“สุทิน” มั่นใจ 22 ส.ค.นี้ ได้นายกฯชื่อ “เศรษฐา ทวีสิน” เชื่อสภาฯโหวตโดยคำนึงถึงประโยชน์ประเทศ-ปชช. ขณะที่ ”ยุทธพงศ์” ชี้ ‘เศรษฐา’ ยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ไร้ปัญหา ‘เพื่อไทย’ เสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ 20 ส.ค.66 นายสุทิน คลังแสง ส.ส.บัญชีราชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์การโหวตนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยเป็นนายกรัฐมนตรีในวันที่ 22 สิงหาคมนี้ ว่า คิดว่าจากการทำงาน และการประสานงานทุกฝ่ายที่ราบรื่นดี ไม่ว่าจะทางฝ่าย สว. หรือพรรคการเมือง เราพยายามทำตามข้อประสงค์ของทุกๆฝ่ายเพื่อให้ทำงานร่วมกันได้อย่างสบายใจ ดังนั้น จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะมีการปฏิเสธนายเศรษฐา นอกจากนี้ นายเศรษฐาถือว่าเป็นแคนดิเดตนายกฯที่มาตามระบบของกฎหมายทุกประการ ทั้งผ่านการคัดกรองจากพรรคเพื่อไทย ผ่านการตรวจคุณสมบัติจาก กกต. และผ่านการเลือกตั้งมา
ส่วนประเด็นที่หลายคนวิตก หรือที่มีการพยายามสร้างให้เกิดความวิตกโดยนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง พยายามกล่าวหา ประเด็นนี้ทางพรรคเพื่อไทยก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ทุกประเด็นพรรคมีคณะทำงานได้ตรวจสอบเรื่องนี้อย่างรอบด้านในทุกเรื่องที่ถูกนายชูวิทย์กล่าวหา ซึ่งจากการที่ได้ตรวจสอบมาทั้งหมดจนถึงวันนี้คณะทำงานเล็งเห็นว่าเรื่องนี้สามารถเข้าใจได้ง่ายๆ และนายเศรษฐาไม่น่าจะเป็นอย่างที่นายชูวิทย์กล่าวหา และมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่ชอบกันส่วนตัวของนายชูวิทย์ และมีความพยายามดิสเครดิตกัน ซึ่งเรื่องนี้นายเศรษฐา และทางบริษัทแสนสิริได้แถลงชี้แจงแก่ประชาชนอย่างละเอียดให้เข้าใจแล้ว
เมื่อถามย้ำว่า เป้าหมายของนายชูวิทย์แน่ชัดว่าไม่อยากให้นายเศรษฐาเป็นนายกฯ กระบวนการที่ผ่านมาของนายชูวิทย์จะไม่กระทบการโหวตนายกฯใช่หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า เข้าใจว่ากระบวนการทั้งหมดของนายชูวิทย์คือต้องการไม่ให้นายเศรษฐาเป็นนายกฯ นี่เป็นสิทธิพลเมืองของนายชูวิทย์ แต่คนที่จะเลือกนายเศรษฐาในสภาจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เขาจะเลือกเพื่อประชาชน ไม่ใช่เลือกเพื่อให้ถูกใจใครคนใดคนหนึ่ง และคงไม่มีใครเอาปัญหาไม่ชอบกันส่วนตัวมาเป็นปัญหาของประเทศ
“ผมเชื่อว่าวันที่ 22 ส.ค.นี้ ได้นายกฯชื่อเศรษฐา ทวีสิน เพราะวันนี้สมาชิกรัฐสภาฟังเสียงสังคมอยู่ ซึ่งสังคมวันนี้อยากให้ได้นายกฯ โดยเราผ่านการเลือกตั้งมาเกือบจะ 3 เดือนแล้ว แต่ยังไม่มีนายกฯ และรัฐบาลมาทำงานเสียที ไม่มีใครที่คนจะชอบตรงกันหมดทั้ง 100% หรอก แต่วันนี้ที่สังคมไทยอยากได้คืออยากให้มีนายกฯ และรัฐบาลที่เข้ามาแก้ปัญหาประเทศ เพราะหากปล่อยให้ยืดเยื้อไปไม่น่าจะเป็นผลดีต่อประเทศ และประชาชน” นายสุทิน กล่าว
ขณะที่นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร อดีต ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมากล่าวหา โจมตีนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย นั้นต้องให้ความเป็นธรรมกับนายเศรษฐา ซึ่งนายเศรษฐาได้ย่างก้าวจากนักธุรกิจมาเป็นนักการเมืองเต็มตัว ที่พร้อมรับการตรวจสอบอย่างเต็มที่ตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 29 ระบุ ‘ในคดีอาญา ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่มีความผิด และก่อนมีคำพิพากษาอันถึงที่สุดแสดงว่าบุคคลใดได้กระทำความผิด จะปฎิบัติต่อบุคคลนั้นเสมือนเป็นผู้กระทำความผิดมิได้’
ดังนั้นยังต้องถือว่า ขณะนี้นายเศรษฐาเป็น ‘ผู้บริสุทธิ์’ ตามรัฐธรรมนูญ ตราบใดที่ยังไม่มีคำพิพากษาที่สุดออกมา ซึ่งขณะนี้พรรคเพื่อไทยได้มีมติเสนอชื่อ นายเศรษฐา เป็นนายกรัฐมนตรีต่อที่ประชุมรัฐสภา ในวันที่ 22 ส.ค.นี้ จึงไม่จำเป็นต้องกังวลใดๆ เพราะตามกฎหมายยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่