คนเคยคุ้นกัน “จตุพร” ฟันธงฉับ 10 ส.ค.ไม่มีภาพ “ทักษิณ” กลับไทยแน่ๆ ชี้เป็นความผิดพลาดที่ไม่รู้จักจำกับดีลแบบนี้ถึง 20 ครั้งในรอบ 17 ปี โวถ้าหากทำนายผิด พร้อมเจอทัวร์ลง พร้อมเตือน “พท.” ระวังเจอแผน “ผู้เฒ่าสารพิษ” ล่อ “อุ๊งอิ๊ง” เป็นนายกฯ แต่จะไม่ได้บริหารประเทศ ปชช.จะลงมาเต็มถนน
เมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์รายการ “ประเทศไทยต้องมาก่อน” ตอน “ผิดพลาด!!” มีเนื้อหาว่า ดีลตั้งรัฐบาล พร้อมเงื่อนไขเดินทางกลับไทยอย่างเท่ๆ ของทักษิณ ชินวัตร ในวันที่ 10 ส.ค.นี้ ได้จบสิ้นลงแล้ว เนื่องจากไม่แน่ใจกรณีติดคุกค้างคืนจะได้รับอภัยโทษคดีทุจริต จึงเป็นความผิดพลาดไม่รู้จักจำกับการดีลถึง 20 ครั้งในรอบ 17 ปีที่พยายามหาทางกลับบ้าน
นายจตุพร กล่าวว่า นายทักษิณกลับไทยเพื่อมาติดคุกนั้น คุกไม่ใช่เรื่องน่ากลัว แต่ต้องตัดใจได้และไม่คิดอะไรมาก ขอเพียงให้มีจิตใจผ่องแผ้ว จะได้รับรู้ถึงเวลาในคุกเดินทางได้รวดเร็ว หากตัดใจไม่ได้ การประกาศกลับบ้านกี่ครั้งก็เหมือนเดิม ตนเชื่อว่าวันที่ 10 ส.ค.นี้ นายทักษิณจะไม่มาตามที่ประกาศเอาไว้
“กรณีอดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) 2 คนที่ติดคุก เคยขออภัยโทษ ก็ไม่เคยได้รับ ถ้าเป็นชาวบ้านธรรมดาก็ได้รับอภัยโทษเร็วขึ้น สิ่งสำคัญคือ คดีทุจริตถึงจะยื่นไปก็ตาม แต่ยังไม่เคยได้รับอภัยโทษด้วย ดังนั้น นายทักษิณกลับบ้านแบบเท่ๆ ติดคุกคืนเดียว จึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลย”นายจตุพร กล่าวและว่า ในวันที่ 10 ส.ค.นี้ วันที่นายทักษิณ ประกาศจะกลับบ้าน แม้ตนเห็นใจคนในครอบครัวชินวัตร แต่ถ้าทักษิณตัดสินใจไม่อีนังขังขอบ ก็กลับมา หากตนประเมินผิดพลาด ก็ให้เครื่องบินลงที่สนามบินดอนเมือง ส่วนรถทัวร์มาลงที่ตนได้ และพร้อมรับ แต่การข่าวนั้น บ่งชี้ว่าขณะนี้จบแล้ว และวันที่ 10 ส.ค.เป็นที่ยุติ ไม่มีทางเป็นอย่างอื่นได้
นายจตุพร กล่าวอีกว่า ขณะที่การตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว ต้องรอวิวัฒนาการกันไป เพราะพฤติกรรมมันบ่งบอกว่า การดีลกันนั้นเป็นการนำพาสู่ความฉิบหาย แค่แสดงเจตนาข้ามขั้วก็จบแล้ว และฉิบหายแล้ว การตั้งรัฐบาลไม่ใช่เรื่องสีเสื้อ แต่หลักสำคัญอยู่ที่การยึดมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน ดังนั้น ประชาชนต้องเข้มแข้ง อย่ายอมให้ทฤษฎีรัฐบาลแบบสีเสื้อเกิดขึ้น เพราะทฤษฎีนี้เริ่มต้นจากการตระบัดสัตย์ข้ามขั้ว ยิ่งจะทำให้นายทักษิณไม่ได้กลับมาไทยเลย เนื่องจากประชาชนทนการเสียรู้ไม่ได้ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ ประชาชนต้องไม่คิดต่อสู้ห้ำหั่นทำลายประชาชนด้วยกันเอง
“พวกคิดเกมทฤษฎีสีเสื้อนี้เป็นพวกอำมหิต เป็นการคิดแผนที่อันตรายที่สุด ดังนั้น ประชาชนต้องเข้มแข็ง และมีความมั่นใจ อย่าไปเป็นเครื่องมือของเกมแดงจับมือเหลืองล้มส้ม เพราะเป็นการปลุกปั่นให้ประชาชนฆ่าประชาชนกันเอง สิ่งสำคัญประชาชนต้องร่วมมือกันในการนำพาแก้ปัญหาของชาติ เพื่อหาทางให้ประเทศรอด นั่นเป็นหน้าที่ของประชาชน แต่ต้องไม่ใช่นักการเมืองมาปั่นให้ฆ่ากันเพื่อปกป้องนักการเมือง ประชาชนควรปกป้องประเทศไม่ใช่ปกป้องนักการเมือง”นายจตุพร ระบุ
นายจตุพร กล่าวอีกว่า การพยายามตั้งรัฐบาลนั้น ในขณะนี้ถ้าไม่ข้ามขั้ว ก็ตั้งรัฐบาลไม่ได้ ด้วยเหตุนี้จึงมีสูตรรัฐบาลข้ามขั้ว แต่ระหว่างทางจะเกิดวิกฤตขึ้น ซึ่งนักการเมืองอย่ามาท้าทายประชาชน อีกอย่างการคิดเกมสลับสีประชาชนย่อมรับการกระทำอันอุกอาจนี้ไม่ได้ จึงอย่าคิดทำอะไร ดีไม่ดีประชาชนจะรวมตัวกันไปถล่มพรรคเพื่อไทยให้ยับเยินก็ได้
ส่วนข้อเสนอตามกระแสข่าวนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าคณะก้าวหน้า ไปเจรจากับนายทักษิณที่ฮ่องกงนั้น นายจตุพร กล่าวว่า แม้ยังไม่มีข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร แต่ข่าวระบุถึงการเสนอว่า ไม่มีลุง ไม่มีก้าวไกลนั้น แม้แสดงถึงการโหวตให้รัฐบาลข้ามขั้ว แต่ไม่ร่วมรัฐบาลด้วย หากเป็นเช่นนี้ พรรคก้าวไกลยิ่งเป็นฮีโร่ ส่วนพรรคตั้งรัฐบาลจะกลายเป็นพวกผีถูกเผาไปทันที
ส่วนกรณีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ลาออกจากหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และกลับเข้ามาใหม่นั้น นายจตุพร กล่าวว่า แสดงถึงลีลาของผู้เฒ่าสารพิษ และตอกย้ำถึงรัฐบาล คสช.มาตลอด ถ้าไม่มีพล.อ.ประวิตร ก็ไม่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา อย่างไรก็ตาม ภาพพล.อ.ประวิตร ที่แสดงให้ภายนอกเห็นนั้น คือคนพูดแต่คำไม่รู้ๆ ซึ่งแตกต่างจากการพูดในที่ลับ จะมีอำนาจมากที่สุด และเป็นคนรู้เรื่องดีที่สุด
“การโหวตนายกฯเพื่อไทยนั้น ถ้าอุ๊งอิ๊ง (แพทองธาร ชินวัตร) พร้อมเป็นนายกฯ ฝ่าย 188 เสียงจะโหวตให้ เพื่อเร่งดันให้ไปสู่การพังได้เร็วขึ้น จะได้ปิดฉากการเมืองเร็วที่สุด ดังนั้นฝ่าย 188 เสียงพร้อมจัดให้ แต่อุ๊งอิ๊งจะไม่ได้บริหารประเทศเลย เพราะประชาชนออกมาเต็มถนน ถ้าไม่เชื่อ เพื่อไทยก็เสนออุ๊งอิ๊งมาเป็นนายกฯ ซึ่งพิสูจน์กันได้” นายจตุพร กล่าวย้ำและว่า มีข่าวปล่อยว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ น้องชายพล.อ.ประวิตร จะเป็น รมว.มหาดไทย ถ้าอยากเห็น พล.อ.ประวิตรก็พร้อมจัดให้เช่นกัน ดังนั้นที่มีข่าวว่า พล.อ.ประวิตรถอย หรือเป็นไอ้เสือถอยนั้น แค่เป็นการถอยแบบรอจังหวะรุกกลับคืน โดยทุกเกมต้องการให้อุ๊งอิ๊งมาเป็นนายกฯ เพื่อลากมาเชือดในน้ำตื้น
“ถ้าต้องการ จะจบไม่ยาก เขา (พล.อ.ประวิตรและฝ่าย 188 เสียง) พร้อมจะจบให้ ขอให้เสนออุ๊งอิ๊งมาสิ ในวันที่ 4 ส.ค.นี้ ถ้าเสนอคุณเศรษฐา ทวีสิน ก็จะถูกโหวตล่มอีก เพราะต้องการรอโหวตให้อุ๊งอิ๊งคนเดียว อยากพิสูจน์ อยากจบเร็ว ก็เสนออุ๊งอิ๊งมาเลย”นายจตุพร กล่าว
นายจตุพร ยังกล่าวถึงการประชุมสภาโหวตนายกฯ วันที่ 4 ก.ค.นี้ว่า อาจมีการเลื่อนก็ได้ เพราะมีหลายเรื่องให้สภาต้องหารือกัน อีกทั้งศาลรัฐธรรมนูญ จะพิจารณาคำร้องมติตามข้อบังคับประชุมข้อที่ 41 ขัดรัฐธรรมนูญ จะมีผลอย่างไรด้วย หรือถ้าได้โหวตนายกฯคนที่จะถูกเสนอชื่อ ซึ่งคาดเป็นนายเศรษฐา ก็ไม่อยากจะเป็นเช่นกัน ท่ามกลางการเมืองแบ่งฝ่ายช่วงชิง ขัดแย้งกันในขณะนี้
นายจตุพร กล่าวย้ำว่า สูตรการตั้งรัฐบาลที่น่าจะเป็นและต้องยึดมั่นกันไว้ให้มากที่สุดคือ 8 พรรค MOU จับมือกันให้มั่นคง ไม่แตกแยกแล้วอย่ารีบพาประชาชนไปแพ้ แต่ควรรอแบบอดเปรี้ยวไว้กินหวานจะดีกว่า
“ถ้ารีบไปแพ้แล้ว จะมีปัญหาว่า รีบไปทำไม การอดเปรี้ยวไว้กินหวานคือ เป็นหวานของประชาชน เพื่อได้อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนอย่างแท้จริง ซึ่งไม่เคยมี เพราะเราอยู่ในวังวนของนักการเมืองและการรัฐประหารมาโดยตลอด ดังนั้น ประชาชนควรเตรียมตัว เตรียมใจไว้ให้พร้อมกับสถานการณ์ที่แปรปรวนสูงและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในขณะนี้”นายจตุพร กล่าวทิ้งท้าย
