“ศรีสุวรรณ” ร้องสภาฯฟัน “ปดิพัทธ์” ทำผิดกม.-มาตรฐานจริยธรรม ปมโพสต์รูปคู่คราฟเบียร์ลงโซเชียล เล็งยื่นป.ป.ช. ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ ม.53 มั่นใจกระเด็นเก้าอี้รองปธ.สภาฯแน่
เมื่อวันที่ 15 ส.ค.66 ที่รัฐสภา นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ยื่นหนังสือผ่านนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ถึงนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ขอให้ใช้อำนาจของคณะกรรมการจริยธรรมสภาฯ ดำเนินการพิจารณาไต่สวนสอบสวนและลงโทษสส. ตามข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสส. และกรรมาธิการ พ.ศ.2563 กรณีนายปดิพัทธ์ สันติภาดา สส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกลและรองประธานสภาฯ คนที่ 1 ได้กระทำการอันมีลักษณะเป็นการโฆษณาหรือประชาสัมพันธ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือเป็นการสื่อสารการตลาดให้กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ผลิตขึ้นในจังหวัดพิษณุโลก อันเข้าข่ายการฝ่าฝืนข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสส. และมาตรฐานทางจริยธรรมและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
นายศรีสุวรรณ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมภายหลังว่า กรณีนี้ผิดพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 มาตรา 32 ชัดเจนนายปดิพัทธ์โพสต์ครั้งนี้ไม่ใช่ความเผลอเรอ เพราะคนในโซเชียลต่างออกมาท้วงติงแล้ว แต่ปรากฏว่านายปดิพัทธ์ออกมาชี้แจงชี้ให้เห็นถึงกฎหมายดังกล่าวมีข้อด้อย แสดงชัดว่านายปดิพัทธ์รู้ว่ามีกฎหมายควบคุมตัวนี้อยู่ ดังนั้น การที่นายปดิพัทธ์ออกมาลักษณะนี้จึงถือว่าผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 59 ที่มีเจตนาเล็งเห็นผล หรือประสงค์ต่อผล
นายศรีสุวรรณ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังมีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ดังนั้น นายปดิพัทธ์จะปฏิเสธไม่ได้ และเรื่องนี้มีโทษหนักปรับ 50,000-200,000 บาท และมีโทษทางอาญา นายปดิพัทธ์จะต้องยอมรับสภาพในเรื่องนี้ โดยช่วงบ่ายของวันนี้ ตนจะไปยื่นเรื่องร้องต่อคณะกรรมการควบคุมแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้สอบสวนและเอาผิดตามกฎหมายดังกล่าว
“ส่วนเรื่องประเด็นจริยธรรมนั้นเป็นหน้าที่ของนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้ดำเนินการตามข้อบังคับประมวลจริยธรรมส.ส.และกรรมาธิการ ซึ่งเรื่องนี้สร้างความเสื่อมเสียต่อท่านอย่างมาก อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ร้ายแรงที่สุดคือมาตรฐานจริยธรรมที่ออกโดยศาลรัฐธรรมนูญที่จะต้องมีการไปยื่นร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และฝ่าฝืนมาตรา53ของรัฐธรรมนูญ โดยจะไปยื่น1-2วันนี้ อย่างนี้ไม่พลาดนำไปสู่การกระเด็นออกจากตำแหน่งได้โดยชัดเจน” นายศรีสุวรรณ กล่าว