“พล.อ.ประวิตร” คุมเข้มอุบัติเหตุ ช่วงสงกรานต์ สั่งบูรณาการทั่วประเทศ บังคับใช้กฎหมายเด็ดขาด มุ่งให้ประชาชนปลอดภัย รณรงค์ “สงกรานต์สุขใจ ขับขี่ปลอดภัย ห่างไกลโควิด”
เมื่อวันที่ 10 มี.ค. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการนโยบายการป้องกัน และลดอุบัติเหตุทางถนน แห่งชาติ ครั้งที่ 1/2564 ผ่านระบบวีดีทัศน์ทางไกล ร่วมกับ ผวจ.ทั่วประเทศ ณ ห้องประชุม กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย โดยที่ประชุม ได้รับทราบผลการดำเนินงาน การป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2564 และการถอดบทเรียนที่ผ่านมา ซึ่งผลการดำเนินงาน เมื่อเปรียบเทียบกับสถิติในช่วงปีใหม่เฉลี่ย 3 ปีซ้อน ย้อนหลัง ภาพรวมมีสถิติลดลง โดยจำนวนครั้งการเกิดอุบัติเหตุลดลง ร้อยละ 9.53 ,มีผู้เสียชีวิตลดลง ร้อยละ 6.67 และมีผู้บาดเจ็บลดลง ร้อยละ 12.45
ทั้งนี้ มีข้อเสนอแนะจากการถอดบทเรียน ที่จะช่วยลดอุบัติเหตุที่สำคัญ สำหรับผู้ใช้รถใช้ถนน จะต้องได้รับการสร้างจิตสำนึกและวัฒนธรรมความปลอดภัย โดยจัดทำเป็นหลักสูตรการเรียนรู้ด้านความปลอดภัยทางถนน และมอบให้ กระทรวงศึกษาฯ ไปพิจารณาต่อไป พร้อมทั้งให้มีการปรับปรุงแก้ไข ถนนสายต่างๆให้ได้มาตรฐาน รวมทั้งหลักเกณฑ์การขอใบอนุญาตขับรถ จะต้องเพิ่มกระบวนการสร้างความตระหนักรู้ และประเมินความเสี่ยงอันตราย ขณะขับขี่ด้วย และรับทราบการรายงานผลการขับเคลื่อนการดำเนินงาน ของศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนที่สำคัญได้แก่ การกำหนดค่าเป้าหมาย การดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ห้วงปี พ.ศ.2565-2570 ให้ชัดเจน และต้องสามารถลดอัตราการเสียชีวิตต่อประชากร ตามเป้าหมายที่กำหนดได้
ที่ประชุม ได้พิจารณาเห็นชอบ แผนบูรณาการป้องกัน และลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2564 ใช้ชื่อในการรณรงค์ ว่า “สงกรานต์สุขใจ ขับขี่ปลอดภัย ห่างไกลโควิด” โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชน เดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ อย่างมีความสุข และปลอดภัย ทั้งนี้การดำเนินการป้องกัน และลดอุบัติเหตุทางถนน ต้องดำเนินการควบคู่ไปกับ การเฝ้าระวังป้องกัน การแพร่ระบาด ของโควิด-19
พล.อ.ประวิตร ได้กำชับ มท. ,คค. ,สตช. ,จังหวัด ,อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั่วประเทศ ให้บูรณาการทำงานร่วมกัน อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่กับการเฝ้าระวัง โควิด-19 บังคับใช้กม.อย่างเด็ดขาด รณรงค์และประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องให้ผู้ขับขี่ยานพาหนะมีความตระหนักรู้ ที่สำคัญต้องมีการซักซ้อมการปฏิบัติการป้องกันขั้นสูงสุด เพื่อให้ประชาชนรู้สึกมั่นใจในมาตรการของภาครัฐ และพร้อมให้ความร่วมมือด้วยดี ต่อไป ย้ำ ประชาชนจะต้องได้รับการดูแล ให้มีความปลอดภัย และทั่วถึงทุกพื้นที่
