“เรืองไกร” จ่อบุกร้อง กกต.สอบ “รมช.-สุทิน” มีเหตุพ้นจากรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 ประกอบมาตรา 187 หรือไม่ หลังพบมีหุ้นส่วนในบริษัท
วันที่ 6 พ.ย. 66 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เปิดเผยว่า วันนี้เวลาประมาณ 10.00 น. ตนจะไปยื่นหนังสือขอให้ กกต. ตรวจสอบนานไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ กับนายสุทิน คลังแสง รมว. กลาโหม มีเหตุทำให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามความในรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 ประกอบมาตรา 187 หรือไม่ โดยกรณีของนายไชยา พบข้อเท็จจริงว่า เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2566 นายไชยา ได้รับแต่งตั้งเป็นรมช.เกษตรและสหกรณ์ แต่ในวันที่ 16 ก.ย. 2566 นางอัญชลี พรหมา ในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการ กลับแจ้งต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าว่า “ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศรีบุญเรืองวัฒนา ได้รับชำระเงินลงหุ้น เป็นเงิน 300,000 บาท จาก น.ส.อธิษฐาน พรหมา เพื่อชำระเป็นเงินลงหุ้นจากการเพิ่มทุนของห้างหุ้นส่วนจำกัด ศรีบุญเรืองวัฒนา โดยชำระเป็นเงินสดลงหุ้น 300,000 บาท (สามแสนบาทถ้วน) ไว้เรียบร้อยแล้ว” กรณีดังกล่าว จึงมีเหตุอันควรตรวจสอบว่า ในช่วงระหว่างวันที่ 1-16 ก.ย.2566 นางอัญชลี พรหมา ยังคงเป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนจำกัด ศรีบุญเรืองวัฒนา และยังเป็นหุ้นส่วนอยู่ ตามที่นายไชยา แจ้งไว้ต่อ ป.ป.ช. กรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. เมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2566 ว่ามีเงินลงทุนใน หจก.ศรีบุญเรืองวัฒนา ในนามคู่สมรส หรือไม่ หากนางอัญชลี ยังคงเป็นหุ้นส่วนและผู้จัดการอยู่ จะเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายไชยา สิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) ประกอบมาตรา 187 หรือไม่
นายเรืองไกร กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีของนายสุทิน พบข้อเท็จจริงว่า เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2566 นายสุทิน ได้รับแต่งตั้งเป็นรรมว.กลาโหม แต่ข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ณ วันที่ 3 พ.ย.2566 ที่ระบุว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัด คลังแสงอีสาณ มีหุ้นส่วนรวมเป็นมูลค่า 1,200,000 บาท โดยมีนางฉวีวรรณ คลังแสง เป็นหุ้นส่วนอยู่ 1,000,000 บาท และเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ ด้วย ดังนั้น จึงมีเหตุอันควรตรวจสอบโดยเร็วว่า ณ วันที่ 3 พ.ย. 2566 นายสุทิน ยังคงไว้ซึ่งความเป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนจำกัด คลังแสงอีสาณ จำนวน 1,000,000 บาท ในนามคู่สมรส ซึ่งคิดได้เกินร้อยละห้า หรือไม่ และคู่สมรสยังเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการอยู่ หรือไม่ หากยังคงไว้ จะเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายสุทิน สิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) ประกอบมาตรา 187 หรือไม่
“ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 187 มีเงื่อนไขยกเว้นไว้ด้วย จึงขอให้ กกต. นำพระราชบัญญัติการจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรี พ.ศ. 2543 มาประกอบการพิจารณาด้วย หาก กกต. เห็นว่า ทั้งสองรัฐมนตรี มีเหตุเข้าข่ายจะทำให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว ขอให้รีบส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยต่อไป และขอให้ศาลสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ไว้ก่อนด้วย”นายเรืองไกร กล่าว