ถกนโยบายรัฐบาลวันที่สอง “นายกฯ” พร้อมปรับแผนแก้ยาเสพติด จ่อนัด 16 ก.ย. ประชุมคณะกก.บูรณาการวางแนวทางแก้ปัญหาระยะสั้นทำทันที
เมื่อวันที่ 12 ก.ย.66 เวลา 09.10 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ที้มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม เพื่อให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) แถลงนโยบายต่อรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 162 ต่อเนื่องเป็นวันที่สอง
จากนั้น น.ส.ชนก จันทาทอง สส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า สถานการณ์ยาเสพติดทั่วโลกในปี 2563 มีประชากรโลก 284 ล้านคน ที่ใช้สารเสพติด ส่วนสถานการณ์ระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียตะวันออก ในปี 2654 จับกุมยาบ้าได้ 1,000 ล้านเม็ด ยาไอซ์ 79 ตัน ขณะที่ประเทศไทย ปี 2564 จับกุมยาบ้าได้ 592 ล้านเม็ด ยาไอซ์ 2.2 หมื่นล้านกิโลกรัม สูงสุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียตะวันออก วันนี้ยาเสพติดเข้าไปถึงระดับครอบครัว ระดับชุมชน เนื่องจากประเทศไทยล้มเหลวในการปราบปรามจับกุม และบำบัดยาเสพติด ทั้งนี้ จากคำแถลงนโยบายรัฐบาลต่อการแก้ปัญหาเรื่องนี้จะใช้แนวทางป้องกัน ปราบปราม และบำบัด ซึ่งตนขอให้ดำเนินการอย่างกระชับ ยึดหลักการผู้เสพเป็นผู้ป่วยต้องได้รับการบำบัดรักษาจนสามารถออกมาประกอบอาชีพได้ ที่ผ่านมามีอดีตผู้นำประเทศเคยปราบปรามกระชับเด็ดขาดใช้เวลาเพียง 3 เดือนเท่านั้นก็แก้ปัญหาได้ วันนี้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง จึงเป็นความหวังขอให้แก้ปัญหาเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
ด้านนายวีระศักดิ์ ภูครองหิน สว. อภิปรายว่า ขอเสนอแนะให้รัฐบาลปรับกรอบเวลาแก้ปัญหายาเสพติด จากที่กำหนดไว้ในกรอบระยะกลาง และระยะยาว เป็นกรอบระยะสั้น เพื่อให้ทำได้ทันที โดยเฉพาะการกำหนดนิยาม ผู้เสพ คือ ผู้ป่วย ต้องทำความเข้าใจที่ชัดเจน ระหว่างผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงระดับนโยบาย ปัจจุบันมีคณะกรรมการดำเนินการทั้งส่วนกลาง และพื้นที่ ทั้งนี้ ตนมองว่าองค์กรที่สำคัญ และมีบทบาทมาก คือ คณะกรรมการหมู่บ้านที่จะช่วยคัดกรองผู้เสพว่าเป็นอย่างไร นอกจากนี้ ผู้ที่เสพยา และได้รับการบำบัดแล้ว จะทำอย่างไรเพื่อให้ใช้ชีวิตหรือคุณภาพชีวิตที่ดี อยู่ร่วมสังคมได้ไม่เป็นปัญหาสังคม
จากนั้นเวลา 09.35 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ชี้แจงว่า เรื่องปัญหายาเสพติดถือว่าสำคัญมาก ตั้งแต่ลงพื้นที่ไปตามจังหวัดต่างๆมีการเรียกร้องจากพี่น้องประชาชนเรื่องนี้อย่างมากไม่ด้อยไปกว่าปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง เรื่องผู้เสพเป็นผู้ป่วยเราดำเนินการแน่นอน และเมื่อหายแล้วเราจะทำอย่างไรที่จะส่งเขากลับคืนอ้อมกอดของครอบครัว สามารถออกไปประกอบอาชีพได้โดยไม่กลับมาเสพอีก ส่วนการดำเนินการกับผู้กระทำผิดเรื่องการยึดทรัพย์ยังเป็นปัญหาอยู่ เราตระหนักถึงเรื่องการยึดทรัพย์โดยเร็ว การทำลายล้างยาเสพติดที่ยึดจับได้ แต่กระบวนการเผาหรือทำลายล่าช้า เราก็ตระหนักถึงปัญหานี้ดี จึงอาจจะมีแผนระยะสั้นเพื่อเร่งรัด
“ยืนยันว่า เราให้ความสำคัญสูงสุดให้สถาบันครอบครัวกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง เรื่องยาเสพติดมีความสำคัญ แต่ต้องใช้เวลาพอสมควร อย่างไรก็ตาม อาทิตย์นี้จะประชุมคณะกรรมการทั้งหมด และจะวางแผนระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว และจะแถลงต่อประชาชนอีกครั้ง” นายกฯ กล่าว