วันเสาร์, พฤศจิกายน 23, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlight"แบงก์ชาติ"แจง"กมธ.เศรษฐกิจ" ยันเงินดิจิทัล จำเป็นน้อย
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“แบงก์ชาติ”แจง”กมธ.เศรษฐกิจ” ยันเงินดิจิทัล จำเป็นน้อย

“แบงก์ชาติ” แจง “กมธ.เศรษฐกิจ” ยันเงินดิจิทัล จำเป็นน้อย ชี้บริโภคภาคเอกชน-แรงงานกำลังฟื้นตัวแล้ว ด้าน “สส.สิทธิพล” เผย “ก.คลัง” ปิดปากเงียบกริบยืมเงินรัฐวิสาหกิจทำโครงการหรือไม่

วันที่ 19 ต.ค.2566 ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การพัฒนาเศรษฐกิจ สภาฯ ที่มีนายสิทธิพล วิบูลย์ธนากุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานกมธ.การพัฒนาเศรษฐกิจ ได้พิจารณานโยบายของรัฐบาลว่าด้วยดิจิทัลวอลเล็ต โดยมีน.ส.ดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศ(ธปท.) สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน พร้อมด้วยตัวแทนจากกระทรวงการคลัง และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) มาชี้แจง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ดารณี ย้ำว่าโครงการดังกล่าวจะใช้งบประมาณ 5.6 แสนล้านบาท โดยผู้ที่มีสิทธิ์จะต้องมีอายุ 16 ปีขึ้นไป จะได้รับเงินจำนวน 1 หมื่นบาท ซึ่งรัฐบาลต้องการกระตุ้นอุปโภคบริโภคของประชาชน แต่มุมมองของธปท. เห็นว่า ตัวเลขเศรษฐกิจในครึ่งปีแรกที่เกี่ยวกับการบริโภคภาคเอกชน มองว่าความจำเป็นต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมผ่านโครงการนี้ยังมีไม่มาก เนื่องจากภาพรวมการบริโภคภาคเอกชนขยายตัวได้สูง และตลาดแรงงานก็ฟื้นตัวต่อเนื่อง ดังนั้น ผลของโครงการต่อเศรษฐกิจอาจจะไม่ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย

ด้านนายสิทธิพล เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ยังรอความชัดเจนของนโยบาย ซึ่งผู้แทนจากกระทรวงการคลังยังไม่สามารถให้รายละเอียดที่ชัดเจน แต่ยังให้โอกาสรัฐบาลในการทำนโยบาย และเชื่อว่ารัฐบาลพยายามฟังเสียงรอบด้าน ทั้งข้อเสนอแนะ และข้อทักท้วง ซึ่งจะเป็นกระบวนการสำคัญที่ทำให้รัฐบาลออกแบบนโยบายได้ดี และไม่ทำให้เกิดผลเสีย หรือเกิดผลเสียให้น้อยที่สุด

“อยากให้รัฐบาลคำนึงถึงผลกระทบรอบด้าน ข้อดี ข้อเสียของนโยบาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแหล่งที่มาของงบประมาณ การนำไปใช้ วิธีการ ผลกระทบระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งทางกระทรวงการคลังชี้แจงว่า ยังอยู่ในระหว่างการหารือการตั้งคณะกรรมการ คณะทำงานในเรื่องต่างๆ ซึ่งเร่งทำอยู่ วันนี้ทางกระทรวงการคลังไม่ได้ชี้แจงเรื่องแหล่งที่มาของเงิน บอกแต่เพียงว่ากรอบงบประมาณที่ใช้จะคำนึงถึงวินัยการเงินการคลัง แต่ไม่ได้บอกว่าจะมีการนำแหล่งเงินจากการยืมจากรัฐวิสาหกิจหรือไม่ ซึ่งกมธ.จะมีการติดตามความคืบหน้าของโครงการการนี้ต่อไป” นายสิทธิพล กล่าว

เมื่อถามว่าโครงการนี้จะเกิดประโยชน์ได้จริงหรือมีผลเสียมากกว่าผลดีหรือไม่ นายสิทธิพล กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับรัฐบาล เรารอความชัดเจนของนโยบายถึงจะได้ประเมินได้ครบถ้วน เพราะในขณะนี้ประเมินจากข้อคิดเห็น และการนำเสนอผ่านสื่อเท่านั้น และหากพูดในฐานะสส.คนหนึ่ง ก็อยากให้โครงการนี้คุ้มค่ากับงบประมาณ

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img