“กมธ.การเกษตรฯ” เรียก “ดีเอสไอ” แจงคืบหน้าล้างบางหมูเถื่อน คาดกุมภาฯ 67 กระชาก “ตัวการใหญ่” โยง “บิ๊กบ้านเมือง-ขรก.-นายทุน” แน่ ลั่นจะเกาะติดถึงที่สุด ไม่ปล่อยเรื่องเงียบ ฝาก 5 ประเด็นคาใจเร่งคลียร์
เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.66 เวลา 15.00 น. คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การเกษตรและสหกรณ์ สภาผู้แทนราษฎร นำโดย นายศักดินัย นุ่มหนู สส.ตราด พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานกมธ.ฯ นายณรงเดช อุฬารกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธานกมธ.คนที่ 3 แถลงภายหลังการประชุมกมธ.ฯ กรณีความคืบหน้าการตรวจสอบการนำเข้าหมูเถื่อน
โดยนายศักดินัย กล่าวว่า กมธ.ได้เชิญกลุ่มผู้เลี้ยงสุกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้ามาให้ข้อมูล รวมถึงปัญหาผลกระทบที่เกิดขึ้นจากราคาหมูที่ตกต่ำ ทั้งผลิตภัณฑ์ อาหารสัตว์มีราคาสูง และมีการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนจำนวนมากนอกจากนี้ยังได้เชิญกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มาชี้แจงกระบวนการนำเข้าหมูเถื่อนด้วย ซึ่งเรื่องนี้เมื่อตรวจสอบลงลึกในรายละเอียด พบว่าเป็นขบวนการใหญ่ มีผลประโยชน์มหาศาล เชื่อมโยงทั้งข้าราชการ นักการเมือง และนายทุนที่นำเข้าฯ ขณะที่หัวหน้าชุดสอบสวนดีเอสไอ ยืนยันกับกมธ.ว่า จะเดินหน้าดำเนินการต่อไปไม่มีสิ่งใดมาบั่นทอนกำลังใจ แม้ก่อนหน้านี้จะมีการโยกย้ายอธิบดีดีเอสไอ ส่วนกระบวนการการทำลายซากหมูเถื่อน วันนี้ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจน แม้แต่ดีเอสไอก็ยังไม่ทราบว่าดำเนินการไปอย่างไร กมธ.ฯจะต้องมีการขอเรียกดูเอกสารต่อไปเนื่องจากเรื่องนี้มีกฎระเบียบรองรับ
“ทางผู้เกี่ยวข้องในการตรวจสอบ ได้เปรยๆ ออกมาแล้วว่า เป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่มีผู้ที่มีอำนาจในบ้านเมือง หรือเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง คาดว่าในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2567 สังคมอาจจะได้เห็นว่าใครบ้างที่จะมีส่วนพัวพันเกี่ยวข้อง ทางกมธ.ฯยืนยันว่าจากนี้จะมีการวางแนวทางควบคุม ป้องกัน โดยในวันที่15ธ.ค.นี้ กมธ.ฯจะลงพื้นที่บริเวณท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อดูกลไกการนำเข้าตู้สินค้าต่างๆ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่าง กรมศุลกากร กรมปศุสัตว์กรมประมง จะมีมาตรการอย่างไรในการควบคุมสินค้าที่นำเข้ามาสู่ในประเทศ ยืนยันว่ากมธ.ฯจะดำเนินการต่อเนื่องให้ข้อเท็จจริงปรากฎ เพื่อป้องกันการนำหมูเถื่อนเข้ามา เมื่อมีหมูเถื่อน ก็ย่อมต้องมีเจ้าหน้าที่เถื่อน เราจะติดตามหมูเถื่อน จากเจ้าหน้าที่เถื่อนๆ ไม่ให้เรื่องนี้หยุดไปเฉยๆหรือเงียบหายไป เพื่อให้ประชาชนสบายใจว่าขบวนการนี้จะต้องล้มหายตายจากไป” ประธานกมธ.การเกษตรฯ กล่าว
ด้านนายณรงเดช กล่าวว่า กมธ.ได้สอบถามประเด็นเพิ่มเติมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ 1.ระบบ NSW ของกรมศุลกากรที่เป็นระบบให้ชิปปิ้งกรอกข้อมูล พบว่าสามารถกรอกข้อมูลที่ไม่ตรงตามความเป็นจริง ถือเป็นจุดเริ่มต้นขบวนการนำเข้าหมูเถื่อน จึงอยากทราบว่าได้มีการปรับปรุงแก้ไขหรือไม่ 2.กรมศุลกากรยังไม่ได้ส่งมอบเอกสารสายเรือของสินค้าที่มีกระบวนการนำเข้าให้กับพนักงานสอบสวนเลย ทางกรมศุลฯควรให้ความร่วมมือ เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพ 3.การสุ่มตัวอย่างตรวจสอบสินค้าปนเปื้อนของกรมประมง ในขั้นตอนการนำเข้าหมูเถื่อนมีการแจ้งเท็จว่าสินค้าเป็นปลา ทางกรมประมงก็ยังไม่ได้มีการส่งมอบข้อมูลนี้ให้พนักงานสอบสวนเช่นกัน 4.การขยายผลหมูเถื่อนที่มีการนำเข้ามาในประเทศแล้วสวมรอยเป็นหมูถูกกฎหมายออกมาจำหน่ายโดยมีใบรับรองของกรมปศุสัตว์ หน่วยงานใดที่เป็นผู้รับผิดชอบอย่างชัดเจน และ 5.ทำไมกรมปศุสัตว์ยังไม่ส่งเอกสารแจ้งการทำลายซากหมูเถื่อนให้ดีเอสไอในฐานะผู้ดูแลของกลาง