“สภาฯ” เห็นตรงกันเลื่อนญัตติตั้งกมธ.ศึกษานิรโทษฯ พรุ่งนี้ ขณะที่ “ก้าวไกล” แฉวางสัดส่วนกรรมาธิการฯไม่ปกติ เสนอให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม เร่งทำให้เร็วที่สุด
วันที่ 31 ม.ค.2567 เวลา 10.40 น.ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯคนที่ 2 เป็นประธานการประชุม หลังเปิดโอกาสให้สมาชิกหารือถึงปัญหาความเดือดร้อนเสร็จสิ้น นายศรัญย์ ทิมสุวรรณ สส.เลย พรรคเพื่อไทย ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือวิปรัฐบาล เสนอขอเปลี่ยนระเบียบวาระการประชุม ให้นำญัตติเรื่องขอให้สภาฯตั้งคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญเพื่อศึกษาการออกกฎหมายนิรโทษกรรม ขึ้นมาพิจารณาต่อจากกระทู้ทั่วไปในการประชุมสภาฯวันที่ 1 ก.พ. โดยมีเหตุผลและความจำเป็น เนื่องจากขณะนี้หลายฝ่ายให้ความสนใจไม่ว่าจะในสภาฯ นอกสภาฯ หรือภาคประชาชน ขณะเดียวกันสิ่งที่หลายฝ่ายกำลังคุยกันก็มีความเห็นที่แตกต่าง แต่ทุกฝ่ายที่เห็นว่าควรจะมีกฎหมายนิรโทษกรรมเกิดขึ้นนั้นมีความเห็นที่ยังแตกต่างกันในหลายประเด็น ทางรัฐบาลและผู้เสนอญัตติ จึงมองว่าการที่จะให้ใช้พื้นที่สภาฯ เป็นพื้นที่กลางในการพูดคุย อย่างน้อยๆให้ทุกคน ทุกกลุ่ม ที่ต้องการจะเสนอกฎหมาย ได้มีพื้นที่มาคุยกัน จะได้ทำให้เราสามารถผลักดันกฎหมายให้เกิดขึ้นจริง และสามารถหาจุดร่วมกันได้
ด้านนายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ไม่ว่าผู้เห็นต่างทางการเมือง ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการถูกดำเนินคดี ถึงเวลาที่สังคมไทยต้องทบทวนการทำกฎหมายนิรโทษกรรม แต่เมื่อพิจารณาจากที่มีการเผยแพร่ออกมา มีเนื้อหาใกล้เคียงกัน 3 เรื่อง คือร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก่บุคคลซึ่งได้กระทำความผิดอันเนื่องมาจากเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง พ.ศ. นำเสนอโดยนายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กับคณะ 2.ร่างพ.ร.บ.ที่เกี่ยวเนื่องกับการนิรโทษกรรม จากผู้แทนของพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ประธานสภาฯ รับไว้แล้ว และ3. ภาคประชาชนและไอลอว์ จะเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ในเดือน ก.พ. ซึ่งในทางกฎหมาเวทีสภาฯ เป็นเวทีที่มาพูดคุยกัน ตนเชื่อมั่นว่าเรามีความพร้อมที่จะมีการพูดคุย และเชื่อมั่นว่าท้ายที่สุดจะนำไปสู่การออกกฏหมายนิรโทษกรรม
“ดังนั้นเพื่อให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น หากมีการเลื่อนญัตติ ก็เชื่อมั่นว่าสภาฯน่าจะมีการรับหลักการ และนำไปสู่การตั้งกมธ.วิสามัญฯ แต่คนที่ติดคุก และคนที่มีผลกระทบอาจจะรอไม่ได้ จึงขอให้เร่งดำเนินการ มีกรอบระยะเวลาในการพิจารณาญัตติ มีเป้าหมายที่ชัดเจนว่าจะนำไปสู่สังคมที่กลับคืนสู่ระบบปกติ ผมก็เห็นด้วยที่จะให้มีการเลื่อนญัตติ และเห็นตรงกันว่าหากมีการพิจารณาอย่างรวดเร็วนำไปสู่การตั้งกมธ.วิสามัญฯ และขอให้เกิดพื้นที่ให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม เพราะมีข่าวมาว่า การจัดสรรที่นั่งในกมธ.วิสามัญฯสัดส่วนไม่เป็นไปตามปกติที่ควรจะเป็น จึงขอให้จัดสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน หากไม่เป็นแบบนั้นก็ต้องมาทบทนอีกทีว่าจะเอาอย่างไร”นายณัฐวุฒิ กล่าว
ขณะที่นายพิเชษฐ์ ชี้แจงว่า เรื่องสัดส่วนกมธ.วิสามัญฯ ที่จะเกิดขึ้น ถ้าอยากจะให้ผู้มีส่วนร่วมมากขึ้น ก็ขอให้วิปทั้งสองฝ่ายได้พูดคุยกัน เพราะสามารถเพิ่มจำนวนได้ ดังนั้นการเลื่อนญัตติดังกล่าวถือว่าไม่มีผู้ใดขัดข้อง