ฉลุย!สว.ไฟเขียวเห็นชอบ 5 ตุลาการศาลปกครองสูงสุด ด้าน “หมอเฉลิมชัย” ชวางสว.ใหม่ชิงเลือกก่อน หวั่นถูกแทรกแซง ขอเคลียร์ข้อกฎหมายก่อนลงมติเลือก
วันที่ 15 ม.ค.2567 ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลปกครองสูงสุด จำนวน 5 คน โดยคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมฯ ได้พิจารณาตรวจสอบ พร้อมจัดทำรายงานเสนอต่อที่ประชุมวุฒิสภาแล้วเสร็จ ทั้งนี้ก่อนที่ลงมติได้ประชุมลับ
โดยเป็นการประชุมลับและลงคะแนนลับ คือ นางพรทิภา ไสวสุวรรณวงศ์ ได้รับเสียงเห็นชอบ 182 ต่อ 4 เสียง ไม่ออกเสียง 3 เสียง นายวรวิทย์ สุขบุญ ได้รับเสียงเห็นชอบ 158 ต่อ 22 เสียง ไม่ออกเสียง 9 เสียง นายเชิดชู รักตะบุตร ได้รับเสียงเห็นชอบ 173 ต่อ 11 เสียง ไม่ออกเสียง 5 เสียง นายบุญเสริม นาคสาร ได้รับเสียงเห็นชอบ 169 ต่อ 14 เสียง ไม่ออกเสียง 6 เสียง นายสมฤทธิ์ ไชยยวงค์ ได้รับเสียงเห็นชอบ 172 ต่อ 10 เสียง ไม่ออกเสียง 7 เสียง เป็นอันว่าทั้ง 5 คนได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมวุฒิสภาด้วยเสียงข้างมาก ถือว่าได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลปกครองสูงสุด
ทั้งนี้ก่อนที่วุฒิสภาจะประชุมลับ ได้เปิดให้สมาชิกแสดงความคิดเห็นโดยนพ.เฉลิมชัย เครืองาม สว. ตั้งคำถามถึงอำนาจของสว. ต่อการพิจารณาให้ความเห็นชอบตุลาการศาลปกครองสูงสุดหรือไม่ เนื่องจากรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ในบทบัญญัติที่เกี่ยวข้อง ไม่ได้กำหนดถ้อยคำที่ชัดเจนให้อำนาจวุฒิสภาดำเนินการ มีเพียงว่า เป็นไปตามกฎหมายบัญญัติ ซึ่งต่างจากบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540 และ พ.ศ.2550 ที่กำหนดไว้ชัดเจนว่าส่งให้วุฒิสภาเห็นชอบ อย่างไรก็ตามในกระบวนการได้มาซึ่งตุลาการศาลปกครอง ที่เป็นไปตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีศาลปกครอง พ.ศ.2542 นั้น ได้ออกตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540 แม้ที่ผ่านมจะแก้ไขหลายครั้ง แต่ในกระบวนการนั้นไม่พบการแก้ไขให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญปัจจุบันที่ไม่มีข้อความส่งให้วุฒิสภาเห็นชอบ
“ดังนั้นในกรณีที่ สว.ชุดใหม่เข้ามาทำหน้าที่ อาจมีประเด็นเกิดขึ้น เพราะสว.อาจถูกมองว่ามาจากพรรคการเมืองหรือฝ่ายการเมือง ซึ่งอาจเกิดการแทรกแซงขึ้นได้”นายเฉลิมชัย กล่าว
ขณะที่นางกาญจนารัตน์ ลีวิโรจน์ สว. ชี้แจงว่า โดยหลักการตุลาการศาลปกครอง และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เป็นผู้ใช้อำนาจพิจารณาข้อโต้แย้งระหว่างรัฐกับเอกชน ใช้อำนาจชี้ขาดการใช้อำนาจของรัฐ ต้องผ่านการกลั่นกรองและเห็นชอบจากองค์กรต่างๆ แม้การได้มาซึ่งตุลาการศาลปกครอง ตามรัฐธรรมนูญ 2560 ไม่ได้ระบุว่าต้องผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภา และต่างจากรัฐธรรมนูญ 2540 และ 2550 แต่หลักการดังกล่าวไม่ได้หายไป เพราะยังกำหนดว่าให้เป็นไปตามที่กฎหมายที่เกี่ยวข้อง แม้ถ้อยคำของรัฐธรรมนูญปัจจุบันต่างจากรัฐธรรมนูญฉบับที่ผ่านมา แต่ไม่ได้ทำให้หลักการเปลี่ยนไปหรือหายไป เพราะมีอยู่ตรงวรรคท้าย ว่า อยู่ที่กฎหมายบัญญัติ กฎหมายว่าด้วยวิธีการจัดตั้งศาลฯ มาจากรัฐธรรมนูญ ถือว่าคงหลักการเดิม เพราะตุลาการศาลปกครองถือเป็นผู้ใช้อำนาจวิจิจฉัยชี้ขาดอำนาจของรัฐต้องผ่านการตรวจสอบและเห็นชอบจากองค์กรที่กำหนดไว้ ส่วนที่มองว่า พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครอง แก้ไขเพิ่มเติมมหลายครั้ง แต่พบว่าไม่ได้แก้ไขในหลักการประเด็นดังกล่าว และยังคงยืนยันหลักการการใช้อำนาจของสว.ที่ต้องเห็นชอบว่าไม่ได้ผิด หรือเกินเลยไป