หน้าแรกHighlightปูดจ่าย300บาทเก็บสำเนาบัตรประชาชน “ชลน่าน”คาดมีเงินสะพัด2หมื่นล้านบาท!

ปูดจ่าย300บาทเก็บสำเนาบัตรประชาชน “ชลน่าน”คาดมีเงินสะพัด2หมื่นล้านบาท!

- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ชลน่าน” เผยจังหวัดน่านจ่ายหัวละ300บาท เริ่มเก็บสำเนาบัตรประชาชนแล้วหวั่นซื้อเสียงระบาดหนักชี้กูรูการเมืองมองเลือกตั้ง 69 เงินสะพัดไม่ตากกว่า 20,000 ล้าน

เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.68 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และว่าที่ผู้สมัคร สส. เขต 2 จังหวัดน่าน พรรคเพื่อไทย (พท.) เปิดเผยว่า การเลือกตั้งที่จะถึงนี้ เป็นการเลือกตั้งในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ เพราะยังคงมีการสู้รบกับระหว่างกองทัพไทยและกองทัพกัมพูชา นอกจากนี้พบว่าหลายจังหวัดที่ประสบเหตุน้ำท่วมยังคงอยู่ระหว่างการฟื้นฟูพื้นที่หลังประสบเหตุอุทกภัยยังไม่เสร็จสิ้น รวมถึงกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เลือกยุบสภาก่อนกำหนดเพื่อหนีตรวจสอบของฝ่ายค้าน สถานการณ์ปัจจุบันหลายฝ่ายมองว่าเป็นยุคที่เงินนอกระบบหรือที่ชาวบ้านเรียกว่าทุนเทาระบาดไปทุกวงการ ดังนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้จึงไม่ปกติ

นพ.ชลน่าน กล่าวด้วยว่า การเลือกตั้งรอบนี้ คาดกันว่าจะเป็นการเลือกตั้งที่ทุกพรรคการเมืองใช้ทุกกลยุทธ์และทุกวิธีการเพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะในสนามเลือกตั้ง เพราะก่อนการเลือกตั้งมีการบางพรรค ใช้ทุกวิธีการเพื่อรวบรวมสมาชิกพรรคและดูดอดีตสส.จากทุกพรรคการเมืองให้ได้มากที่สุด มีรายงานข่าวว่ามีการใช้ทุน ใช้เงิน เข้ามาเป็นปัจจัยสำคัญในการโน้มน้าวสส.ให้หลายคนย้ายขั้วย้ายค่ายเพื่อลงเลือกตั้งครั้งนี้ซึ่งเป็นภาวะสุ่มเสี่ยงต่อการกินรวบประเทศได้ ดังนั้นจากปัจจัยดังกล่าวเชื่อว่าจะมีการกลั่นแกล้งกันทางการเมืองสูงมาก อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าสังเกตุว่าเหตุใดนักวิเคราะห์ทางการเมืองหลายท่านประมาณการณ์ว่าการเลือกตั้งในปี 2569 คาดว่าจะเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท ซึ่งมีความเป็นไปได้มาก

“ทั้งนี้จากการลงพื้นที่พบว่าในพื้นที่จังหวัดน่านมีกลุ่มคนเริ่มออกปฏิบัติการที่สุ่มเสี่ยงต่อการผิดกฎหมายเลือกตั้ง คือเริ่มมีการเก็บสำเนาบัตรประชาชน ตามหมู่บ้านต่างๆซึ่งคนเดินเก็บสำเนาได้ใบละ 50 บาท และเจ้าของบัตรจะได้รับจำนวน 300 บาท ซึ่งวัตถุประสงค์ในการเก็บไม่ชัดเจน ในขณะที่ชาวบ้านไม่ได้มีการเขียนกำกับว่าไปใช้เพื่อการใด หวั่นใจว่าจะนำสำเนาบัตรประชาชนที่เก็บไปนำใช้ในทางที่ก่อให้เกิดความเสียหายเช่นกลุ่มผู้ไม่หวังดีหรือกลุ่มอาชญากรรมทางไซเบอร์นำไปเปิดบัญชีม้า ซึ่งอาจจะส่งผลให้พี่น้องประชาชนเดือดร้อนอาจตกเป็นเหยื่อผู้ไม่หวังดีๆได้ ดังนั้นผู้มีส่วนรับผิดชอบต้องตรวจสอบและร่วมกันป้องกันปัญหาดังกล่าว ก่อนที่จะเกิดความเสียหายและส่งผลกระทบกับประชาชนในพื้นที่ได้ อยากให้ประชาชนรู้เท่าทันกับความไม่ชอบมาพากลดังกล่าว” นพ.ชลน่านกล่าว

- Advertisement -spot_imgspot_img
RELATED ARTICLES

HIGHLIGHT

- Advertisment -spot_img
spot_img

Most Popular

- Advertisement -spot_img
spot_img
- Advertisement -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img