นายกฯยันไม่เคยห้ามการชุมนุม แต่ถ้ามีเหตุรุนแรงก็เป็นเรื่องศาลจะตัดสินว่าทำผิดกฎหมายหรือไม่ ย้ำการสั่งปล่อยตัวแกนนำที่โดน “ม.112” เป็นดุลยพินิจของศาล ชี้จับกุมมือระเบิดไปป์บอมบ์ไม่ควรมาถามว่าเป็นการจัดฉากของรัฐ
เมื่อวันที่ 9 มี.ค.64 ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงความเป็นเป็นห่วงในการความรุนแรงที่เกิดขึ้นในการชุมนุมทางการเมือง เพราะเท่าที่ประเมินสถานการณ์ กลุ่มผู้ชุมนุมยกระดับความรุนแรงมากขึ้น เพื่อเรียกร้องปล่อยตัวแกนนำที่ถูกจับกุม ม.112 ว่า ถามว่าถ้าเป็นรัฐบาล เป็นศาล หรือเป็นอะไรต่างๆ คิดว่าจะทำได้หรือไม่ ต้องคิดถึงคดีความต่างๆ ของคนอื่นด้วย ไม่เช่นนั้นก็จะทำกฎหมายเสียหายไปทั้งหมด เมื่อทำความผิดก็ต้องดูว่าตัวเองไปต่อสู้คดีให้ได้ ก็จะมีการคุ้มครองสิทธิให้ และเมื่อเข้าสู่กระบวนการทางคดีไปแล้วจะทำอะไรได้
“สิ่งสำคัญที่สุดคืออย่าให้ตัวเองไปทำผิดกฎหมาย ก็เท่านั้นเอง รัฐบาลไม่เคยไปห้ามการชุมนุม แต่ถ้าชุมนุมแล้วมีความรุนแรงเกิดขึ้น ถ้าศาลเห็นว่าเป็นการทำกระทำที่ผิดกฎหมาย ก็เป็นเรื่องของศาลตัดสินออกมา รวมทั้งการจะให้ประกันหรือไม่ให้ประกัน ก็เป็นเรื่องของศาลเช่นเดียวกัน ผมไม่มีอำนาจไปก้าวล่วง และไม่ได้ต้องการไปใช้กฎหมาย ทำร้ายใคร เพราะกฎหมายเป็นของทุกคน เป็นของสังคม และเป็นของประชาชนโดยรวม ไม่ใช่คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งจะละเว้นกฎหมายได้”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
เมื่อถามถึงความคืบหน้าการจับกุมมือประกอบระเบิดไปป์บอมบ์ ได้กำชับฝ่ายมั่นคงให้เข้มงวดในการตรวจสอบการลักลอบระเบิดอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ได้มีการกำชับมาตลอดอยู่แล้วก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ถือเป็นสิ่งที่น่ายินดีที่จับกุมได้ และไม่ควรจะมีคำถามว่าเป็นการจัดฉากของภาครัฐหรือไม่ ยืนยันว่าตนไม่เคยมีนโยบายให้ไปทำเรื่องเหล่านี้ คงไม่กล้าทำและทำไม่ได้อยู่แล้ว เพราะทุกอย่างมีหลักฐาน ซึ่งเห็นอยู่แล้วว่าจับใครและคนนั้นก็รับสารภาพว่าเป็นคนทำและทำมาจากบ้าน แล้วอย่างนี้เจ้าหน้าที่จะทำได้อย่างไร ถามแปลกๆ ขออย่าสร้างความเข้าใจแบบนี้ มันไม่ดี