วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
spot_img
หน้าแรกNEWS"ไชยามพวาน" โผล่แจงปัดคุกคามทางเพศ โค้งคำนับขอโทษ เชื่อมีกระบวนการ "ดิสเครดิต" ในพื้นที่
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ไชยามพวาน” โผล่แจงปัดคุกคามทางเพศ โค้งคำนับขอโทษ เชื่อมีกระบวนการ “ดิสเครดิต” ในพื้นที่

“ไชยามพวาน” โผล่แจงปัดคุกคามทางเพศทีมงาน ก้มตัวโค้งขอโทษสังคม หลบหน้า พร้อมแจง “กกต.” พิสูจน์ตัวเอง ขอดูเอกสารให้ชัดก่อนตั้งโต๊ะเคลียร์ทุกประเด็น ผิดจริงพร้อมออกจากพรรค เชื่อมีกระบวนการ “ดิสเครดิต”ในพื้นที่

วันที่ 1 พ.ย.2566 เวลา16.45น. รัฐสภา นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม. พรรคก้าวไกล ปรากฏตัวให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนเป็นครั้งแรก ภายหลังถูกคณะกรรมการวินัย พรรคก้าวไกล สอบสวนกรณีถูกกล่าวหาคุกคามทางเพศทีมงาน โดยจะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค และสส.พรรค เพื่อพิจารณาความรับผิดของผู้ถูกร้อง ในวันนี้(1พ.ย.) ตั้งแต่เวลา17.00น. เป็นต้นไป

โดยนายไชยามพวาน ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องดังกล่าวว่า ตนต้องขอโทษทีมงานพรรค ประชาชนเขตจอมทอง และท่าข้าม ที่ที่ผ่านมาตนไม่ได้ออกมาชี้แจง การที่ตนจะชี้แจงอะไรหลายๆอย่าง หันซ้ายก็คือทีมงานที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาผ่านสมรภูมิการเลือกตั้งที่ผ่านมา ทำให้กล้ำกลืนฝืนทน จะพูดอะไรก็ลำบากใจ เพราะจะส่งผลกระทบต่อทีมงานตน หันขวาก็เจอพรรคที่ตนรัก พูดอะไรก็จะส่งผลกระทบต่อพรรค ส่วนหลักฐานต่างๆ เช่น ช่องแชทส่วนตัวที่เกิดขึ้นต้อง ขอโทษที่ทำให้พรรคลำบาก เพราะตนรวมถึงพรรคก็ไม่รู้จะชี้แจงอย่างไร

นายไชยามพวาน กล่าวต่อว่า ขณะที่กระบวนการที่ต้องดำเนินต่อไปคือกระบวนการของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ตามที่มีผู้ไปร้องเรียน ให้ตรวจสอบคุณสมบัติผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตนจะขอพิสูจน์ในชั้นนี้ ตนคิดว่าการเข้าสู่กระบวนการของกกต.จะส่งผลดีกับทุกฝ่าย เพราะถ้าหากพรรคตัดสินออกมาเบาหรือหนัก ก็จะเป็นข้อครหาว่าพอตัดสินคนในพรรคเองกลับเบาหรือหนัก ดังนั้นการเป็นคนกลางอย่างกกต.ที่มาตัดสิน จะทำให้ผู้ร้องเรียนได้ความเป็นธรรม และความไว้วางใจเพิ่มมากขึ้น ทำให้มั่นใจในกระบวนการยุติธรรม

“จากที่ผู้ร้องร้องเข้ามาในทุกกรณี ผมยืนยันว่าไม่ได้มีพฤติกรรมตามที่ผู้ร้องร้องเข้ามาในทุกพฤติกรรม โดยเฉพาะเรื่องการคุกคามทางเพศ วันนี้ผมตั้งใจที่จะขอโทษจริงๆที่เงียบหายไป ที่ทำให้ทุกคนลำบากใจ การเงียบหายไปไม่ได้ส่งผลดีกับใคร วันนี้ผมพร้อมเข้าสู่กระบวนการของกกต.อย่างสุดความสามารถ”นายไชยามพวาน กล่าวพร้อมโค้งตัวก้มลงไปขอโทษผ่านสื่อมวลชน

เมื่อถามว่าหากพรรคก้าวไกลตัดสินออกมาว่าผิดวินัยร้ายแรง นายไชยามพวาน กล่าวว่า เป็นส่วนของพรรค แต่ตนพยายามยืนยันที่จะทำให้สังคมรู้สึกว่ามีความเป็นธรรมที่สุด วันนี้ตนในฐานะผู้ถูกร้องก็ยังไม่ได้เห็นหลักฐานต่างๆของผู้ร้องเลยว่าเป็นอย่างไรบ้าง ตนจึงจะมาขอหลักฐานที่เป็นเอกสารข้อกล่าวหา เพื่อที่จะได้สื่อสารกับสื่อมวลชนว่าเป็นอย่างไร เมื่อได้ทราบหลักฐานแล้ว ตนพร้อมที่จะชี้แจงกับสื่อมวลชนทั้งหมด

เมื่อถามว่าในชั้นของกรรมการบริหารพรรคว่าได้ชี้แจงอย่างไรบ้าง นายไชยามพวาน กล่าวว่า เป็นข้อกล่าวหาที่ยังไม่มีหลักฐานที่เป็นเอกสาร เราตั้งใจจะคลายไปทีละข้อไปพร้อมกับสังคม

เมื่อถามว่ายืนยันที่จะเป็นสส.ต่อ เพื่อต่อสู้กับข้อเท็จจริงหรือไม่ นายไชยามพวาน กล่าวว่า เราจะสู้กับข้อเท็จจริง ยืนยันว่าตนจะไม่มีการฟ้องผู้ร้องแน่นอน เพราะเรามีความสัมพันธ์กับทุกคนในการทำงานที่ผ่านมาด้วยดี เพราะฉะนั้นถ้าจะความเข้าใจผิดอะไรก็ตาม ตนเป็นลูกผู้ชาย ยืนยันอีกครั้งว่าจะไม่มีการฟ้องผู้ร้อง แต่กระบวนการยุติธรรมตนต้องเข้าเพื่อพิสูจน์ต่อไป

เมื่อถามว่า ถ้าพรรคมีมติออกมาทางใดทางหนึ่งจะทำอย่างไร เนื่องจากโทษวินัยร้ายแรงที่สุดคือการตัดสิทธิ์ หรือขับออกจากพรรค นายไชยามพวาน กล่าวว่า เป็นกระบวนการของพรรค ตนเป็นห่วงพรรคและผู้ร้อง จึงอยากให้ทุกฝ่ายได้รับความเป็นธรรมจากฝ่ายที่เป็นกลาง คือกกต. เพื่อไม่ให้เป็นข้อครหา

เมื่อถามว่าแต่ถ้าพรรคไม่ทำอะไรจะทำให้เกิดข้อครหาหรือไม่ เพราะทางพรรคเคยแถลงยอมรับเองว่าเข้าข่ายความผิดวินัยร้ายแรง นายไชยามพวาน กล่าวย้ำว่า กระบวนการที่ตนไม่อยากให้มีข้อครหาก็คือความเป็นธรรมจากฝ่ายที่เป็นกลาง ตนเข้าสู่กระบวนการกกต.แล้ว และพร้อมพิสูจน์ความจริงไปพร้อมๆกับทุกคน

เมื่อถามว่าหากพรรคมีมติขับออกจากพรรค พร้อมน้อมรับหรือไม่ นายไชยามพวาน กล่าวว่า ยืนยันอีกครั้งตนตั้งใจมาเพื่อยืนยืนว่าการเข้าสู่กระบวนการที่เป็นกลางเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะมันเข้าใจได้ในส่วนของการพิพากษาในอนาคต หากกกต.ชี้ว่าตนผิด ตนพร้อมที่จะออกจากพรรคก้าวไกลอยู่แล้ว แต่ถ้าตนถูกก็ว่าไปตามถูก

เมื่อถามว่าจะบอกว่ากระบวนการของพรรคเป็นไม่เป็นกลางหรือไม่เป็นธรรม นายไชยามพวาน กล่าวว่า ตนไม่เคยพูดอะไรแบบนั้น แต่บอกว่าการเข้าสู่กระบวนการของกกต.ทุกฝ่ายจะได้รับความเป็นธรรม

เมื่อถามว่า หากพรรคมีมติว่าผิดรุนแรงต้องขับออกจะมีการลาออกจากสส. เพื่อเปิดทางให้มีการเลือกตั้งใหม่หรือไม่ นายไชยามพวาน กล่าวว่า ตนขอยังไม่ตอบ

เมื่อถามว่ามองว่าเรื่องดังกล่าวเป็นการดิสเครดิสจากฝ่ายตรงข้ามหรือไม่ นายไชพามพวาน กล่าวว่า อย่างที่เห็นว่ามันมีกระบวนการดิสเครดิสตนในพื้นที่ ตนไม่อยากพูดอะไรมาก อยากพิสูจน์ข้อเท็จจริงต่อกกต.มากกว่า แล้วค่อยไปสู่กระบวนการที่ว่าการพยายามดิสเครดิตตรงนี้คือเรื่องจริงหรือไม่ ยืนยันอีกครั้งตนไม่ได้มีพฤติกรรมในการคุกคามทางเพศทั้ง3เรื่องที่ผู้ร้องร้องเรียน

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img