“อดิศร” จวก “ก้าวไกล” จ้องยื่นซักฟอกรัฐบาล ไล่กลับซักฟอกตัวเองให้สะอาดก่อน ตองดูกาละเทศะก่อนบริหารแค่เดือนเดียว ดัดคอข้อมูลต้องแน่นอย่าหาตามเน็ต/ข่าวตัดแปะจาก นสพ. กระตุกมอง “ปชป.” ฝีมือเหนือกว่าหลายขุมยังนิ่ง
วันที่ 16 ต.ค.2566 ที่รัฐสภา นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร หรือ วิปรัฐบาล กล่าวว่า การประชุมสภาฯสัปดาห์นี้จะเพิ่มในวันศุกร์ที่ 20 ต.ค.ด้วย
เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคฝ่ายค้าน โดยเฉพาะพรรคก้าวไกล เตรียมยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐบาล หลังการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 เสร็จสิ้น ว่า รัฐบาลเพิ่งเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ได้ราว 1 เดือน แต่มีผลงานมากมาย จึงขอให้พรรคฝ่ายค้านดูจังหวะช่วงเวลาที่เหมาะสมตามกาละเทศะด้วย เพราะในการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ก็เสมือนการอภิปรายย่อย ๆ โดยเฉพาะนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท ซึ่งสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือ นิด้า ก็เปิดเผยผลการสำรวจความคิดเห็นประชาชนมาแล้วว่า ประชาชนร้อยละ 79 สนับสนุน
“ฝ่ายค้านควรจะซักฟอกตนเองให้ขาวสะอาดก่อน เพราะทราบมาว่า ฝ่ายค้าน ก็กำลังถูกซักฟอกเอง โดยเฉพาะการคุกคามทางเพศ จึงขอให้ซักฟอกตนเองให้สะอาดแล้วค่อยมาเจอกันในศึกซักฟอก ซึ่งรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีเองก็พร้อม และยินดี ไม่เกรงกลัว พร้อมชี้แจงทุกข้อกล่าวหา”นายอดิศร กล่าว
เมื่อถามว่า มีการคาดการณ์อาจจะมีการอภิปรายจริยธรรมรัฐมนตรีบางคนภายในรัฐบาลด้วย นายอดิศร กล่าวว่า บางครั้งฝ่ายค้าน อย่างเพียงนำแต่ข่าวตัดแปะในหนังสือพิมพ์มา เพราะการอภิปรายไม่ไว้วางใจ คือการไม่ให้รัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ต่อ ไม่ใช่การแสดงโวหารภายในสภา และหากฝ่ายค้านมีข้อมูลใด ก็สามารถซัดรัฐบาลได้เลย แต่หากเป็นข้อมูลการกล่าวหาลอย ๆ ค้นหาข้อมูลตามโซเชียล ก็ไม่ได้สมกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ดังนั้นควรจะซักฟอกตนเองให้สะอาดก่อน และต้องการทราบผลการตรวจสอบภายในฝ่ายค้านด้วย เพราะถือเป็นเรื่องสะเทือนขวัญ หากเกิดขึ้นจริงในพรรคการเมืองขนาดใหญ่
“พรรคประชาธิปัตย์เป็นเรื่องน่าห่วงมาก เพราะว่ามีประสบการณ์ มีฝีไม้ลายมือแล้ว ส่วนตัวมองว่าพรรคประชาธิปัตย์เหนือกว่าพรรคก้าวไกลหลายขุม แต่มวยใหญ่เขาจะไม่ออกอาการ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ใช่ธรรมดานะ ถ้าวันไหนคืนดี ท่านชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นมานี่ สนุกไปเลย แต่ว่าจะมีสาระ” นายอดิศร กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ย้ายไปสังกัดพรรคเป็นธรรม ซึ่งก็ยังเป็นขั้วพรรคร่วมฝ่ายค้าน นายอดิศร ปฏิเสธให้ความเห็น พร้อมบอกว่าได้ตัดสินไปแล้ว ที่เหลือก็ให้พี่น้องประชาชนเป็นผู้ตัดสิน แล้วขออวยพรให้ท่านทำหน้าที่รองประธานสภาฯ ประสบความสำเร็จ เพื่อสภาเราจะได้เดินหน้าต่อไป