วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlight“หมอมิ้ง”ยันคำนึงถึงวินัยการเงินการคลัง ถาม“คนเป็นหนี้ 99% เปราะบางหรือยัง”
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“หมอมิ้ง”ยันคำนึงถึงวินัยการเงินการคลัง ถาม“คนเป็นหนี้ 99% เปราะบางหรือยัง”

“นพ.พรหมินทร์”ถามกลับคนเป็นหนี้เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์เปราะบางหรือยัง ยืนยันไม่เปลี่ยนหลักการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ลั่นรัฐบาลยึดวินัยการเงินการคลังเป็นสำคัญ

เมื่อวันที่ 10 ต.ค.66 ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีนักวิชาการออกมาคัดค้านนโยบายดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาทว่า ตนว่าเรื่องดิจิทัล วอลเล็ต เป็นเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งในนโยบายทั้งหมดของรัฐบาล ขณะนี้อย่านึกว่าเศรษฐกิจของเราดี เพราะเมื่อเทียบกับต่างประเทศหลังยุคโควิดเขาฟื้นตัวเกินหน้าเราไปแล้ว ขณะที่ของเราค่อยๆ ขยับช้าๆ แสดงว่าเศรษฐกิจเราไม่ได้ดีอย่างที่พูดกัน ความสำคัญเรื่องนี้ต้องถามประชาชน มาตรการสำคัญคือทำอย่างไรให้สังคมส่วนใหญ่ได้ประโยชน์ สำหรับดิจิทัล วอลเล็ต เป็นมาตรการหนึ่งซึ่งเกี่ยวข้องสัมพันธุ์กับเศรษฐกิจโดยรวม ที่ผ่านมาเราลดค่าใช้จ่ายประชาชนด้านพลังงานไปแล้ว การพักหนี้เกษตรกรก็ตามมา อีกด้านหนึ่งเราพยายามสร้างรายได้

ต่อข้อถามว่า ประชาชนส่วนใหญ่อยากได้การแจกเงินดิจิทัล วอลเล็ต แต่รัฐบาลจะเปิดเวทีชี้แจงคนที่ไม่เข้าใจนโยบายนี้หรือไม่ นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการชี้แจงหลายเวที วันที่ 9 ต.ค. กระทรวงการคลังแถลงใหญ่ในเรื่องนี้ เพื่อทำให้เห็นว่าภารกิจของรัฐบาล คือทำให้ประเทศเจริญเติบโตขึ้น ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น

เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ จะเปลี่ยนเป้าหมายให้เฉพาะกลุ่มเปราะบางไม่ได้หวานทั้งหมด นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า ตนนี้ประชาชนกว่า 99 เปอร์เซ็นต์ เป็นหนี้ไปแล้ว อย่างนี้แสดงว่าทุกคนเปราะบางหรือยัง แน่นอนว่าเวลาจัดการมีหลายกติกามีทางเลือก เพื่อให้อย่างเท่าเทียมกัน ส่วนจะมีการทบทวนการจ่ายให้คนอายุ 16 ปีทุกคนหรือไม่ เพราะบางคนเป็นลูกคนรวย หรือจะเปลี่ยนวิธีจ่ายเงินมาใช้ระบบ “เป๋าตัง” ที่มีฐานข้อมูลอยู่แล้วหรือไม่นั้น จะเปลี่ยนทำไม หลักการสำคัญตอนคิดนโยบายเพื่อให้ประโยชน์ทั้งหมด และได้มีการเตรียมพร้อมเรื่องนี้เราต้องมาดูว่าจะบริหารจัดการกันอย่างไร ทิศทางเราเห็นแล้วแต่รายละเอียดที่เกี่ยวกับข้อจำกัดทั้งเรื่องกฎหมาย การบริหารการเงินจะต้องทำอย่างไร ที่ผ่านมารัฐบาลไทยรักไทย ทำให้ประเทศที่เป็นหนี้สินประเทศเกือบล้มละลาย กลับมาคืนหนี้ได้ก่อนกำหนด 2 ปี ซึ่งเราคำนึงถึงวินัยการเงินการคลังอย่างดีและสร้างรายได้จนประเทศพ้นวิกฤติ ยืนยันเราเป็นห่วงที่สุดเรื่องวินัยการเงินการคลัง

เมื่อถามว่า จะตอบประชาชนอย่างไรกับการแจกเงินให้ลูกเศรษฐี นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญกำหนดให้ทุกคนเท่าเทียมกัน เพราะฉะนั้นมีสิทธิเท่ากัน แต่คนเลือกไม่รับก็ไม่เป็นไร ส่วนนักวิชาการออกมาเห็นห่วงจะซ้ำรอยนโยบายจำนำข้าวนั้น รัฐบาลที่ผ่านๆ มาเรากู้เงินประมาณ 1.5 ล้านล้านบาท การนำใช้ 5 แสนล้านบาท ตนคิดว่าเราใช้อย่างระมัดระวังและรู้ว่าเม็ดเงินที่ลงไปจะทำให้เกิดความเจริญเติบโต

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img