“อดีตรองอธิการฯ มธ.” เชื่อมีต่างชาติหนุนหลัง “ม็อบกร่าง” ทั้งทุน-อบรม-เตรียมทางหนีทีไล่ หลังพบจนท.ทูต 14 ปท. ไปร่วมฟังคดี “เพนกวิน” ตั้งข้อสังเกตทำไม “แกนนำ” กล้าเผา-กล้าหมิ่นศาล-กล้ากร่างกับตร. โดยไม่เกรงกลัวกม. ทุ่มสุดตัว เอาตัวเองเสี่ยงคุก
เมื่อวันที่ 22 มี.ค.64 รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้โพสต์ให้ความเห็นผ่าน เฟซบุ๊กส่วนตัว Harirak Sutabutr ระบุว่า ม็อบ 20 มีนาคม ที่สนามหลวงมีคนมาชุมนุมเป็นหลักร้อย ส่วนใหญ่เป็นผู้มีอายุ และมีมวลชนเสื้อแดงร่วมด้วยเป็นจำนวนมาก ไม่สอดคล้องกับชื่อกลุ่มผู้นัดชุมนุม คือ New Dem หรือ เยาวชนปลดแอกเดิมเลยสักนิด ม็อบมีเป็นหลักร้อย แต่ตำรวจควบคุมฝูงชนมีกว่า 3,000 คน เวลา 20 น. เศษ ม็อบเหลือแค่ 50 กว่าคน ส่วนใหญ่เป็นพวกการ์ดที่ยังสนุกกับการก่อกวนตำรวจอยู่
กระนั้น ม็อบก็ยังคงมีพฤติกรรมรุนแรงเหมือนเดิม มีการขว้างปาสิ่งของรวม ทั้งขวดแก้ว ทั้งก้อนหิน ระเบิดปิงปองใส่ตำรวจ ในขณะตำรวจก็ใช้รถฉีดน้ำแรงดันสูง และกระสุนยาง เพื่อผลักดันไม่ให้ม็อบมุ่งหน้าไปที่บรมมหาราชวัง ดูเหมือนม็อบครั้งนี้จะพุ่งเป้าไปที่สถาบันพระมหากษัตริย์ตรงๆ มีการเทขยะใส่ และเผาทำลายพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 เพียงแต่มีจำนวนคนน้อยไป จึงไม่สามารถฝ่าแนวของตำรวจควบคุมฝูงชน ไปยังที่หมายตามที่ประกาศไว้ได้
น่าคิดว่า ทั้งๆ ที่รู้ว่า เป็นไปไม่ได้แล้วที่จะทำให้คนมาชุมนุม อย่าว่าแต่เป็นหลักแสน หลักล้าน อย่างที่คุย แค่หลักพันก็ยังไม่ได้ แล้วทำไมจึงยังต้องดึงดันจัดม็อบให้ได้ โดยไม่รอให้มีเงื่อนไขที่สุกงอมมากกว่านี้ เหมือนกับมีอะไรมากดดันให้ต้องทำกระนั้น ทำไมแกนนำม็อบทั้งหลายจึงกล้าปราศรัย และกระทำการอันเป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพซ้ำแล้วซ้ำเล่า อย่างไม่กลัวกฎหมาย ทั้งที่ศาลได้เคยอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวแบบไม่ต้องวางเงินประกัน แต่มีเงื่อนไขว่า ต้องไม่ไปทำอย่างเดิมอีก
ทำไมทุกคนจึงกล้ากร่างกับตำรวจ
ทำไมแอมมี่จึงกล้าเผาพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 10 หน้าเรือนจำคลองเปรม ทั้งยังถ่ายคลิปไว้ด้วย
ทำไมเพนกวินจึงกล้า หมิ่นศาล ละเมิดอำนาจศาล ในห้องพิจารณาคดี อย่างที่ไม่เคยมีใครกล้าทำเช่นนี้มาก่อน ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อตัวเองแต่อย่างใดเลย
โดยปกติ ต่อให้เป็นอาชญากรใจหินอย่างไร เมื่อถูกตำรวจจับกุมตัว หรืออยู่ต่อหน้าศาล ไม่เคยเห็นมีใครกล้ากร่างกับตำรวจ และกับศาลแม้แต่คนเดียว เชื่อได้ยากว่า พวกเขากล้าทำ และยอมติดคุก ยอมรับผลกรรม เพื่ออุดมการณ์ล้วนๆ โดยไม่มีผลตอบแทนอย่างอื่นที่คุ้มค่า การทำม็อบแต่ละครั้ง ไม่ว่าจะอ้างว่า ไม่มีแกนนำ หรือมีแกนนำ อย่างไรก็ต้องใช้เงิน แค่ค่าใช้จ่ายของการ์ดอย่างเดียว ก็ต้องใช้เงินเป็นหลักแสนแล้วในการชุมนุมแต่ละครั้ง การทำโปสเตอร์ หรือแบนเน่อร์ นัดชุมนุมใน social media ทั้งงาน creative และงานศิลป์ บอกได้เลยว่าเป็นมืออาชีพ ต้องใช้เงิน ลำพังแค่เงินบริจาคจะเพียงพอหรือ
คำถามที่ยังไม่มีใครตอบได้ชัดคือ พวกกองหน้าหน่วยกล้าตาย เช่น รุ้ง เพนกวิน ไมค์ ระยอง ไผ่ ดาวดิน แอมมี่และคนอื่นๆ พวกเขาได้อะไร จึงยอมทุ่มสุดตัว และเอาอนาคตตัวเองเข้ามาเสี่ยงเช่นนี้ เกี่ยวข้องกับการที่เจ้าหน้าที่สถานทูต 14 ประเทศ ไปร่วมฟังคดีเพนกวินหรือไม่ เจ้าหน้าที่สถานทูตกลุ่มนี้เป็นกลุ่มเดียวกับที่ไปสังเกตุการณ์และร่วมรับฟัง กรณีธนาธรไปรับทราบข้อกล่าวหาตามมาตรา 116 เมื่อ 2 ปีที่แล้ว
ยิ่งวันยิ่งน่าเชื่อว่า การเคลื่อนไหวทั้งหมดนี้ ผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ไม่ใช่มีเพียงพรรคการเมือง หรือกลุ่มการเมืองในประเทศเท่านั้น แต่ยังมีต่างชาติสนับสนุน ทั้งเงินทั้งการให้การอบรม ตลอดจนเตรียมทางหนีทีไล่ เพื่อต้องการให้มีการเปลี่ยนรัฐบาลชุดปัจจุบัน ไปเป็นรัฐบาลที่ยังประโยชน์ให้ประเทศตัวเองได้ กระทั่งควบคุมได้ น่าคิดนะครับ