“วันนอร์” แจงเหตุงดประชุมรัฐสภาฯไม่เกี่ยวการเมือง ชี้ต้องรอศาลรธน.วินิจฉัยจะได้ปฏิบัติถูก เชื่อรอไม่นาน เร่งบรรจุวาระทันที เบรก “ก้าวไกล” ยื่นญัตติทบทวนมติรัฐสภา
เมื่อวันที่ 26 ก.ค.66 เวลา 10.10 น. ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา กล่าวถึงการเลื่อนประชุมโหวตนายกฯ วันที่ 27 ก.ค. หลายคนมองว่าเกี่ยวกับการเมืองหรือไม่ว่า ที่งดประชุมวันที่ 27 ก.ค. เนื่องจากผู้ตรวจการฯ มีมติว่าการเลือกนายกฯวันที่ 19 ก.ค. ขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญจึงส่งส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตนคิดว่าเป็นเรื่องที่ดี เมื่อมีผู้สงสัยก็ส่งให้องค์กรสูงสุดวินิจฉัย เพื่อจะได้เป็นแนวทางในการปฏิบัติที่ยั่งยืนได้ หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยก็จะผูกพันทุกองค์กรที่จะต้องปฏิบัติตาม หากศาลรธน.จะรับหรือไม่รับก็เป็นเรื่องที่ดีของทุกฝ่าย เพราะฉะนั้นที่สภาก็จำเป็นต้องรอศาลวินิจฉัย เพราะการวินิจฉัยของศาลรธน.จะมีผลกระทบต่อการเลือกนายกรัฐมนตรี หากศาลรธน.ชี้ว่าวิธีการเลือกไม่ถูกต้อง เราก็ต้องย้อนกลับไปไม่ใช่เกิดความเสียหายเฉพาะเวลา แต่จะเกิดความเสียหายกับคนที่เราเลือกไปด้วย รวมทั้งกระบวนการในการดำเนินการต่อไปด้วย ดังนั้นต้องรอคำวินิจฉัยจากศาลรธน. ซึ่งมีอยู่หลายแนวทาง ถ้าไม่รับ สภาก็ดำเนินการต่อ ถ้ารับบอกให้เรารอก็ต้องรอ ถ้ารอแล้วผลวินิจฉัยออกมาเป็น 2 แนวทาง คือ เราก็ต้องปฏิบัติตามเดิม หรือตามรัฐธรรมนูญ หรือข้อบังคับที่ 9 เราก็ต้องปฏิบัติตามว่าจะเสนอชื่อนายกฯ ซ้ำได้หรือไม่
“ยืนยันไม่เกี่ยวกับการเมือง แต่เป็นการปฏิบัติของรัฐสภา เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายจะได้ไม่เสียเวลาโดยใช่เหตุ และถ้ายังยืนยันที่จะประชุมในวันที่ 27 ก.ค. อาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับองค์ประชุมเพราะสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) แจ้งว่า ในวันที่ 28 ก.ค. จะมีพระราชพิธีที่สำคัญส.ส. ส.ว. ในทุกจังหวัดก็จะไปร่วมพิธีตั้งแต่เช้า หากมีการประชุมในวันที่ 27 ก.ค. ก็จะกลับไปไม่ทัน เพราะบางคนอาจจะไม่เดินทางมา เพราะจะไปร่วมในงานพิธีดังกล่าว ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมกังวล และหากเลื่อนออกไปก็จะทำให้การประชุมมีความเรียบร้อยกับทุกฝ่าย”ประธานรัฐถา กล่าว
เมื่อถามว่า ถ้ารอศาลรธน. วินิจฉัยการเลือกนายกฯจะเกิดขึ้นได้เมื่อไหร่ จะเกิดขึ้นได้กลางเดือนสิงหาคมหรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ก็อยู่ที่การวินิจฉัยของศาลรธน. ว่าจะรับหรือไม่รับ ถ้าไม่รับก็เดินหน้าต่อไป และถ้ารับก็ต้องดูว่าศาลรธน.ให้ชะลอหรือไม่ แต่ถ้าศาลรธน. สั่งให้ชะลอจำเป็นต้องรอหรือไม่นั้น ขอดูสถานการณ์ก่อน เพราะถ้ารอนานเกินไปจะเกิดความเสียหาย
“ผมคิดว่า ศาลรธน. คงจะทราบดีว่า เป็นเหตุการณ์เร่งด่วน เพราะประเทศจำเป็นต้องมีนายกรัฐมนตรี ผมคิดว่าศาลรธน. คงยกระดับพิจารณาเร็วและเสร็จเร็ว แต่เราไม่สามารถไปคาดคั้นได้ว่าจะเสร็จเมื่อไหร่ คิดว่าถ้าเรารอก็คงไม่นาน เป็นเรื่องที่ศาลรธน.ทราบดี”นายวันนอร์ กล่าว
เมื่อถามว่า การเลือกนายกฯจะเกิดขึ้นเร็วที่สุดเมื่อไหร่ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า จะเกิดขึ้นทันที เร็วที่สุดเท่าที่สามารถจะทำได้ เพราะมันไม่มีอะไร ทันทีที่สามารถจะออกหนังสือเชิญประชุมได้ทัน แต่ช่วงนี้หยุดยาว ไม่อยากให้รอเสียเวลาแม้แต่น้อย เพราะเป็นสิ่งที่จะต้องทำ ถ้าวินิจฉัยว่าศาลรธน. ไม่รับก็เร็วแน่นอน
เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกลเตรียมจะเสนอญัตติให้ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาพิจารณาการลงมติข้อบังคับที่ 41 นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า สภาฯเคยวินิจฉัยหากไม่ตรงกันแล้วเกิดความขัดแย้งในการปฏิบัติ เมื่อวันที่ 19 ก.ค. มี ผู้เห็นว่าขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญก็ส่งให้ศาลรธน. ซึ่งตนคิดว่าน่าจะได้ข้อยุติ ดังนั้นไม่จำเป็นต้องให้ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาวินิจฉัยใหม่ ส่วนจะเสนอให้วินิจฉัยข้อบังคับที่เท่าไหร่ก็เสนอได้ แต่ต้องดูว่าทำได้หรือไม่ และจะทำอย่างไร และจะมีปัญหาหรือไม่อย่างไร เพราะเรื่องนี้อยู่ที่ศาลรธน. แล้ว
“อยู่ที่ศาลรธน.จะวินิจฉัย เพราะคำสั่งของศาลรธน. จะผูกพันการทำหน้าที่ของสภาและองค์กรอื่น ๆ ต้องปฏิบัติตาม เพราะฉะนั้นถ้าเราวินิจฉัยไม่ตรงก็จะเกิดความยุ่งยากในการปฏิบัติ”ประธานรัฐสภา กล่าว
เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกลมองว่าการวินิจฉัยดังกล่าวจะเป็นการแทรกแซงการทำงานของรัฐสภาหรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ศาลรัฐธรรมนูญ ก็พิจารณาเป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ อะไรที่ทำแล้วขัดหรือไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญเขาก็ไม่ทำ