“อดิศร” ส่งสัญญาณครม.เร่งยื่นร่างกฎหมายเข้าสภาฯพิจารณาโดยเร็ว ทวงถาม “ก้าวไกล” ต้องเลือกระหว่างผู้นำฝ่ายค้าน -รองปธ.สภาฯ ชี้หาก “หมออ๋อง” ถูกขับจะเรียกว่าว่าอะไร
เมื่อวันที่ 25 ก.ย.66 เวลา 13.20 น.ที่รัฐสภา นายอดิศร เพียงเกษ ประธานคณะกรรมประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล)กล่าวว่า การประชุมวิปรัฐบาลวันนี้ (25 ก.ย.) ว่า เป็นไปตามวาระปกติ เนื่องจากยังไม่มีกฎหมายจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่ก็ได้ส่งสัญญาณไปทางครม. ว่าฝ่ายกฎหมายของทุกกระทรวง ทบวง กรม ควรจะได้มีการเสนอกฎหมายมายังสภาฯ รวมถึงกฎหมายสำคัญๆ เช่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ และประชามติ ควรจะได้แสดงความคิดเห็นต่อสาธารณะที่เข้าใจง่าย ซึ่งครม.ถือเป็นการนับ 1 ทางวิปรัฐบาล นับ 2 จึงต้องทำให้เข้าใจง่าย และทำให้การประชุมมีรสชาติ นอกจากนี้ ในที่ประชุมวิปรัฐบาลยังจะพิจารณาบุคคลไปเป็น คณะกรรมการประสานงานร่วมสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 5 คน ซึ่งวิปรัฐบาลพร้อมแล้ว รอเพียงฝ่ายค้าน
“ท่านกลับจากไทย-ญี่ปุ่นหรือยัง จึงอยากให้ฝ่ายค้านรีบส่งตัวแทน 5 คน มาเป็นคณะกรรมการประสานงานฯเช่นกัน เพื่อให้การประสานงานของทั้ง2ฝ่ายได้ดำเนินการต่อไป”นายอดิศร กล่าว
นายอดิศร กล่าวต่อว่า พรรคก้าวไกล จะเลือกผู้นำฝ่ายค้านหรือรองประธานสภาฯคนที่ 1 ขอให้แจ้งวิปรัฐบาลทราบด้วย อย่าให้เรามโนเอา เพื่อให้คณะกรรมการประสานงานฯขับเคลื่อนไปได้ และพรรคก้าวไกล ต้องเลือกว่าจะเอาตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านหรือรองประธานสภาคนที่ 1 จะเลือกไว้ทั้งสองไม่ได้ ยกเว้นจะเล่นปาฏิหาริย์ทางกฎหมาย ซึ่งเป็นนิติกรรมอำพราง และความสง่างามที่เกิดจากการกระทำ
“ผมส่งความปรารถนาดี ผมเสียดายหมออ๋อง เวลาขึ้นบันลังก์ท่านก็ทำงานได้ดี ขณะเดียวกันผมก็อยากได้ผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ เพราะบทบาทของผู้นำฝ่ายค้าน เป็นบทบาทที่มีสาระสำคัญของชาติบ้านเมือง และยินดีต้อนรับนายชัยธวัช ตุลาธนหัวหน้าพรรคก้าวไกล มาทำหน้าที่เป็นผู้นำฝ่ายค้าน ซึ่งทราบว่าจะมีการเจรจากับ หมออ๋องในสัปดาห์นี้ก็ขออวยพรให้ประสบความสำเร็จทั้งสองคน แต่คงต้องมีคนผิดหวัง 1 คน”นายอดิศรกล่าว
เมื่อถามว่า หากมีการขับนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯคนที่ 1 ออกจากพรรคก้าวไกล เพื่อที่จะให้คงตำแหน่ง รองประธานสภาคนที่ 1 ไว้ ทางวิปรัฐบาลจะมีการยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความหรือไม่ นายอดิศร กล่าวว่า เราจะไม่แทรกแซง เพราะตนเป็นคนเลือกนายปดิพัทธ์ เป็นรองประธานสภาคนที่ 1 ดังนั้นเราจะไม่ตีความคนที่เราเลือกไป และยังเคารพเสียงตอนที่เลือกนายปดิพัทธ์ว่าเป็นเสียงที่สง่างาม ดังนั้นตอนนี้เราอย่าไปแทรกแซง เพราะหายใจอะไรออกไปเขาก็ต่อว่าเราไม่ว่าจะหายใจผิดหรือหายใจถูก
นายอดิศร ยังรับหนังสือ จากนพ.ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ ที่มายื่นร่างพ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข หรือร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งเคยยื่นไปในสมัยประชุมที่แล้วก่อนที่จะยุบสภา จึงมายื่นให้ทางวิปรัฐบาลยื่นต่อสภาฯเพื่อดำเนินการต่ออีกครั้ง โดยมีเนื้อหานิรโทษคดีทางการเมืองทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นทางแพ่งหรืออาญา ยกเว้นคดีทุจริตและคดีที่เกี่ยวกับมาตรา 112
