วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
spot_img
หน้าแรกNEWS“จาตุรนต์”เผยกมธ.สร้างสันติภาพใต้ฯรับฟังความเห็นทุกฝ่าย จ่อสรุปกลางม.ค.ปีหน้า
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“จาตุรนต์”เผยกมธ.สร้างสันติภาพใต้ฯรับฟังความเห็นทุกฝ่าย จ่อสรุปกลางม.ค.ปีหน้า

“จาตุรนต์” เผยกมธ.ศึกษาสร้างสันติภาพใต้ฯรับฟังความเห็นทุกฝ่ายเตรียมสรุปกลาง ม.ค.ปีหน้า เล็งชงสภาฯตั้งกมธ.ติดตามงานคณะเจรจาคุยสันติสุข -ปรับแก้กฎหมายเอื้อสร้างสันติภาพ

เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.66 ที่รัฐสภา นายจาตุรงค์ ฉายแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาการสร้างสันติภาพในสามจังหวัดชายแดนใต้ กล่าวถึงการประชุมสัมมนา “การสร้างความเข้าใจรากเหง้าความขัดแย้ง และกระบวนการสร้างสันติภาพชายแดนใต้/ปาตานี”ว่า หลังจากคณะกรรมาธิการฯทำงานมาระยะหนึ่ง มีประเด็นสำคัญที่กำลังพิจารณาศึกษาและศึกษาต่อไปถึงบทบาทของรัฐสภาต่อกระบวนการพูดคุยสันติภาพ มองว่าควรจะมีคณะกรรมการของสภาฯและควรจะมีกฎหมายอะไรที่เอื้อต่อการพูดคุยสันติภาพและทำให้การพูดคุยสันติภาพสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ได้ โดยปรับการทำงานของฝ่ายบริหาร เพื่อให้เกิดการทำงานที่เป็นเอกภาพ และมีเจ้าหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง ทำงานเต็มเวลา เพราะคณะกรรมาธิการฯเห็นปัญหาที่ยังไม่เป็นเอกภาพ ยังไม่มีความชัดเจน ในการจัดระบบการทำงาน และคงต้องศึกษาต่อไปว่าระบบการทำงานที่จะเป็นประโยชน์ควรจะเป็นอย่างไร รวมทั้งขจัดอุปสรรคต่อการเดินหน้าคุยสันติภาพที่ปราศจากความหวาดกลัว และนำขึ้นสู่ความเป็นสากล เพราะเห็นว่า ยังมีอุปสรรคในเรื่องนี้ และมีความเห็นที่แตกต่างกัน เช่นควรจะมีการลงนามหรือไม่ ควรจะทำให้การพูดคุยเป็นทางการหรือไม่ ทั้งนี้เป็นเรื่องน่ายินดี ที่รัฐบาลตั้งคณะทำงานพูดคุยสันติสุขขึ้นมาแล้ว แต่เป็นข้าราชการทั้งหมดและหัวหน้าคณะเป็นพลเรือน ซึ่งเราคงแลกเปลี่ยนกับคณะนี้ และเห็นว่าควรจะมีองค์กรหรือคณะกรรมาธิการเฉพาะ ที่จะช่วยส่งเสริมผลักดัน ติดตามการทำงานการพูดคุยสันติภาพเป็นการเฉพาะ เพราะที่ผ่านมาบทบาทของฝ่ายนิติบัญญัติจะจำกัด แม้แต่การรับรู้ความคืบหน้าต่างๆก็มีน้อย

นายจาตุรนต์ กล่าวว่า คณะกรรมาธิการชุดนี้จะร่างเป็นข้อเสนอต่อสภาฯ เพื่อเสนอไปยังรัฐบาลต่อไป คาดว่ากลางเดือนม.ค.ปีหน้าน่าจะมีข้อสรุปบางส่วนออกมารวมถึงข้อสรุปในข้อบัญญัติและการแก้ไขกฎหมายที่เอื้อต่อการสร้างสันติภาพโดยรวม ซึ่งมีข้อเสนอเรื่องการออกกฎหมายใหม่ การแก้กฎหมายเดิมที่มีอยู่ รวมทั้งการทบทวนการบังคับใช้กฎหมายพิเศษในพื้นที่ ทั้งกฎอัยการศึก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ร.บ.ความมั่นคง โดยจะมีการศึกษาเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการสร้างสันติภาพ และเป็นประโยชน์ต่อการทำให้เกิดความสงบ การอยู่ร่วมกันของประชาชนในพื้นที่ อย่างมีสันติสุข

นายจาตุรนต์ กล่าวต่อว่า ต้องศึกษาถึงการปรับงบประมาณ ให้สอดคล้องกับแนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างสันติวิธีและสอดคล้องกับแนวทางทางการเมือง เพราะที่ผ่านมาจะได้ยินตัวเลขการใช้งบประมาณไปในหลายปีเป็นจำนวนสูงถึง 5 แสนล้านบาท รวมทั้งการจัดงบประมาณในส่วนที่เกี่ยวกับปัญหาความมั่นคง ในการแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธีและแสวงหาทางออกทางการเมือง ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องการความมีส่วนร่วมของประชาชนและที่สำคัญ งบประมาณที่เกี่ยวกับการพัฒนาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ควรจะสอดคล้องกับความต้องการของคนในพื้นที่ เพื่อเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยการทำงานของคณะกรรมาธิการคาดหวังการมีส่วนร่วมจากทุกฝ่ายและคาดหวังว่าเราจะสามารถทำข้อเสนอ ที่เป็นประโยชน์ต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งและการสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นในจังหวัดชายแดนภาคใต้

นายจาตุรนต์ กล่าวอีกว่า สำหรับกรอบการทำงานของคณะกรรมาธิการฯนั้น นายจาตุรนต์กล่าวว่าสภามอบหมายให้ทำงาน 90 วันแต่จากที่ฟังผู้เชี่ยวชาญ มีแนวโน้มว่าอาจจะต้องขยายเวลาและจากนี้ จะทำ 2 ส่วนคือตั้งหัวข้อในการศึกษาพิจารณาที่ชัดเจน และจะมีการ รับฟังลงพื้นที่ โดยต้นเดือนหน้าจะลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 2-3 ครั้ง และให้อนุกรรมาธิการไปรับฟัง และคาดว่าจะทยอยมีข้อสรุป ที่เป็นข้อเสนอในประเด็นใหญ่ๆได้ ซึ่งระหว่างนี้อยู่ระหว่างการเตรียมทีมงานร่างข้อเสนอ ส่วนการตั้งคณะพูดคุยขึ้นเป็นส่วนหนึ่งที่คงจะศึกษา ดูว่ามีจุดอ่อนจุดแข็งอย่างไร โดยจะเชิญผู้มีประสบการณ์จากการพูดคุยทุกชุดมา ให้ความเห็นในสัปดาห์หน้า และอีกส่วนคือการจัดการบริหารความรับผิดชอบการแก้ปัญหาความขัดแย้ง ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งได้รับผลกระทบจากคำสั่งคสช.ส่วนหนึ่ง และหน่วยงานที่ดูแลพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบบัญชาการโดยนายกรัฐมนตรี แต่ไม่มี ระบบในการประสานเชื่อมโยงองค์กรเหล่านี้เข้าด้วยกัน ทำให้แต่ละหน่วยงานหรือกฎหมายคนละฉบับ ศอบต

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img