กรมราชทัณฑ์แถลงขั้นตอนรับตัว “ทักษิณ” เข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ แยกขังแดน 7 มีจนท.เฝ้า 24 ชม. ชี้ผลตรวจสุขภาพมีโรคประจำตัวหลายโรค
เมื่อวันที่ 22 ส.ค.66 ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยนายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์, นายสิทธิ สุธีวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์, นายนัสที ทองปลาด ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และนพ.วัฒน์ชัย มิ่งบรรเงิดสุข ผู้อำนวยการทัณฑสถานโรงพยาบาล ร่วมกันแถลงรายละเอียดขั้นตอนการรับตัวนายทักษิณ ชินวัตร เข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร หลังจากรับตัวเสร็จสิ้นและทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ตั้งแต่การไปรับตัวที่สนามบินดอนเมือง เดินทางไปศาลฎีกาและส่งตัวเข้าเรือนจำ
นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์ดำเนินการ 3 ประการ คือ 1.ดูแลเรื่องความปลอดภัยของนายทักษิณเป็นหลัก ทั้งเรื่องความเป็นอยู่ อาหารและการเข้าเยี่ยม 2.นายทักษิณ อาจมีคนเข้าเยี่ยมจำนวนมาก เรือนจำจึงจัดสถานที่ให้เข้าเยี่ยมเพื่อไม่ให้เกิดความสับสน และ 3.นายทักษิณมีอายุ 74 ปี จึงต้องดูเรื่องสุขภาพอนามัยเป็นหลัก เพื่อไม่ให้เจ็บป่วยระหว่างที่อยู่ในเรือนจำ ซึ่งได้ทำประวัติและตรวจสุขภาพเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

ขณะที่นายสิทธิ สุธีวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า การรับตัวนายทักษิณ ดำเนินการตามมาตรการรับตัวคนเข้าใหม่ โดยจัดทำทะเบียนประวัติ ตรวจสุขภาพโดยแพทย์ของ รพ.ราชทัณฑ์ พบว่าเป็นกลุ่มเปราะบาง และมีโรคประจำตัวที่ต้องเฝ้าระวังและรักษาอย่างต่อเนื่อง โดยต้องตรวจติดตามโดยแพทย์เฉพาะทาง ซึ่งขณะนี้ได้แยกคุมขังนายทักษิณ ไม่ให้ปะปนกับผู้ต้องขังอื่น

นพ.วัฒน์ชัย มิ่งบรรเจิดสุข ผอ.ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ระบุว่า นายทักษิณ มีประวัติโรคประจำตัว เป็นโรคหัวใจ โดยมีภาวะโรคหัวใจขาดเลือด ติดตามการรักษาโดยแพทย์เฉพาะทางอย่างใกล้ชิด รับประทานยาละลายลิ่มเลือดอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ยังมีปัญหาทางปอด มีประวัติเป็นปอดอักเสบรุนแรงจากภาวะโควิด แม้จะรักษาหายแล้ว แต่ยังพบภาวะผังผืดในปอด ทำให้มีอาการเหนื่อยง่าย ซึ่งทั้งโรคหัวใจและโรคปอดจำเป็นต้องเฝ้าระวังและได้รับการดูแลโดยบุคลากรการแพทย์ เพื่อประเมินการเปลี่ยนแปลง
ขณะเดียวกันยังมีความดันโลหิตสูง อยู่ระห่วางการควบคุมและรักษาโดยการรับประทานยา ซึ่งตรวจวันนี้ (22 ส.ค.) ยังมีภาวะความดันโลหิตผิดปกติ รวมถึงภาวะกระดูกสันหลังเสื่อมในหลายระดับ กดดับเส้นประสาท ส่งผลให้มีอาการปวดเรื้อรัง การเดินและทรงตัวที่ผิดปกติ

ทั้งนี้ จากประวัติข้อมูลเบื้องต้นที่ได้รับและการตรวจร่างกายโดยทีมแพทย์ เห็นว่านายทักษิณเป็นกลุ่มเปราะบาง ซึ่งตามแนวทางปฏิบัติของเรือนจำทั่วประเทศ กลุ่มเปราะบางจำเป็นจะต้องอยู่ในพื้นที่ที่เฝ้าระวังใกล้ชิด เพื่อความปลอดภัย กรณีที่มีอาการเจ็บป่วยสามารถเข้าถึงการรักษาไเทันท่วงทีเพื่อลดการสูญเสีย
นายนัสที ทองปลาด ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ย้ำว่า การปฏิบัติของเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ในกรณีที่ผู้ต้องขังเป็นกลุ่มเปราะบาง จะมีมาตรการตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์ โดยจะต้องมีแดนที่อยู่ เพื่อระมัดระวังดูแล มีจุดสถานพยาบาลและจัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ขณะที่กิจกรรมอื่นๆ เป็นเช่นเดียวกับผู้ต้องขังที่อยู่ภายในทุกคน ทั้งเรื่องการกินอาหาร ทำภารกิจ ส่วนสิทธิอื่นๆ ที่ต้องดำเนินการไม่ว่าจะเป็นการพบทนาย หรือการเยี่ยมญาติในช่องทางต่างๆ สามารถทำได้ตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์