ศิษย์เก่าเรือนจำพิเศษกรุงเทพ “ชูวิทย์” สะกิดดังๆ ทำอะไรพิลึกตอนดึก มันผิดวิสัย ชี้ “3 นิ้ว” เป็นนักโทษการเมือง เป็นของแสลงในคุก หากเป็นอะไรไป “ผบ.เรือนจำ” ต้องรับผิดชอบ
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย แสดงความเห็นทางเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า… เรื่องแปลกแต่จริงในเรือนจำ ในฐานะเป็นศิษย์เก่าเรือนจำพิเศษกรุงเทพ จึงขอชี้แจงแถลงไขให้สาธารณชนเข้าใจแบบตรงไปตรงมา อย่างที่เคยเขียนไว้ในหนังสือ “เหลี่ยมคุก” ไม่ใช่พูดโดยไม่รู้ หรือเข้าข้างกัน
1.มีคดีที่ไหน ขึ้นศาลที่นั่น ติดคุกที่พื้นที่นั้นๆ เช่น ไปก่อเรื่องหรือถูกฟ้องคดีอาญาในกรุงเทพฯ ขึ้นศาลอาญารัชดา หรือศาลอาญากรุงเทพใต้ตรงเจริญกรุง แล้วไม่ได้ประกัน หรือคดีสิ้นสุด จะต้องไปติดคุกที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ หากคดียาเสพติดไปทัณฑสถานบำบัดกลาง หากเป็นผู้หญิงไปทัณฑสถานหญิงกลาง แต่ถ้าถูกจำคุกเกิน 15 ปี ไปเรือนจำคลองเปรม หากหนักกว่านั้น ไปเรือนจำบางขวาง ที่รับนักโทษหนักอุกฉกรรจ์ทั่วประเทศ
ปัญหาคือพวกไม่ได้ประกันตัว มีสถานะว่า ข.ช. หรือขังชาย (หากเป็นหญิง ข.ญ. หรือขังหญิง) พวกนี้คือแบบเพนกวินและพวก ที่มีสถานะ ข.ช. ซึ่งถือว่ายังต่อสู้คดีอยู่ ศาลยังไม่ได้ตัดสินว่าผิดหรือถูก แต่ถูกเอาไปขังรวมกับพวก น.ช. (นักโทษเด็ดขาดชาย) ที่คดีสิ้นสุดแล้ว กระบวนการทางกฎหมายจบแล้ว ได้ “ใบเด็ดขาด” จากศาลมาแล้ว การไปขังรวมกันทำให้ต้องใช้ชีวิตร่วมกัน ย่อมไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องตามหลัก ทั้งกฎหมาย และสิทธิตามรัฐธรรมนูญ แต่ด้วยกรมราชทัณฑ์มีงบประมาณจำกัด พื้นที่จำกัด จึงจำเป็นต้องขังรวมกัน
2.การติดต่อสื่อสาร หรือส่งจดหมายใดๆ ออกมา ต้องถูกตรวจเซ็นเซอร์ทุกฉบับ แม้แต่นักโทษต่างชาติเขียนภาษาอังกฤษ ก็ต้องถูกเซ็นเซอร์หมด ไม่มีทางจะเอาจดหมายออกจากเรือนจำโดยไม่ผ่านตา หรือไม่ถูกอ่านจากผู้คุมได้เลย จะฝากคนออกมาก็ไม่ได้ เพราะต้องถูกค้นตัว ห้ามนำของออก ยกเว้นของส่วนตัว ที่ทนายอานนท์เขียนคงอยู่ในช่วงไปศาล หารือกับทนาย ด้วยตัวเองเป็นทนายด้วย ก็คงได้โอกาสเขียนจดหมายน้อยออกมาได้
3.หลังปิดขัง ตั้งแต่ บ่าย 3 โมง ถึง 6 โมงเช้า 15 ชั่วโมง เหมือนอยู่ในกรงขังที่ถูกปิด ไม่ว่าจะไม่สบาย หรือตาย จะไม่มีทางเปิดห้องขังจนกว่าจะเช้า ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของผู้คุม หากตายก็ทิ้งไว้อย่างนั้น คนข้างๆ ต้องนอนข้างศพยันเช้า
ที่บรรดา 3 นิ้ว ย้ายจากเรือนจำพิเศษธนบุรี มาที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ จะต้องถูกส่งตัวไปแดน 2 โดยทันทีเพื่อกักตัว เหมือนคนอื่นที่เข้าคุกมาใหม่ แม้แต่เยี่ยมญาติก็ทำไม่ได้ หรือจะพบทนายก็ต้องผ่านวีดีโอคอนเฟอเรนซ์เท่านั้น
แต่เที่ยวเข้าไปเอาตัวถึงในห้องขังตอนดึก แล้วอ้างว่าเพราะมาจากเรือนจำพิเศษธนบุรี จึงต้องตรวจโควิดกันตอนดึกๆ ดื่นๆ มันผิดวิสัย เรือนจำทุกที่ล้วนไม่ใช่พื้นที่เสี่ยงแต่อย่างใด
ทำอะไรพิลึก ทั้งๆ ที่รู้อยู่ว่าบรรดา 3 นิ้วเป็นนักโทษการเมือง เพนกวินและพวกเขาธรรมดาที่ไหน? พวกนี้เป็นของแสลงในคุก หากเป็นอะไรไป คนเดือดร้อน คือ ผู้บัญชาการเรือนจำ กฤช กระแสร์ทิพย์ ต้องรับผิดชอบ อย่าไปทำเรื่องแปลกๆ เลยครับ เดี๋ยวเขาจะหาว่ากลั่นแกล้งกัน