วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlight‘เศรษฐา’เบี้ยวแจง‘กมธ.ตร.’ปมตั๋วฝาก ‘สมศักดิ์’แจง‘นายก’พูดอยู่ที่คนตีความ
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

‘เศรษฐา’เบี้ยวแจง‘กมธ.ตร.’ปมตั๋วฝาก ‘สมศักดิ์’แจง‘นายก’พูดอยู่ที่คนตีความ

“เศรษฐา” เบี้ยวชี้แจง “กมธตำรวจ” ส่ง “สมศักดิ์” แจงปมฝากตั้งผกก. ยันคำพูดนายกฯ อยู่ที่คนตีความ แต่หลักการของกฎหมาย ฝ่ายการเมืองแทรกแซงการแต่งตั้งไม่ได้ เชื่อสส.พท. ห่วงปมแก้ปัญหายาเสพติด ฝากนายกฯเร่งดูแล

เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.66 เวลา 09.30 น.ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธาน กมธ. โดยมีวาระพิจารณากรณีที่ปรากฎข่าวว่านายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและรมว.คลัง กล่าวถึงการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับ “ผู้กำกับการ” เป็นเหตุให้เกิดความเคลือบแคลงสงสัย ว่าจะมีการใช้อำนาจก้าวก่ายหรือแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ซึ่งนายกฯ มอบหมายให้นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกฯ เข้าชี้แจงแทน

โดยนายชัยชนะ กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องกระทำผิดตามเอกสาร แต่เป็นคำพูดของนายกฯ คนที่ชี้แจงได้ดีที่สุด คือนายกฯ เพราะเป็นการพูดภายใต้จิตสำนึกของนายเศรษฐา ข้อเท็จจริงอยู่ในตัวเอง เมื่อนายกฯติดภารกิจที่สำคัญมากกว่าประเทศคือสัมมนาพรรคเพื่อไทย ดังนั้นขอให้รองนายกฯ พูดภายใต้กรอบกฎหมาย แต่ขอฝากถึงนายกฯด้วยว่า หากไม่สะดวกมาที่สภาฯ แต่ว่างๆ กมธ.จะขอไปเจอที่ทำเนียบรรัฐบาล เพื่อสอบถามสิ่งที่พูดดังกล่าว ได้ยั้งคิด หรือหมายถึงอะไร

ทั้งนี้นายสมศักดิ์ ชี้แจงต่อกมธ.ว่า การแต่งตั้งใคร ไม่ใช่ใช้ความรักหรือความชอบ เพราะต้องทำตามกรอบของรัฐธรรมนูญ 2560 มีกรอบตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ตำรวจแห่งชาติ และแนวทางตามกรอบจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไว้ ซึ่งกำหนดหลักการไว้คือ ข้าราชการการเมืองไม่สามารถเข้าไปก้าวก่ายแทรกแซงการปฏิบัติราชการตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงแต่งตั้งโยกย้าย โอน เลื่อน ย้าย ข้าราชการ เว้นแต่เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย นอกจากนั้นแล้ว การโยกย้ายข้าราชการต้องคำนึงถึงหลักคุณธรรม ความรู้ความสามารถ ความเหมาะสม กรณีที่มีการเสียประโยชน์จากการแต่งตั้ง หรือมีข้อร้องเรียนการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจนั้น ตามพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ มีกลไกที่จะรับเรื่องราวร้องทุกข์และร้องเรียน รวมถึงมีกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมตำรวจ ซึ่งมีกรรมการเป็นระดับอัยการสูงสุด และอดีตนายตำรวจ รวมถึงภาคประชาชนเข้าร่วม ซึ่งกำกับดูแลการแต่งตั้งให้เป็นไปตามระบบคุณธรรม ดังนั้นตนมองว่า กลไกที่กำหนดไว้ในพ.ร.บ.ตำรวจ ที่ทำให้เกิดการปฏิรูประบบราชการตำรวจนั้น มีความน่าเชื่อถือที่จะตอบสนองความเป็นธรรม คุณธรรมด้านต่างๆ

“คำพูดของนายกฯตามที่วิจารณ์กันไปนั้น อาจมองได้หลายแง่มุม แล้วแต่คนที่จะคิด แต่การทำงานที่ชัดเจนตามกรอบกฎหมาย หากมองว่านายกฯพูดนั้น ไม่ใช่ แต่นายกฯได้ยืนยันแล้วว่า ภาพรวมที่สส.ได้เจตนาให้นายกฯทำงานแก้ปัญหายาเสพติด โดย สส.กดดันให้นายกฯต้องหาคนดี มีคุณธรรม และขาวสะอาดเพื่อไม่ให้มีปัญหาการรับเงินรับทอง นายกฯบอกว่าตอบสนองทุกคนไม่ง่าย เพราะเป็นเรื่องที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งนายกฯเพียง 2 เดือน แต่ในภาพรวมอยากให้ได้คนดีมาแก้ปัญหายาเสพติด และหนี้นอกระบบ ในการสัมมนาพรรคเพื่อไทย ได้ตั้งกลุ่มพูดคุยที่ตรงกันคือปัญหายาเสพติด ส่วนคนที่จะคิดอย่างไร เป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์ทราบในข้อเท็จจริงตามกฎหมายในอนาคต” นายสมศักดิ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กมธ.ได้ซักถามในรายละเอียด โดยนายณัฐพงษ์ สุมโนธรรม สส.สมุทรสาคร พรรคก้าวไกล ฐานะรองประธานกมธ. ซักถึงประเด็นระบบตั๋วการแต่งตั้งตำรวจ และนโยบายการแก้ปัญหายาเสพติด ที่มีข้อสังเกตว่าสามารถให้นโยบายกับผู้บัญชาการตำรวจได้โดยตรง แต่ประเด็นที่นายกฯ ระบุว่า มีคนสมหวังหรือไม่สมหวังในระดับผู้กำกับ โดยนายชัยชนะ กล่าวว่า เป็นคำพูดของนายกฯ ที่นายกฯควรจะมาตอบ

โดยนายสมศักดิ์ กล่าวยืนยันว่า เจตนารมณ์ของนายกฯเรื่องตั๋วตำรวจและการปราบยาเสพติด ตามที่ปราากฎเป็นข่าวคำให้สัมภาษณ์ของ ผบ.ตร. 23 พ.ย.66 ยืนยันว่าไม่มีระบบตั๋ว รวมถึงคำสัมภาษณ์ของนายกฯ ฐานะประธาน ก.ตร. ที่ขอให้ ก.ตร. การสร้างระบบคุณธรรมในราชการตำรวจ เพื่อทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพ และเพื่อให้ประชาชนพึงพอใจ ต้องรับฟังประชาชนในพื้นที่ ซึ่งไม่ใช่การขอบุคคลรายใดรายหนึ่งเพื่อมาดำรงตำแหน่ง

อย่างไรก็ดี นายณัฐพงษ์ พยายามซักถามถึงรวมถึงการลาออกของผู้กำกับการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ภูเก็ต แสดงถึงความผิดหวังหรือไม่ ซึ่งนายชัยชนะ กล่าวว่า ในหลักการของการโยกย้าย ตม.ภูเก็ตควรสอบถามนายกฯ เพราะเป็นประธานก.ตร. อีกทั้งกมธ.การตำรวจมีหน้าที่รับเรื่องร้องเรียน และพร้อมที่จะตรวจสอบ ดังนั้นขอให้ กมธ.เข้าใจในหลักการ จึงขอฝากไปยังนายกฯถึงการปราบปรามปัญหายาเสพติด บ่อนการพนัน ส่วนประเด็นการโยกย้ายนั้น เป็นสิ่งที่นายกฯควรมาชี้แจงด้วยตนเอง เพราะเมื่อครั้งที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ยังเคยมาชี้แจงกับกมธ.ตำรวจ ดังนั้นนายเศรษฐาอย่าหนีการชี้แจง เพราะนายกฯเป็นลูกผู้ชายตัวจริง

ทั้งนี้หลังการชี้แจงต่อกมธ.การตำรวจ นายสมศักดิ์ให้สัมภาษณ์ว่า กมธ.ไม่ได้ติดใจในรายละเอียดตามประเด็นที่พิจารณา แต่ต้องการพบกับนายกฯ ในโอกาสหน้าที่ทำเนียบรัฐบาล ทั้งนี้เหตุผลที่นายเศรษฐาไม่ได้มาชี้แจงด้วยตนเอง เนื่องจากติดสัมมนาพรรคเพื่อไทย ที่จ.นครราชสีมา

ต่อจากนั้นเวลา 10.30 น. นายสมศักดิ์ เข้าชี้แจงต่อ กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ ที่มีนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เป็นประธานกมธ. ซึ่งมีวาระพิจารณาในประเด็นเดียวกัน

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img