“คารม” เผยผู้บริหารในทำเนียบฯสั่งจำกัดทีมโฆษกรัฐบาลเข้าครม. ให้สลับคิวรองโฆษกฯร่วมประชุมครั้งละ 1 คน ยอมรับจะมีความยากในการสื่อสารและสุ่มเสี่ยงกับการให้คำตอบกับสื่อฯที่มาถาม เหตุอ่านจากเอกสารไม่เท่ากับฟันด้วยตัวเอง
เมื่อวันที่ 11 ต.ค.66 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีรายงานข่าวว่าโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรองโฆษกฯเพียงหนึ่งคน สลับกันเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี ในแต่ละสัปดาห์ ว่า ได้รับแจ้งทางข้อความจากนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ ว่าเป็นนโยบายของผู้บริหารในการให้รองโฆษกฯหนึ่งคนสลับหมุนเวียนเข้าประชุม ตนไม่มีปัญหาขัดข้องอะไร แต่ยอมรับว่าจะมีความยากในการสื่อสารและสุ่มเสี่ยงกับการให้คำตอบกับสื่อที่มาถามได้ เพราะการอ่านจากเอกสารก็ไม่เท่ากับที่เข้าไปได้ยินและรับฟังความชัดเจนด้วยตัวเอง หากในสัปดาห์นั้นมีเรื่องของกระทรวงของพรรคตัวเองเข้าเสนอที่ประชุม แต่รองโฆษกไม่ได้เข้า แล้วต้องมาติดตามมติอีกครั้งหลังจบการประชุมไปแล้ว เพื่อที่จะสื่อสารออกไป ทั้งนี้ไม่ทราบจุดประสงค์ของผู้บริหาร ที่มีตำแหน่งสูงกว่าโฆษกฯที่นโยบายออกมาเช่นนี้ และไม่ทราบมาก่อนว่ามีระเบียบเกี่ยวกับการกำหนดตัวบุคคลที่เข้าร่วมประชุมครม.อย่างไร ทั้งนี้ตนได้แจ้งนโยบายดังกล่าวให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ได้รับทราบก่อนที่จะประชุมครม. เมื่อวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมารับทราบแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ติดใจกับนโยบายดังกล่าวหรือไม่เนื่องจากในอดีตไม่มีการจำกัดทีมโฆษกรัฐบาลในการเข้าร่วมประชุม นายคารม กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าในรัฐบาลอื่นๆก่อนหน้านี้ ทีมโฆษกรัฐบาลปฏิบัติกันอย่างไร แต่ขณะนี้ผู้บริหารมีนโยบายอย่างไรก็ว่าไปตามนั้น ไม่ขัดข้อง
เมื่อถามย้ำว่า นโยบายดังกล่าวหมายความว่า พรรคเพื่อไทยไม่ไว้วางใจรองโฆษกของพรรคร่วมรัฐบาล หรือไม่ นายคารม กล่าวว่า ไม่มีประเด็นดังกล่าว เพราะเคยบอกกับโฆษกฯตั้งแต่แรกว่าเคยอยู่กับพรรคไทยรักไทย มาก่อน การทำงานไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
“การมารับตำแหน่งรองโฆษกรัฐบาล ถือว่ามีความรับผิดชอบสูง เพราะเป็นตำแหน่งโฆษกฯที่มาจากพรรคร่วมรัฐบาล และทางโฆษกรัฐบาลให้ความชัดเจน ว่ารองโฆษก ที่มาจากแต่ละพรรคให้แถลงในเรื่องที่พรรคตัวเองรับผิดชอบ”นายคารม กล่าว
เมื่อถามว่า การให้รองโฆษกรัฐบาลสลับกันเข้าร่วมประชุม เกรงว่าจะมีปัญหาเรื่องการสื่อสารผิดพลาดหรือไม่ นายคารม กล่าวว่า ก่อนที่เข้ามามีความกังวลเรื่องของงานเอกสารต่างๆ เนื่องจากว่าเป็นนักกฎหมาย จึงระวังในการทำหน้าที่อย่างมาก
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลอันดับสอง ไม่สามารถท้วงติงในเรื่องนี้ได้หรือไม่ นายคารม กล่าวว่า ไม่คิดว่าเรื่องนี้จะเป็นประเด็นใหญ่ คิดเพียงเรื่องการทำงานให้ราบรื่น
เมื่อถามว่า จะมีการสะท้อนความเห็นคัดค้านนโยบายดังกล่าวหรือไม่ นายคารม กล่าวว่า ไม่ขอแสดงความเห็น เพราะเป็นเรื่องผู้บริหาร พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ขึ้นอยู่กับผู้บริหาร ทั้งนี้ รัฐบาลผสมเปรียบเหมือนรุ้งกินน้ำที่มีหลายสี เมื่อมองภาพรวมแล้วดูสวย แต่ก็ผสมมาจากหลายสี ดังนั้นถ้ามองให้สวยก็สวย
