“บิ๊กโจ๊ก” เผย “เฮียแต๋ม”ตั้งโต๊ะแถลงวันนี้ช่วงบ่าย ลั่นมีข้อมูลลับเปิดมาตายกันหมด แต่ที่ไม่ทำเพราะยังรักองค์กร ยืนยันไม่อาฆาตแค้นใคร
เมื่อวันที่ 27 ก.ย.66 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. กล่าวในรายการ “เจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์” ถึงการให้สัมภาษณ์ว่า ต้องมีค่าใช้จ่ายให้ลูกน้องในการทำงานเดือนละ 1 ล้านยาทว่า ในประเด็นทั้งหมด เป็นสิ่งที่มองกันว่า ตนนำเงินเว็บพนันมาใช้ทำงาน ขอเรียนว่า ในการทำงานทุกวันนี้ มีเงินราชการลับ ถามว่าพอหรือไม่ ไม่มีทางพอ เพราะว่าต้องดูผลงานตนทำมาทั้งประเทศ ลูกน้องทำงานมันใช้เงินมหาศาล ถามว่าทำงานไม่ใช้เงินมันโกหก
“ถามว่า ผมไม่เอาเงินส่วนตัว ไม่เอาเงินมาทำงาน มันจะทำงานให้ประชาชนขนาดนี้ได้อย่างไร ถามว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้อะไรผมบ้าง ก็ขอเรียนตรงๆ ว่า หลักคิดของผมอาจไม่เหมือนคนอื่น เพราะพ่อผมเป็นตำรวจชั้นประทวน เป็นนายดาบ พ่อก็สอนมาว่า เมื่อมาเป็นตำรวจ ก็ต้องทำงานให้ประชาชน ประกอบกับผมไม่มีลูก มองว่าแทนที่จะเอาเงินมาส่งลูก ส่งลูกไปเรียนต่างประเทศ หรือเอาเงินไปสร้างวัด ก็เอาเงินมาทำงานให้ประชาชนดีกว่า อันนี้คือส่วนที่ผมไม่ต้องไปใช้เงินเหมือนคนอื่น อย่างเงินที่ผมได้จากพ่อ 17 ล้านบาท ก็มอบให้กับโรงพยาบาลในพื้นที่สงขลาทั้งหมด อันไหนเสียสละได้ ก็เสียสละ”พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุ
เมื่อถามว่า ค่าใช้จ่ายในการทำงานให้ลูกน้อง แค่ล้านเดียวหรือมากกว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า บางเดือน 2 ล้าน บางเดือน 1 ล้าน เฉลี่ย 1.5 ล้านบาท ถึง 1.6 ล้านบาท เกินจากงบประมาณลับ ซึ่งงบลับได้มาประมาณ 5-6 แสนบาท ประมาณ 2 เดือนให้ครั้งหนึ่ง ที่ผบ.ตร.ให้มา อย่างคดี “แอม ไซยาไนด์” เราไปตั้งฐานที่นครปฐม ต้องจ่ายค่าอาหารเช้า-เที่ยง-เย็น-เบรกก่อนเที่ยงบ่าย-โรงแรม ถามว่าเราจะทำงานอย่างรวดเร็ว ตนไม่เคยให้ลูกน้องต้องจ่าย ถามผู้บัญชาการภาค 7 ได้ ผบ.ตร.ก็รู้ เราทำคดีนี้ 3 เดือน ตนหมดไป 7-8 แสนบาทอันนี้แค่คดีเดียว แล้วมันจะไม่ถึงล้านตรงไหน ถามว่ามันอาจไม่มีใครบ้าแบบตน ถ้าไม่ไล่ตนแบบนี้ตนจะไม่พูด เดี๋ยวหาว่าตนไปโม้ แต่ลูกน้องทุกคนรู้หมด
เมื่อถามว่า คำนวณอย่างหยาบๆ เท่ากับต้องชักเนื้อเดือนหนึ่งไม่ต่ำกว่า 1 ล้าน คือที่ชักเนื้อไม่ต่ำกว่าเอามาจากไหน รองผบ.ตร. กล่าวว่า เป็นเงินของตนเอง เป็นเงินถูกต้องตามกฎหมาย เป็นเงินของภรรยา เป็นเงินของที่บ้านของตนเอง
เมื่อถามว่า เพราะจ่ายเดือนให้ลูกน้องมาก จึงมีคำถามมาก ถามตรงๆ ตัวภรรยามีเงินมากขนาดเลยหรือ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตั้งแต่ “พ่อตา” เสีย เฉพาะมรดกที่ยังไม่ได้แบ่ง ก็เกือบพันล้าน จะไม่มีเงินได้ยังไง ตนเรียนตรงๆ เลยว่าเราไม่มีค่าใช้จ่ายอะไร เราไม่ได้อยู่อย่างหรูหรา แต่เราไม่ใช่ไม่มีเงิน วันนี้เราสองคนตั้งใจทำอะไรก็ได้ทำบุญในอาชีพ และตนก็ตั้งใจแล้วว่าตนย้ายจากสำนักนายกฯ ตนได้กราบพระแก้วพระแก้วมรกต จะอุทิศตนกับประเทศชาติ
เมื่อถามอีกว่า “พ่อตา” มีเงินจริงๆ แกก็ซับพอร์ตลูกเขยคนนี้ จะได้ไม่ใจแตก ก็ตายไปเป็นปีแล้ว กงสีก็ยังไม่ได้แบ่ง แล้วจะมีเงินเหลือไปถึงมือภรรยาไปใช้จ่ายหรือ รองผบ.ตร. กล่าวว่า มี ส่วนนี้เป็นเงินของพ่อตา พอพ่อตาตาย แม่ยายก็เป็นผู้จัดการมรดก ตนไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน วันนี้ต้องเรียนว่า เมื่อสองอาทิตย์ที่แล้ว ที่บ้านบอกว่า มีคนมาขอซื้อที่ดินร้อยกว่าล้าน เรายังไม่ตัดสินใจขายเลย ถ้าตนบอกว่าตนขายแล้วตนจะไม่มีเงินตรงๆ
เมื่อถามว่า จ่ายเดือนละล้าน นานหรือยัง รองผบ.ตร.กล่าวว่า ตนทำมานาน ตั้งแต่มีพ่อตาเป็นแบ็กอัพให้ตน ตนจ่ายไม่อั้น ลูกน้องรู้หมด ไปถามผู้จัดการภาคได้ ตนไม่เคยให้ลูกน้องมาจ่าย แต่สังคมอาจจะงง ตนเป็นตัวอย่างของการปฏิรูปตำรวจตัวเอง เพราะเราต้องเลี้ยงลูกน้อง ไม่ใช่ให้ลูกน้องมาเลี้ยง ไม่เช่นนั้น งานจะออกมาอย่างนี้
ถามว่า มีกระแสขู่ถ้าไม่หยุดเคลื่อนไหว จะเช็กเงินไปถึง เมีย-น้อง-แม่ เพราะมีเส้นทางเงินบัญชีม้า รองผบ.ตร. กล่าวว่า ไม่มีปัญหา ไม่เป็นไรก็ต้องให้แม่ไปสอบ น้องไปสอบ แม่อายุ 85 ปี แต่ตนก็อาจจะให้ไปสอบที่บ้านและอาจจะให้หมอไปนั่งด้วยเพราะเดี๋ยวจะหัวใจวาย เขาอายุมากแล้ว ไม่ได้แข็งแรง
ส่วนกรณีที่พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพันธ์ ผบช.กมค. จะเรียก “เฮียแต๋ม” สอบปากคำ รองผบ.ตร. กล่าวว่า แกไม่ช็อกเพราะก่อนหน้านี้แกโดนป.ป.ช.สอบไปแล้ว แกก็ชี้แจงว่า แกมีรายได้ต่อปี 7-8 ร้อยล้าน แกเป็นเจ้าของปั๊มน้ำมัน ขายรถฮีโน่ เรากำลังพูดอยู่ว่า ตนอยู่บ้านคนทำเว็บพนันหรือไม่ เราก็ต้องดูว่า เฮียแต๋มเขาไม่ได้ทำเว็บพนัน ตนก็บอกว่าวันนี้ให้เขาแถลงเลย โดยจะแถลงที่สำนักงานทนายความ บ่ายๆ อยากให้นักข่าวไปฟังให้หมด พี่แต๋มบอกว่า ตอนนี้นักข่าวไปอุดรฯเต็มไปหมด แต่เขาอยู่กทม.มีออฟฟิศ ตนก็บอกว่าไม่ต้องหลบอะไรทั้งสิ้น ตั้งโต๊ะแถลงไปเลยของเราชัดเจน ไปสอบเลย
เมื่อถามว่า บิ๊กโจ๊กจะเอาคืนหรือไม่ รองผบ.ตร. กล่าวว่า ปฏิบัติการนี้ ตนไม่เอาคืน แต่ข้อมูลที่ตนมีมาก ถ้าเปิดเมื่อไหร่ก็ตายกันหมด แต่ไม่ขอบอก ยืนยันไม่คิดอาฆาตแค้นใคร เรื่องนี้ไม่เอาคืน แต่ข้อมูลมีมาก ตนทำอย่างตรงไปตรงกันมา มันไม่ใช่แบบที่จ่ายของตน ไม่มีใครจ่ายให้ตนเว็บพนัน
ถามต่อว่า ที่บอกว่าข้อมูลตนมีมาก ถ้าเปิดเมื่อไหร่ ตายกันทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เงื่อนไขไหนจะเปิดข้อมูล รองผบ.ตร. กล่าวว่า วันนี้ยังไม่ขอตอบ ตนมีข้อมูลทั้งหมด แบบที่ทำแบบนี้ ตนก็ทำได้ แต่ยังรักษาองค์กรอยู่ แต่ที่ทำกับตนแบบนี้ ก็ไปดูแล้วกันว่า ทำถูกต้องหรือไม่ ขอหมายค้น โกหกศาล หลักการขอหมายศาล ถ้าเป็นตำรวจต้องไปขอศาลอาญาทุจริตกลาง ทำไมไม่ขอ เพราะเข้มงวด ถ้าเป็นนายตำรวจยศสูง ให้ออก “หมายเรียก” ก่อน จึงไม่ได้ขอจึงไปขอที่ศาลกรุงเทพใต้ ศาลกรุงเทพใต้ก็ไม่ได้ใส่ “ยศ” ไปใส่ “นาย” เพราะหลอกศาลและยัดไส้รวมกันพลเรือนหมด
“ส่วนอีกอันคือมาขอ “หมายค้น” ที่บ้านผมที่ศาลอาญารัชดา เห็นว่ามันไม่เชื่อมต่อกัน ถามว่า คุณมาค้นบ้านผม ค้นเพื่อพบผู้ต้องหา ซึ่งเป็น “นายเวร” ผม แล้วมีหรือจะไม่รู้ว่าเป็นบ้านผม อันนี้คือการไปโกหกศาล ถามว่า ถ้าบอกศาลตามจริง ศาลไม่ออก “หมายค้น” หรอก ซึ่งมันต้องมีเส้นทางเงินมาถึงผมเลย เพียงแต่งานรู้ว่า จะมีการประชุมอะไรเร่งไปหน่อย และขอไม่พูดลึกขอให้คิดเอง ก็เลยรีบไปหน่อย ผมไม่ขอตอบประชุมอะไร แต่ในงานสืบสวน เวลารีบ มันจะทิ้งร่องรอยการผิดปกติ แต่ห่วงลูกน้องเล็กๆ จะตายซะก่อน วันนี้เริ่มกินยาพารากันได้เลย เมื่อวานได้ยื่นศาลแล้ว วันนี้ก็จะยื่นอีกเรื่องการละเมิดอำนาจศาลอีก ไปถามศาลได้เลย ต่อไปตำรวจจะขอ “หมายศาล” ก็ “ขอยาก” แน่นอน” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว
