“นิด้าโพล”เผยผลสำรวจ เรื่อง การเมือง เศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตในปี 67 เชื่อรัฐบาล “เศรษฐา”จะอยู่ยาวเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชนจะดีขึ้น
เมื่อวันที่ 7 ม.ค.67 ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “การเมือง เศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตในปี 2567” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 12-20 ธันวาคม 2566 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการเมือง เศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตในปี 2567 การสำรวจอาศัย
การสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน(Multi-stage Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0
จากการสำรวจเมื่อถามความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองไทยโดยทั่วไป ในปี 2567 เมื่อเทียบกับปี 2566 พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 45.65 ระบุว่า สถานการณ์ทางการเมือง จะวุ่นวายเหมือนเดิม รองลงมา ร้อยละ 28.40 ระบุว่า สถานการณ์ทางการเมือง จะวุ่นวายมากขึ้น ร้อยละ 14.34 ระบุว่า สถานการณ์ทางการเมือง จะวุ่นวายน้อยลง ร้อยละ 6.95 ระบุว่า สถานการณ์ทางการเมือง จะไม่วุ่นวายเลย และร้อยละ 4.66 ระบุว่า เฉย ๆ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
ด้านความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับรัฐบาลนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ในปี 2567 พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 39.16 ระบุว่านายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสินจะอยู่ยาวตลอดทั้งปี รองลงมา ร้อยละ 20.46 ระบุว่า รัฐบาลนายกเศรษฐา ทวีสินจะมีการปรับคณะรัฐมนตรี ร้อยละ10.61 ระบุว่า จะมีการยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ ร้อยละ 8.40 ระบุว่า นายกรัฐมนตรีเ ศรษฐา ทวีสินจะลาออก ร้อยละ 7.86 ระบุว่า นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน จะเปิดทางให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีแทน ร้อยละ 6.79 ระบุว่า จะเกิดความแตกแยกในพรรคร่วมรัฐบาล และทำให้รัฐบาลล่ม ร้อยละ 4.20 ระบุว่า นายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสินจะโดนชุมนุมขับไล่ ทำให้ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ร้อยละ 2.14 ระบุว่า นายกเศรษฐา ทวีสินจะโดนคดีความทางการเมืองจนต้องหลุดจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ร้อยละ 1.83 ระบุว่า รัฐบาลนายกเศรษฐา ทวีสิน จะโดนรัฐประหาร และร้อยละ 16.11 ระบุว่า เฉย ๆ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
สำหรับความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจไทย ในปี 2567 เมื่อเทียบกับปี 2566 พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 35.65 ระบุว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจ จะดีขึ้น รองลงมา ร้อยละ 31.22 ระบุว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจ จะแย่เหมือนเดิม ร้อยละ 17.33 ระบุว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจ จะแย่ลง ร้อยละ 13.66 ระบุว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจ จะดีเหมือนเดิม และร้อยละ 2.14 ระบุว่า เฉย ๆ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
ท้ายที่สุดเมื่อถามความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับคุณภาพชีวิตโดยทั่วไปในสังคมไทย ในปี 2567 เมื่อเทียบกับปี 2566 พบว่าตัวอย่าง ร้อยละ 31.98 ระบุว่า คุณภาพชีวิตโดยทั่วไปของคนในสังคมไทย จะดีขึ้น รองลงมา ร้อยละ 31.76 ระบุว่า คุณภาพชีวิตโดยทั่วไปของคนในสังคมไทย จะแย่เหมือนเดิม ร้อยละ 18.17 ระบุว่า คุณภาพชีวิตโดยทั่วไปของคนในสังคมไทย จะแย่ลง ร้อยละ 16.18 ระบุว่าคุณภาพชีวิตโดยทั่วไปของคนในสังคมไทย จะดีเหมือนเดิม และร้อยละ 1.91 ระบุว่า เฉย ๆ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ