“อดีตผู้พิพากษา” อธิบายปมศาลยกคำร้องขอหมายจับ “เพื่อนสาวแอมมี่” ชี้ไม่ได้หมายความว่าพ้นผิด หรือตร.จะดำเนินคดีไม่ได้ แต่ตร.สามารถออก “หมายเรียก” มาสอบสวนได้ หากไม่มาก็สามารถขอ “หมายจับ” ได้อีก “ผบช.น.” ยอมรับออกหมายเรียกผู้ก่อเหตุมารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว
กรณีศาลอาญายกคำร้องของพนักงานสอบสวนในการขอออกหมายจับ นายธนภัทร ไม่ทราบนามสกุล และน.ส.ญาณิศา (สงวนนามสกุล) นิสิตชั้นปีที่ 1 คณะรัฐศาสตร์จุฬาฯ ซึ่งเป็น 1 ในผู้ร่วมก่อตั้ง “กลุ่มเกียมอุดมไม่ก้มหัวให้เผด็จการ” และเป็นเพื่อนหญิงคนสนิทของนายไชยอมร แก้ววิบูลพันธุ์ หรือ “แอมมี่ The Bottom Blues” ผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 เเละข้อหาอื่นที่เกี่ยวข้องกรณีเผาพระบรมฉายาลักษณ์ ที่หน้าเรือนจำคลองเปรม เเละ โดยศาลอาญามีคำสั่งว่า ไม่มีประจักษ์พยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ ว่าผู้ต้องสงสัยทั้งสองได้ร่วมกับนายไชยอมร กระทำการดังกล่าว มีเเต่คำให้การของบุคคลที่พนักงานสอบสวนกันไว้เป็นพยานให้การซัดทอดเพียงเท่านั้น พยานหลักฐานที่ยื่นมาจึงยังไม่สามารถออกหมายจับได้
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 5 มี.ค.64 นายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Chuchart Srisaeng ระบุว่า…..กรณีที่พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลประชาชื่นยื่นคำร้องต่อศาลอาญาขอให้ออกหมายจับนางสาวญาณิศาและนายธนภัทรในข้อหาร่วมกระทำความผิดกับนายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ ในการวางเพลิงเผาทรัพย์ฯ ที่หน้าเรือนจำคลองเปรม แต่ศาลไม่อนุญาตให้ออกหมายจับนั้น
…..ไม่ได้หมายความว่าพนักงานสอบสวนจะดำเนินคดีแก่คนทั้งสองไม่ได้หรือบุคคลทั้งสองพ้นจากการเป็นผู้กระทำความผิดแล้ว พนักงานสอบสวนยังมีอำนาจออกหมายเรียกคนทั้งสองให้มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อทำการสอบสวนได้
…..ถ้าพนักงานสอบสวนออกหมายเรียกให้มาพบพนักงานสอบสวนแล้ว ผู้ใดไม่มาพบตามหมายเรียก พนักงานสอบสวนก็ขอให้ศาลออกหมายจับได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 66 (2) วรรคสอง
…..กรุณาอย่าเอาแต่ใจตัวเองว่าคือความถูกต้อง อะไรที่ไม่ได้ดังที่ตัวเองต้องการก็โวยวายกันแล้ว
ขณะเดียวกัน พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. กล่าวถึงคดีดังกล่าวว่า พนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ได้รายงานความคืบหน้าว่า ได้ยื่นขอออกหมายจับผู้ก่อเหตุอีก 2 รายแล้ว แต่เนื่องจากทั้ง 2 รายไม่มีพฤติการณ์หลบหนี ทางศาลจึงได้มีการพิจารณาขอให้พนักงานสอบสวนทำการออกหมายเรียกผู้ก่อเหตุทั้ง 2 ราย มารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป
