ตำรวจย้ำกทม.เป็นพื้นที่ห้ามชุมนุมตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรค ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาม.215 เผยบิ๊กตู่ย้ำให้อดทนยึดมั่นในหลักการนิติรัฐนิติธรรม
เมื่อวันที่ 6 มี.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น.โฆษก บช.น. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผบช.น. และ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) แถลงการเตรียมความพร้อมการรักษาความปลอดภัย และการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรในการชุมนุมของกลุ่มเห็นต่างทางการเมือง
พล.ต.ต.ปิยะ เปิดเผยว่า จากการข่าวที่มีการรวมตัวจากกลุ่มผู้ชุมนุมในหลายพื้นที่กลุ่มแดงก้าวหน้า 63 ชักชวนบริเวณโลตัสรังสิตเคลื่อนมาที่กรมทหารราบที่ 11 รอ. เพื่อมารวมตัวอาชีวะเพื่อประชาธิปไตย เวลา 17.00 น. กลุ่ม”กลุ่มประชาชนสร้างตัว” หรือ “รีเด็ม” ( REDEM) มีการประกาศชักชวนที่ห้าแยกลาดพร้าวเคลื่อนตัวไปบนถนนรัชดาภิเษกทำกิจกรรมเทขยะหน้าศาล
จากการข่าวไปรวมตัวกลุ่มต่างๆ แยกเกษตร กลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบันแยกปทุมวัน อาชีวะไม่เอาเผด็จการรวมตัวอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยย้ายไปที่กรมทหารราบที่ 11 รอ. แจ้งเตือนว่ากทม.เป็นพื้นที่ห้ามชุมนุมตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรค ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาม.215 ก่อความวุ่นวายผิดกฎหมายอาญามั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปกระทำการให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง
พล.ต.ต.ปิยะ ยังได้กล่าวถึงการดูแลรักษาความปลอดภัยบริเวณศาลอาญาว่า มีการจัดเจ้าหน้าที่ตามปกติ ส่วนกำลังที่จัดเตรียมยืนยันว่าเตรียมไว้เพียงพอตลอดจนพฤติกรรมซึ่งช่วงหลังมีการใช้พลุเพลิง วัตถุติดไฟได้ง่าย และสร้างกระแสข่าวอย่างมีการใช้เครื่องพ่นควัน ทุบทำลายสิ่งของทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผบช.น. จัดกำลังเพียงพอ ส่วนการพักค้างแรมม.เกษตรมหาวิทยาลัยต้องขออนุญาตเจ้าของพื้นที่ ความรุนแรงไม่ได้เกิดจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีการรื้อถอนเครื่องกีดขวาง เห็นชัดเจนผู้ชุมนุมมีเจตนาอย่างไร
กรณีจัดวางเครื่องกีดขวางตู้คอนเทนเนอน์นั้น พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ยืนยันว่า สิ่งที่เกิดขึ้นครั้งก่อนหามาตรการป้องกัน การใช้อุปกรณ์ทั้งหมดเพื่อความปลอดภัยและยีบยั้งอันตราย หากมีการชะเมิดกฎหมายตำรวจก็จับกุมได้ทันที และพฤติกรรมยังไม่ก่อให้เกิดอันตรายอย่างร้ายแรงจะไม่บังคับใช้กฎหมายทันที เว้นแต่มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อความไม่สงบเรียบร้อย บุกรุกสถานที่ราชการ ทุบทำลายสิ่งของราชการหรือเอกชน ตำรวจจะปล่อยให้มีการกระทำดังกล่าวไม่ได้ เราใช้ป.อาญา และจับกุมตามป.วิอาญา นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยกำชับการปฏิบัติ ผบ.ตร. ให้เน้นอดทนยึดมั่นในหลักการนิติรัฐนิติธรรม
ทั้งนี้การชุมนุมที่ผ่านมาตำรวจได้มีการดำเนินคดีไปแล้ว 22 ราย และคดีอื่นๆ รวม 158 คดี ส่งสำนวนพนักงานอัยการ 116 คดี อยู่ระหว่างสืบสวน 42 คดี มีบาดเจ็บตำรวจ 90 นายได้รับบาดเจ็บ ส่งรพ.27 นาย เสียชีวิต 1 นาย ผู้โพสต์ชักชวน แกนนำจัดการชุมนุม ตลอดจนผู้เข้าร่วมชุมนุมมีความผิดตามกฎหมาย อาจจะได้รับโทษได้เช่นกัน
ด้านพล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวว่า คาดว่าชุมนุมใน 4 จุด งานด้านจราจรเตรียมแผนไว้ หลักการไม่ปิดการจราจร ยกเว้นกลุ่มผู้ชุมนุมปิดการจราจร จุดแรกกรมทหารราบที่ 11 จะกระทบถนนพหลโยธิน แยกเกษตร ถนนแจ้งวัฒนะ วงเวียนบางเขน ถนนรามอินทรา หน้ากรมทหารถึงวงเวียน กลุ่มที่รวมตัวห้าแยกลาดพร้าวยังไม่ได้มีการกำหนดเส้นทางควรหลีกเลี่ยงถนนพหลโยธิน ถนนลาดพร้าว และรัชดาถิเษก เวลา 15.00 น.
บริเวณแยกราชประสงค์ หลีกเลี่ยงเส้นทางบริเวณแยกดังกล่าวเวลา 11.00 น.เป็นต้นไป จุดสุดท้ายบริเวณอนุสาวรีบ์ประชาธิปไตยน่าจะกระทบถนนราชดำเนินกลางและถนนดินสอ ควรหลีกเลี่ยงก่อนเวลา 15.00 น.