ศาลรธน.สั่งให้ผู้ทีเกี่ยวข้องโหวตนายกฯรอง 2 ส่งเอกสารเพิ่มเติมภายในวันที่ 15 ส.ค.และนัดนัดพิจารณาคำร้อง16 ส.ค.
เมื่อวันที่ 3 ส.ค.66 คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้นัดประชุมเพื่อพิจารณาว่าจะรับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินไว้วินิจฉัยหรือไม่ ภายหลังขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213 กรณีรัฐสภามีมติไม่เห็นชอบกับการเสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกลเป็นนายกฯ รอบ 2 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่
ต่อมาศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารเผยแพร่ โดยรบุว่า ศาลรัฐธรรมนูญประชุมปรึกษาคดีที่สำคัญและเป็นที่สนใจ ดังนี้ผู้ตรวจการแผ่นดิน (ผู้ร้อง) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา ๒๑๓ (เรื่องพิจารณาที่ ต. ๒๔/๒๕๖๖)ผู้ตรวจการแผ่นดิน (ผู้ร้อง) ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา ๒๑๓ ว่า กรณีรัฐสภา (ผู้ถูกร้อง) มีมติตีความว่าการเสนอชื่อบุคคลชื่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็น
นายกรัฐมนตรีให้รัฐสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบในรอบที่สอง เป็นญัติทั่วไป ต้องห้ามนำเสนอญัตติซ้ำอีกตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ. ๒๕๖๓ ข้อ ๔๑ ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๗๒ เป็นการละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของผู้ร้องเรียนทั้งสาม (รองศาสตราจารย์ พรชัย เทพปัญญา ที่ ๑ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. บุญส่ง ชเลธร ที่ 6 และนางปัญญารัตน์ นันทภูษิตานนท์ และคณะ ที่ ๓) ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓ วรรคสอง มาตรา ๕ วรรคหนึ่ง มาตรา ๒๕ วรรคสาม และมาตรา ๒๙ โดยผู้ร้องกล่าวอ้างว่าผู้ร้องเรียนที่ ๑ และที่ ๒ เป็นประชาชนที่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อและแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง โดยเลือกพรรคก้าวไกลซึ่งมีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นบุคคลเพียงรายชื่อเดียวที่พรรคก้าวไกลเสนอชื่อเป็นบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี และผู้ร้องเรียนที่ ๓ เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล การที่รัฐสภามีมติตังกล่าวละเมิตสิทธิหรือเสรีภาพของผู้ร้องเรียนทั้งสาม และขอให้กำหนดมาตรการหรือวิธีการชั่วคราวก่อนการวินิจฉัยของ ศาลรัฐธรรมนูญโดยให้มีคำสั่งยุติการเลือกนายกรัฐมนตรีไว้ก่อนจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคำร้องให้พิจารณาวินิจฉัย (เพิ่มเติม) ของผู้ร้องฉบับลงวันที่ ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๖๖ แล้วมีคำสั่งรับรวมไว้ในสำนวน ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณข้อเท็จจริงตามคำร้อง คำร้องเพิ่มเติม และเอกสารประกอบแล้วเห็นว่า คำร้องนี้มีประเด็นสำคัญที่จะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบและมีประเด็นเชิงหลักการการปกครอง ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่จะต้องพิจารณาเพิ่มเติม จึงให้เลื่อนการพิจารณาสั่งคำร้องและให้สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญศึกษาข้อมูลเพื่อประกอบการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญต่อไปสำหรับคำขอให้กำหนดมาตรการหรือวิธีการชั่วคราวก่อนการวินิจฉัย ให้รอสั่งในคราวเตียวกันกับการพิจารณาสั่งคำร้อง
ทั้งนี้ ให้ผู้ร้องระบุสถานะบุคคลของคณะผู้ร้องเรียนที่ ๓ ทุกรายว่า เป็นประชาชนหรือสมาชิกรัฐสภา โดยให้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญภายในวันอังคารที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๖๖ให้นัดพิจารณาคำร้องนี้ในวันพุธที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๖๖ เวลา ๑๙.๓๐ นาฬิกา