ใช่ไปเหยียดหยาม คะแนนนครั้งที่ 2 อาจน้อยกว่าครั้งแรกก็ได้ ขณะนี้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ก็อยากเป็นนายกฯ โดยใช้เสียงส.ว.สนับสนุน แต่ดูแล้วเป็นไปได้ยาก เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยจะอยู่ได้ถึง 1 อาทิตย์หรือไม่ หรืออยากเลือกตั้งกันใหม่ ก็ยิ่งเข้าทางพรรคก้าวไกลแน่นอน ไม่อยากให้ฝั่งเสียงข้างน้อยคิดเรื่องนี้ ถึงมีสิทธิจะทำได้ แต่ไม่ควรทำ.