“วราเทพ” เชื่อ พิจารณา พ.ร.บ.ในชั้นกรรมาธิการคล่องตัว เหตุส่วนใหญ่เคยเป็น กมธ.มาแล้ว คาด ไม่มีอุบัติเหตุใดๆ
เมื่อวันที่ 7 ม.ค.67 ที่หอประชุมเทศบาลเมืองวิเชียรบุรี (หลังใหม่) บริเวณศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ นายวราเทพ รัตนากร ผู้อำนวยการพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ให้สัมภาษณ์ถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ว่า ในฐานะที่ตนได้รับมอบหมายจากพรรคพลังประชารัฐให้เข้าไปเป็นกรรมาธิการฯ อย่างที่ทราบว่าปีนี้งบประมาณช้ามากว่า 3 เดือน ซึ่งต้องใช้เวลาในการพิจารณาในชั้นกรรมาธิการฯ อีกประมาณ 2 เดือนเศษ ที่เป็นห่วงตอนนี้คือ การพิจารณาจะต้องเป็นไปอย่างรอบคอบ แต่ก็ต้องรวดเร็วกว่าทุกปี
ดังนั้น คงต้องมีการประสานกับฝ่ายค้านในเรื่องของการกำหนดวันเวลาพิจารณา ปกติจะมีการพิจารณาทุกวันอยู่แล้ว ยกเว้นถ้าไม่ทันจะเพิ่มวันพิจารณาในช่วงเสาร์อาทิตย์ ซึ่งขึ้นอยู่กับการหารือ ในการประชุมกรรมาธิการฯ นัดแรกในวันที่ 8 ม.ค.นี้ ย้ำว่า สิ่งที่เป็นห่วงตอนนี้ ด้วยงบประมาณที่ล่าช้า ประกอบกับมีงบประมาณ ปี 68 ที่กำลังตามมา โดยตามกฏหมายรัฐธรรมนูญ 105 วันในการที่จะส่งมาให้สภาให้แล้วเสร็จ น่าจะประมาณต้นเดือนเม.ย. คิดว่าคงไม่มีปัญหาเรื่องอุบัติเหตุใดๆ ที่จะทำให้การพิจารณางบประมาณไม่ผ่านชั้นกรรมาธิการฯ เพราะถ้าการพิจารณาไม่ผ่านภายในระยะเวลาที่กำหนดก็ต้องกลับไปใช้ร่างเดิม นั่นหมายถึงจะไม่มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอะไรเลย อย่างไรก็ตาม เท่าที่ดูกรรมาธิการฯชุดนี้ ส่วนใหญ่เกือบครึ่งหนึ่งเคยเป็นกรรมาธิการงบประมาณมาแล้ว ซึ่งจะทราบระบบการพิจารณากฎหมายดี ก็อาจจะทำให้การพิจารณางบประมาณคล่องตัวขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า การพิจารณางบประมาณ ปี 68 ที่ขี่กันอยู่ จะเข้าสู่สภาได้ช่วงไหน นายวราเทพ กล่าวว่า โดยปฏิทินงบประมาณแล้ว ถ้าเป็นระยะเวลาปกติไม่มีการเลือกตั้งมาคั่น ก็จะเข้าสภาผู้แทนราษฎรประมาณ มิ.ย.-ก.ค. คาดว่ากำลังอยู่ในช่วงของการพิจารณารายละเอียดในส่วนของราชการอยู่ คิดว่าจะเสนอเข้ามาได้ทัน และไม่คิดว่าจะมีผลกระทบในเรื่องของเวลา ทุกอย่างเป็นไปตามปฏิทินปกติ
นายวราเทพ ยังให้สัมภาษณ์ถึงยุทธศาสตร์ในการเดินหน้าทางการเมืองของพรรคพลังประชารัฐว่า กิจกรรมที่ จ.เพชรบูรณ์ครั้งนี้ จะเห็นชัดเจนว่าเป็นดำริของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่จัดมีกิจกรรมพรรคพลังประชารัฐสัญจรขึ้นมา ถือเป็นครั้งแรก และจะมีต่อๆ ไป อาจจะมีเว้นเดือนหรือเป็นไตรมาส ซึ่งอยู่ที่ประเด็น หรือหัวข้อ รวมถึงความพร้อมในพื้นที่ เบื้องต้นโปรแกรมที่คิดไว้คงจะไปแต่ละภาคก่อน วันนี้มาภาคเหนือ ครั้งต่อไปอาจจะเป็นภาคกลางหรือภาคอีสาน ทั้งนี้ การไปจัดกิจกรรมพรรคพลังประชารัฐสัญจร ไม่ได้ยึดหลักว่าจะต้องไปในพื้นที่ที่มีสส.ยกจังหวัด อาจจะไปในพื้นที่ที่เราไม่มีสส.เลยก็ได้ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีผู้สมัครที่เข้มแข็ง หรือได้อันดับสอง ซึ่งมีหลายจังหวัดที่แพ้คะแนนไปหลักร้อยหลักพัน ซึ่งตอนนี้เขามีกิจกรรมทำอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งพรรคจะเข้าไปช่วยสนับสนุน ซึ่งยุทธศาสตร์ที่เราจะเดินตอนนี้ คือ การเดินพบปะประชาชน ชี้แจงทำความเข้าใจนโยบายที่เราได้หาเสียงไว้ เพราะวันนี้มีหลายนโยบายที่เราหาเสียงไว้ และมีผลเป็นรูปธรรม อย่างเช่น เปลี่ยนส.ป.ก. เป็นโฉนด ส.ป.ก. ซึ่งจะเป็นการนำร่องและยังมีอีกหลายนโยบายตามมา
“วันนี้ก็เห็นอยู่ว่ามากันเยอะ ไม่มีปัญหาอะไร หัวหน้าพรรคก็กำลังใจดีและมีสุขภาพแข็งแรง การเมืองก็เป็นแบบนี้ ในเรื่องของวัฏจักรก็มีการเคลื่อนไหวในช่วงของแต่ละจังหวะเวลา ก็แล้วแต่คนจะมองและคาดเดาไปเอง แต่ตนยังเชื่อมั่นว่า ด้วยความมุ่งมั่นของหัวหน้าพรรคที่ผมได้ร่วมทำงานมามีกำลังใจที่จะทำงานต่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังปีใหม่มาหัวหน้าพรรคสุขภาพดีขึ้นมาก”นายวราเทพ กล่าว